สำหรับความสำเร็จของ App Store นักวิเคราะห์ Munster ได้จัดทำสถิติที่น่าสนใจ เพื่อแจกแจงให้เห็นว่า มันมีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้โมเดลธุรกิจของ Apple แข็งแรงขึ้น โดยสามารถแยกแยะออกเป็นประเด็นต่างๆ ดังนี้
ความต้องการแอพฯมากขึ้น: เฉลี่ยแล้วเจ้าของอุปกรณ์ iOS จะดาวน์โหลด 83 แอพฯต่อเครื่องในปี 2011 เทียบกับ 51 แอพฯในปี 2010 หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มันเพิ่มขึั้นถึง 61% เลยทีเดียว "ผู้ใช้สมาร์ทโฟนต้องการใช้แอพฯ เพื่อเพิ่มคุณสมบัติการทำงานให้กับมือถือของพวกเขา ซึ่ง iOS เป็นผู้นำในระบบนิเวศน์ของแอพฯ"
ซื้อแอพฯที่มีราคาแพงขึ้น: ราคาขายเฉลี่ยต่อแอพฯ เพิ่มขึ้น 14% ในปี 2011 เทียบกับลดลงไป 18% ในปี 2010 "ประเด็นที่น่าสนใจ เราพบว่า ผู้ใช้ยอมจ่ายมากขึ้น ในการที่จะเพิ่มคุณสมบัติ และเกมส์ต่างๆ เข้าไปในอุปกรณ์ iOS" กล่าวโดยสรุปคือ แม้ราคาจะแพงขึ้น แต่ผู้ใช้ยังรู้สึกถึงความจำเป็น และยินดีที่จะซื้อแอพฯในราคาดังกล่าว
แอพฯที่มีมากกว่า Android: ปัจจุบัน App Store ของ Apple มีแอพฯไว้คอยให้บริการมากกว่า 425,000 รายการ ในขณะที่ Android Market อยู่ที 200,000 รายการ และเมื่อเดือนพ.ค.ที่ผานมา Google ประกาศว่า มียอดดาวน์โหลดแอพฯ 4.5 พันล้านครั้ง เทียกบับแอปเปิ้ล 15 พันล้านครั้ง เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม
ฟรีแอพฯมากมาย: แอพพลิเคชันมากกว่า 82% ที่อยู่ใน App Store เป็นของฟรี ในขณะที่ประมาณ 18% เป็นแอพพลิเคชันที่จำหน่ายในราคาเฉลี่ย 1.44 เหรียญฯ (ประมาณ 45 บาท) สำหรับราคาเฉลี่ยของแอพฯที่สูงขึ้นเป็นผลมาจากราคาแอพฯบน iPad ที่แพงกว่า อีกทั้งยังเป็นอุปกรณ์ทีช่วยให้ยอดการดาวน์โหลดเติบโตขึ้นอย่างชัดเจนอีกด้วย
ในส่วนของรายได้จาก App Store คิดเป็น 1% ของรายได้รวมของบริษัท แต่หากปราศจาก App Store บริษัท Apple ก็คงจะไม่สามารถขาย iPhone และ iPad ได้เร็วเท่าที่มันสามารถทำได้วันนี้
เว็บไซต์ในข่าว: Apple
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=413977