[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวแจ้งเตือนชิ้นนี้ได้มีการเปิดเผยขึ้นในประเทศอังกฤษ โดยตามรายงานอ้างว่า ทวิตเตอร์ (twitter) กำลังกลายเป็นแหล่ง "ชอปปิ้งออนไลน์สำหรับเหล่าบรรดาหัวขโมย" ซึ่งเป็นคำกล่าวของตีนแมวกลับใจที่ใช้วิธีนี้หาเหยื่อ
รายงานดังกล่าวจัดทำโดยบริษัท Legal & General ร่วมกับ Michael Fraser ตีนแมวกลับใจ ซึ่งพบว่า 38% ของผู้ใช้เว็บไซต์อย่าง Facebook และ Twitter จะโพสต์ข้อความแจ้งสถานะอัพเดตของตนเองเกี่ยวกับรายละเอียดแผนการในวันหยุด และหนึ่งในสามกำลังโพสต์ข้อความอัพเดตว่า พวกเขาจะไม่อยู่บ้านในช่วงหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อเจาะรายละเอียดให้ลึกลงไป กลุ่มเด็กวัยรุ่นมักจะชอบให้ข้อมูลว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหน ในขณะที่ 64% ของกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 16 - 24 ปี จะแชร์แผนการในวันหยุดของพวกเขา ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลในลักษณะนี้กำลังกลายเป็นประเด็นที่น่าห่วงใยของผู้ปกครอง เพราะเด็กๆ อาจถูกล่อลวงจากผู้ไม่หวังดีได้อีกด้วย
ในรายงานยังระบุอีกว่า ผลจากการที่ผู้ใช้บริการมักสนใจที่จะเป็น"เพื่อน"กับทุกๆ คนในชุมชนออนไลน์ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักคนกับเหล่านั้นมาก่อนจริงๆ ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ จากผลสำรวจยับพบด้วยว่า 25% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียจะพูดคุยกันในประเด็นแผนการวันหยุดค่อนข้างละเอียด และ 17% มีการเปิดเผยที่อยู่ของที่พักอาศัยที่ผู้ไม่หวังดีสามารถวางแผน เพื่อเข้าขโมยของในช่วงวัน และเวลาดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้มีการทดลอง เพื่อหาคำตอบว่า จะมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียใน UK กี่รายที่ยอมรับ "เพื่อน" ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ซึ่งจากการสุ่มขอเป็นเพื่อนใน Facebook ปรากฎว่าได้รับการยอมรับถึง 13% ในขณะที่ถ้าเป็น Twitter จะสูงถึง 92% โดยไม่มีการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น Michael Fraser ตีนแมวกลับใจกล่าวว่า "ผมเรียกมันว่า แหล่งช้อปปิ้งบนอินเทอร์เน็ตสำหรับหัวขโมย มันง่ายเหลือเกินที่จะใช้เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อหาเหยื่อ จากนั้นเข้าไปค้นต่อว่า บ้านของเหยื่ออยู่ที่ใดจากเว็บไซต์ตัวช่วยอื่นๆ อย่างเช่น Google Street View ซึ่งทั้งหมดสามารถทำได้ขณะที่นั่งบนโซฟา มันน่ากลัวที่พบว่า มีผู้คนมากมายพร้อมที่จะให้ข้อมูลสำคัญๆ เกี่ยวกับพวกเขากับคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันดีพอ"
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409834
Site : www.it4x.com
รายงานดังกล่าวจัดทำโดยบริษัท Legal & General ร่วมกับ Michael Fraser ตีนแมวกลับใจ ซึ่งพบว่า 38% ของผู้ใช้เว็บไซต์อย่าง Facebook และ Twitter จะโพสต์ข้อความแจ้งสถานะอัพเดตของตนเองเกี่ยวกับรายละเอียดแผนการในวันหยุด และหนึ่งในสามกำลังโพสต์ข้อความอัพเดตว่า พวกเขาจะไม่อยู่บ้านในช่วงหยุดสุดสัปดาห์ และเมื่อเจาะรายละเอียดให้ลึกลงไป กลุ่มเด็กวัยรุ่นมักจะชอบให้ข้อมูลว่าตนเองกำลังอยู่ที่ไหน ในขณะที่ 64% ของกลุ่มผู้มีอายุระหว่าง 16 - 24 ปี จะแชร์แผนการในวันหยุดของพวกเขา ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลในลักษณะนี้กำลังกลายเป็นประเด็นที่น่าห่วงใยของผู้ปกครอง เพราะเด็กๆ อาจถูกล่อลวงจากผู้ไม่หวังดีได้อีกด้วย
ในรายงานยังระบุอีกว่า ผลจากการที่ผู้ใช้บริการมักสนใจที่จะเป็น"เพื่อน"กับทุกๆ คนในชุมชนออนไลน์ ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักคนกับเหล่านั้นมาก่อนจริงๆ ว่าเขาเป็นคนอย่างไร ซึ่งเป็นเรื่องที่เสี่ยงมากๆ จากผลสำรวจยับพบด้วยว่า 25% ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียจะพูดคุยกันในประเด็นแผนการวันหยุดค่อนข้างละเอียด และ 17% มีการเปิดเผยที่อยู่ของที่พักอาศัยที่ผู้ไม่หวังดีสามารถวางแผน เพื่อเข้าขโมยของในช่วงวัน และเวลาดังกล่าวได้อย่างง่ายดาย
นอกจากนี้ทีมวิจัยยังได้มีการทดลอง เพื่อหาคำตอบว่า จะมีผู้ใช้โซเชียลมีเดียใน UK กี่รายที่ยอมรับ "เพื่อน" ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนเลย ซึ่งจากการสุ่มขอเป็นเพื่อนใน Facebook ปรากฎว่าได้รับการยอมรับถึง 13% ในขณะที่ถ้าเป็น Twitter จะสูงถึง 92% โดยไม่มีการตรวจสอบใดๆ ทั้งสิ้น Michael Fraser ตีนแมวกลับใจกล่าวว่า "ผมเรียกมันว่า แหล่งช้อปปิ้งบนอินเทอร์เน็ตสำหรับหัวขโมย มันง่ายเหลือเกินที่จะใช้เว็บไซต์โซเชียลเน็ตเวิร์ก เพื่อหาเหยื่อ จากนั้นเข้าไปค้นต่อว่า บ้านของเหยื่ออยู่ที่ใดจากเว็บไซต์ตัวช่วยอื่นๆ อย่างเช่น Google Street View ซึ่งทั้งหมดสามารถทำได้ขณะที่นั่งบนโซฟา มันน่ากลัวที่พบว่า มีผู้คนมากมายพร้อมที่จะให้ข้อมูลสำคัญๆ เกี่ยวกับพวกเขากับคนอื่นทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันดีพอ"
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409834
Site : www.it4x.com