การเปิดตัว Kindle Fire รุ่นที่ใหญ่กว่าเดิมยังเป็นการตัดหน้าชิงเปิดตัวก่อน และขี่กระแสความสนใจใน iPad Mini ของ Apple อีกต่างหาก โดยขนาดของหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นจะอยู่ที 8.6 นิ้ว (ตามแนวเส้นทะแยงมุม) ใหญ่กว่าเดิมที่ 7 นิ้ว และเล็กกว่า iPad ที่มีขนาด 9.7 นิ้ว สำหรับสเป็กของ iPad mini ทีมีการคาดการณ์กันนั้น มันจะมีหน้าจออยู่ที่ 7.85 นิ้ว ซึ่งไม่แน่เหมือนกันว่า ในวันที่ 12 กันยายน ศกนี้ ทาง Apple จะเปิดตัว iPad Mini ด้วย หลังจากเปิดตัว iPhone 5 (หรือ new iPhone) ด้วย หรือไม่ จากงานเปิดตัวเมื่อวานนี้ชัดเจนว่า แอมะซอนกำลังเปิดเกมรุกในสงครามแท็บเล็ตกับ iPad ของ Apple อย่างเต็มสูบด้วยการขายแท็บเล็ตที่บางเบากว่า และมีราคาต่ำกว่า เพื่อให้อุปกรณ์เหล่านี้แพร่หลายไปยังผู้บริโภคให้มากที่สุด โดยหวังให้มันเป็นตัวผลักดันให้ยอดขายสินค้าดิจิตอลเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นกลยุทธ์การแข่งขันด้วยสินค้าราคาถูกตามที่แอมะซอนถนัด และเป็นจุดแข็งที่ใช้ต่อกรกับ Apple ได้เป็นอย่างดี
สำหรับ Kindle Fire รุ่นพื้นฐานที่มีขนาดหน้า 7 นิ้วจะมีราคาแค่ 159 เหรียญฯ (ประมาณ 4,800 บาท) จากที่เคยเปิดตัวรุ่นแรกด้วยราคา 199 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) โดยทางบริษัทจะเริ่มวางตลาดในวันนี้ ซึ่งหากเทียบกับ iPad ของ Apple ที่ราคาถูกสุดอยู่ที่ 399 เหรียญฯ (ประมาณ 12,000 บาท) และรุ่นล่าสุดมีราคาเริ่มต้นที่ 499 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 บาท) นอกจาก Kindle Fire รุ่นพื้นฐานแล้ว ทางบริษัทยังเปิดตัว Kindle Fire HD ที่มาพร้อมกับจอแสดงผล 7 นิ้วที่ละเอียดขึ้นสำหรับชมภาพยนตร์ HD และช่องสัญญาณ Wi-Fi สองช่อง เพื่อการถ่ายโอนไฟล์ขนาดใหญ่ที่เร็วขึ้น ในส่วนของรุ่น HD จะมีสตอเรจมากกว่าอีกด้วย แถมยังมีกล้องหน้าสำหรับ chat อีกต่างหาก โดยเริ่มต้นที่ 16GB เทียบกับ 6GB สำหรับ Kindle Fire รุ่นแรก และเท่ากับ iPad ที่เริ่มต้นสตอเรจที่ 16GB สนนราคาของ Kindle Fire HD จะมีราคาอยู่ที่ 199 เหรียญฯ (ประมาณ 6,000 บาท) และเริ่มวางตลาดศุกร์หน้า (14 ก.ย. 2012) นอกจากนี้ Kindle Fire HD ทีมีหน้าจอใหญ่ขึ้นเป็น 8.9 นิ้วจะมีราคาอยู่ที่ 299 เหรียญฯ (ประมาณ 9,000 บาท) จะเริ่มวางตลาดในวันที่ 20 พฤศจิกายน ศกนี้ โดยเฉพาะ Kindle Fire HD รุ่น 8.9 นี้ว นอกจากจะมีขนาดหน้าจอเท่าๆ กับ iPad แล้ว มันยังมีราคาที่ถูกกว่าถึง 100 เหรียญฯ (ประมาณ 3,000 บาท) อีกด้วย ยังไม่หมดเท่านี้ แอมะซอนยังเปิดตัว Kindle Fire HD รุ่นพรีเมี่ยมที่สามารถเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีเครือข่ายโมบายความเร็วสูง 4G อีกด้วย โดย Kindle Fire รุ่นนี้จะมีราคาสูงสุดคือ 499 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 บาท) และมาพร้อมกับสตอเรจ 32GB หน้าจอแสดงผลขนาด 8.9 นิ้ว ค่าบริการข้อมูล 50 เหรียญฯ ต่อปี
นอกจากการเปิดตัว Kindle Fire รุ่นใหม่พร้อมกัน 4 รุ่นแล้ว Amazon ยังอัพเดทผลิตภัณฑ์ในสายเครื่องอ่านอีบุ๊ก (e-reader) อีกด้วย โดยเรียกพวกมันใหม่ว่า Kindle Paperwhite ซึ่งเครื่องอ่านอีบุ๊กหน้าจอขาวดำที่ใช้เทคโนโลยีอีอิงค์นั้น Jeff Bezos ซีอีโอของแอมะซอนกล่าวว่า มันจะมีความคอนทราสเพิ่มขึ้นอีก 25% โดยส่วนของหน้าจอที่ขาวจะขาวกว่าเดิม และส่วนที่เป็นสีดำก็จะยิ่งดำกว่าเดิมด้วย เนื่องจาก Paperwhite จะมีแหล่งที่ให้แสงสว่างของมันเองอีกด้วย Bezos กล่าวว่า Paperwhite จะใช้อ่านหนังสือได้อย่างดีเยี่ยม (เหมือนกระดาษจริงมากขึ้น) ภายใต้แสงธรรมชาติ ในขณะที่แท็บเล็ตอย่าง iPad และ Fire จะไม่เหมาะกับการอ่านในที่แสงธรรมชาติ เนื่องจากพวกมันมีการส่องสว่างของแสงด้านหลังหน้าจอ (Backlit) สำหรับ Paperwhite จะมีการให้แสงสว่างลงไปโดยตรงที่หน้าจอ โดยสามารถใช้งานได้นาน 8 สัปดาห์ (ประมาณสองเดือน) ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง แม้จะเปิดไฟทีให้แสงสว่างกับเครื่องในขณะอ่านก็ตาม สนนราคาของ Paperwhite จะอยู่ที่ 119 เหรียญฯ (ประมาณ 3,600 บาท) วางตลาด 1 ต.ค. ศกนี้ นอกจากนี้ ยังมีเวอร์ชัน 3G ที่มีราคา 179 เหรียญฯ (ประมาณ 5,400 บาท) อีกด้วย
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=415530
บันทึกการเข้า
