[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] หลังจากที่ศาลได้มีการออกคำสั่งให้ไมโครซอฟท์เลิกจำหน่าย และห้ามนำเข้าซอฟต์แวร์ Word ในสหรัฐฯ ภายใน 60 วัน ล่าสุดทางผู้พิากษาได้เสนอทางออกให้กับบริษัทสำหรับคดีฟ้องร้องประเด็นการละเมิดสิทธิบัตรในครั้งนี้ว่า จะเลือกวิธีจ่ายค่าไลเซนส์สำหรับการใช้เทคโนโลยี XML กับไฟล์เอกสารที่พบในโปรแกรม Word หรือแก้ไขให้โปรแกรม Word ไม่มีฟังก์ชันดังกล่าว
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางใด มันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับไมโครซอฟท์ทั้งสิ้น ผู้พิพากษา Leonard Davis ที่เป็นผู้ตัดสินคดีนี้ให้กับบริษัท i4i ได้ยื่นข้อเสนอว่า ไมโครซอฟท์จะยังคงสามารถจำหน่ายโปรแกรม Word ในสหรัฐฯ ได้ต่อไป แต่ห้ามให้มีการใช้เทคโนโลยี XML ในไฟล์เอกสาร ซึ่งนั่นหมายความว่า ไมโครซอฟท์จะต้องทำแพตช์ (patch) ของโปรแกรม Word ออกมา เพื่อตัดทอนการทำงานในส่วนของไฟล์เอกสารทีมีการปรับแต่งให้ใช้ฟอร์แมต XML (.XML, .DOCX และ .DOCM) หรือจะให้ Word เลือกใช้ไฟล์ข้อความธรรมดา (plain text) แทนการใช้ไฟล์ฟอร์แมตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของผู้พิพากษา Dadvid และมีแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ไมโครซอฟท์ต้องต่อสู้อย่างถึงที่สุดในเรื่องนี้ เนื่องจากว่า ชุดโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศทำเงินให้กับบริษัทมากถึง 3 พันล้านเหรียญฯ เมื่อปีที่ผ่านมา หากไมโครซอฟท์แพ้ต่อคดี และไม่เลือกที่จะทำแพตช์ หรือเลิกจำหน่าย Word ในอเมริกา คำตอบสุดท้ายที่ง่ายที่สุดก็คือ จ่ายค่าไลเซนส์สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับบริษัท i4i
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409754
Site : www.it4x.com
แต่ไม่ว่าจะเลือกทางใด มันก็ไม่ได้เป็นผลดีกับไมโครซอฟท์ทั้งสิ้น ผู้พิพากษา Leonard Davis ที่เป็นผู้ตัดสินคดีนี้ให้กับบริษัท i4i ได้ยื่นข้อเสนอว่า ไมโครซอฟท์จะยังคงสามารถจำหน่ายโปรแกรม Word ในสหรัฐฯ ได้ต่อไป แต่ห้ามให้มีการใช้เทคโนโลยี XML ในไฟล์เอกสาร ซึ่งนั่นหมายความว่า ไมโครซอฟท์จะต้องทำแพตช์ (patch) ของโปรแกรม Word ออกมา เพื่อตัดทอนการทำงานในส่วนของไฟล์เอกสารทีมีการปรับแต่งให้ใช้ฟอร์แมต XML (.XML, .DOCX และ .DOCM) หรือจะให้ Word เลือกใช้ไฟล์ข้อความธรรมดา (plain text) แทนการใช้ไฟล์ฟอร์แมตดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ไมโครซอฟท์ได้ออกมาประกาศว่า ทางบริษัทไม่เห็นด้วยต่อคำตัดสินของผู้พิพากษา Dadvid และมีแผนที่จะยื่นอุทธรณ์ ซึ่งไม่น่าแปลกใจที่ไมโครซอฟท์ต้องต่อสู้อย่างถึงที่สุดในเรื่องนี้ เนื่องจากว่า ชุดโปรแกรมไมโครซอฟท์ออฟฟิศทำเงินให้กับบริษัทมากถึง 3 พันล้านเหรียญฯ เมื่อปีที่ผ่านมา หากไมโครซอฟท์แพ้ต่อคดี และไม่เลือกที่จะทำแพตช์ หรือเลิกจำหน่าย Word ในอเมริกา คำตอบสุดท้ายที่ง่ายที่สุดก็คือ จ่ายค่าไลเซนส์สำหรับเทคโนโลยีดังกล่าวให้กับบริษัท i4i
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409754
Site : www.it4x.com