ในขณะที่ผลกระทบของการใช้ช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยบนคอมพิวเตอร์ แฮคเกอร์ และผู้ไม่หวังดีสามารถเข้าโจมตีผ่านเน็ตได้ แต่ช่องโหว่ที่พบในระบบซอฟต์แวร์ของรถยนต์ ซึ่งในทางทฤษฎีมันอาจหมายถึงการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวในการขโมยรถยนต์ของคุณได้ ลอบฟังสายสนทนาของผู้ขับขี่รถยนต์ หรือแม้แต่ป่วนระบบนำร่องการเดินทาง (navigator system) จนทำให้เกิดอุบัติเหตุในการขับขี่รถยนต์ได้ การศึกษาของทีมงานได้มีการพิสูจน์แล้วด้วยว่า ในทางทฤษฎีมันเป็นไปได้ที่จะแฮคระบบการแจ้งเตือนในรถยนต์ และปรับเปลี่ยนแรงดันลมยางไปจนถึงกันไม่ให้คุณสามารถเบรครถยนต์ที่กำลังขับได้...โอ้ว...มายก๊อด
อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ยังไม่มีรายงานว่า พบการโจมตีระบบคอมพิวเตอร์ซอฟน์แวร์ในรถยนต์ด้วยไวรัสแต่อย่างใด แต่ถึงกระนั้น แมคอาฟี่ยังคงเดินหน้าด้วยการเตรียมทีมงานให้ศึกษาเรื่องดังกล่าว เพื่อค้นหาวิธีป้องกันให้กับเทคโนโลยีสายพันธุ์ใหม่ที่ถูกยัดเยียดเข้าไปในรถยนต์ โดยผู้บริหารฝ่ายระบบรักษาความปลอดภัยให้กับรถยนต์ และยานพาหนะของแมคอาฟี่กล่าวว่า ผู้ผลิตรถยนต์ต่างให้ความกังวลกันพอสมควรเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ระบบการทำงานของรถยนต์จะถูกโจมตีผ่านทางช่องโหว่ อืม...น่าคิดนะครับ หากสมาร์ทโฟนที่ติดไวรัสสามารถแทรกตัวเองผ่านเข้าไปทางด็อคของรถยนต์หรู แล้วเข้าไปหยุดระบบเบรค หรือแม้แต่แอบฟังสายโทรศัพท์ของคุณ แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือ ป่วนระบบนำร่องจนคุณขับผิดทิศผิดทางจนเกิดอุบัติเหตุ...น่ากลัวจริงๆ ด้วยสิ
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=415475