Facebook App Center จะมีกำหนดการเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในอีกสองสามสัปดาห์ข้างหน้า โดยจะเป็นหนึ่งในส่วนของการเตรียมการก่อนถึงวันเปิด IPO (Initial Public Offering) ที่คาดว่ามูลค่าจะอยู่ระหว่าง 77 - 96 พันล้านเหรียญฯ อย่างไรก็ตาม ความกังวลของนักลงทุนในขณะนี้ก็คือ การเติบโตของรายได้ที่ช้าลงของเฟซบุ๊ก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้บริการเฟซบุ๊กบนสมาร์ทโฟน ซึ่งมีข้อจำกัดในเรื่องของการโฆษณา แม้จะให้ผลดีกับเฟซบุ๊กในแง่ยูสเซอร์ทีเพิ่มขึ้นในแต่ละวันเร็วขึ้น แต่ในทางกลับกันโฆษณาที่ส่งให้กับลูกค้าผู้ใช้บริการบนสมาร์ทโฟนกลับไม่ทันต่อโอกาสของธุรกิจ ทั้งนี้ เฟซบุ๊กอธิบายว่า จำนวนของโฆษณาบนอุปกรณ์โมบายที่เพิ่งเริ่มให้บริการกับผู้ใช้เมื่อเร็วๆ นี้ ไม่ใช่ส่วนสำคัญ (ในการสร้างรายได้) ถ้าอย่างนั้น แล้วอะไรสำคัญกว่าโฆษณาล่ะ? ที่่ผ่านมาเฟซบุ๊กพยายามหาวิธีสร้างรายได้ที่หลากหลายตังแต่โฆษณาออนไลน์ไปจนถึงการเก็บเงินจากผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าภายในโซเชียลแอพฯ อย่างเช่น Farmville ของ Zynga
Facebook App Center จะเป็นครั้งแรกที่ทางบริษัทจะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถขายแอพฯ กับผู้บริโภคที่เป็นสมาชิกของเฟซบุ๊กได้โดยตรง โดยผู้ใช้จะสามารถซื้อแอพฯ ได้ด้วย Facebook Credits ระบบชำระค่าสินค้า และบริการของเฟซบุ๊ก ทั้งนั้ เฟซบุ๊กจะชาร์จรายได้ประมาณ 30% จาก In-app purchase ของนักพัฒนา สำหรับแอพฯ ที่จะมีให้บริการใน App Center จะมีตั้งแต่โซเชียลเกมส์ไปจนถึงบริการเพลง ซึ่งทั้งสองส่วนนี้เป็นบริการยอดฮิตบนเฟซบุ๊ก ข้อมูลจากบริษํทระบุว่า มีแอพฯมากกว่า 200 ตัวบนเฟซบุ๊กที่มีผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านราย Facebook App Center จะเปิดให้บริการแอพฯ ที่ออกแบบเพื่อใช้งานบนพีซี และโมบายอย่างเช่น iPhone และสมาร์ทโฟน Android อย่างไรก็ตาม หากแอพฯ ที่ผู้ใช้บริการต้องการมีการติดตั้งบนอุปกรณ์โมบาย Facebook จะส่งลูกค้ารายนั้นๆ ไปยัง App Store ของ Apple หรือ Play Store ของ Google เพื่อดาวน์โหลดแอพฯ ดังกล่าว
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=415202