โพรเซสเซอร์คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ๆ จะได้รับการออกแบบให้มีแกนการทำงานหลายแกน ซึ่งหากจะอธิบายให้ง่ายที่สุด มันก็คือ การพัฒนาโพรเซสเซอร์ขนาดเล็กหลายๆ ตัวใส่เข้าไปในชิปขนาดใหญ่ตัวเดียว (ดังรูปข้างบน) โดยให้มีการแบ่งใช้ทรัพยากรต่างๆ ร่วมกัน ในขณะที่กระบวนการประมวลผลข้อมูลบนแต่ละแกนเกิดขึ้นพร้อมกัน ทำไมการออกแบบโพรเซสเซอร์ลักษณะนี้จึงดีกว่าการพัฒนาเป็นโพรเซสเซอร์ตัวใหญ่ตัวเดียวไปเลย? และทำไมมันถึงได้รับความนิยมกันนัก?
คำตอบง่ายๆ ก็คือ คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ หรือสามาร์ทโฟน และแท็บเล็ต ต่างก็มีงานต่างๆ ที่พวกมันต้องทำพร้อมกัน ซึ่งหากคอมพิวเตอร์มีแกนการทำงานหลักของโพรเซสเซอร์เพียงแกนเดียว นั่นหมายความว่า ทุกสิ่งอย่างที่รันบนระบบ ตั้งแต่การเช็คอัพเดทซอฟต์แวร์ ท่องเว็บ สแกนไวรัส เล่นเพลงให้คุณฟัง ตลอดจนการรันโปรแกรมอีเมล์จะต้องเข้าแถวรอคิวที่จะเข้าไปประมวลผลบนโพรเซสเซอร์ที่มีแกนเดียว แต่ด้วยโพรเซสเซอร์หลายแกน มันสามารถแบ่งงาน (รันโปรแกรมต่างๆ ข้างต้น) กันคนละแกน เพื่อให้มีการประมวลผลพร้อมกัน สมมติว่า โพรเซสเซอร์ที่ใช้เป็น Quad Core (โพรเซสเซอร์ 4 แกน) ดังนั้นแทนทีโปรแกรมอีเมล์ และเว็บบราวเซอร์จะต้องต่อสู้กัน เพื่อเข้าไปประมวลผลบนโพรเซสเซอร์ที่มีแกนเดียว โปรแกรมทั้งสองก็สามารถเข้าไปรันบนโพรเซสเซอร์คนละแกนพร้อมกันได้ทันที โดยไม่ต้องรอคิวเหมือนกับโพรเซสเซอร์แกนเดียว
นอกจากนี้ ซอฟต์แวร์สมัยใหม่หลายๆ ตัวยังได้รับการออกแบบให้ใช้ข้อได้เปรียบจากโพรเซสเซอร์ที่รองรับการทำงานได้หลายแกนพร้อมกันอีกด้วย อย่างเช่น โปรแกรมตกแต่งแก้ไขภาพ หรือโปรแกรมออกแบบ เวอร์ชันใหม่ๆ จะสามารถใช้แกนการทำงานของโพรเซสเซอร์ทีมีหลายแกน เพิ่มความเร็วในการประมวลผลเช่น การแปลงไฟล์วิดีโอ หรือการใส่ฟิลเตอร์เข้าไปในไฟล์ภาพดิจิตอล สังเกตว่า เมื่อรันโปรแกรมพวกนี้บนโพรเซสเซอร์หลายแกนมันจะทำงานได้เร็วมาก ถ้าอย่างนั้น การมีหลายแกนเป็นเรื่องดีกว่าน่ะสิ ความจริงก็คือ มันไม่เสมอไป หากซอฟต์แวร์ทีคุณใช้ไม่ได้รับออกแบบมาให้ทำงานบนโพรเซสเซอร์หลายแกน สิ่งที่เกิดขึ้นคือ โปรแกรมพวกนี้จะทำงานได้เท่าๆ กับใช้รันบนโพรเซสเซอร์แกนเดียว คำถามคือ แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่า โปรแกรมทีใช้รันอยู่บนวินโดวส์ได้ใช้ข้อได้เปรียบของโพรเซสเซอร์หลายแกน?
คำตอบก็คือ ให้คุณคลิกขวาบนทาสก์บาร์ (taskbar) แล้วคลิก task manager จากนั้นคลิกแท็บ Performance คุณจะเห็นชาร์ตแสดงการใช้ CPU โดยจะมีการแบ่งกล่องแสดงชาร์ตเท่ากับจำนวนแกนที่มีอยู่บน CPU (4 กล่องก็ 4 แกนดังรูป) เปิดโปรแกรม Taask Manager ทิ้งไว้ แล้วเปิดโปรแกรมที่คุณต้องการตรวจสอบ สังเกตการใช้ CPU ว่า เมื่อเวลาใช้งานโปรแกรมนั้นๆ แต่ละชาร์ต (กล่องแสดงผลของแต่ละแกน CPU) มีการแสดงกราฟขึ้นมา หรือไม่? หากพบว่า มีกราฟปรากฎแค่แกนเดียว ก็แสดงว่า โปรแกรมนั้นๆ ออกแบบให้ทำงานบนโพรเซสเซอร์แกนเดียว ง่ายดีไหมครับ ว่าแต่แล้ว โพรเซสเซอร์หลายแกนจะเป็นแนวโน้มที่ยังคงดำเนินต่อไปแค่ไหน? อย่างไร? คำตอบก็คือ โพรเซสเซอร์รุ่นใหม่ๆ จะมีการเพิ่มแกนการทำงานเข้าไปอีก จาก 2,4,6 และอาจจะมี 8 เพราะแนวโน้มเราคงต้องการซีพียูที่ฉลาดขึ้น มีการทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันได้ (หลายแกน) มากขึ้่น
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/tips/415576/%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A1+%E0%B9%82%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%99+%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%82%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%95%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81+%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B9%82%E0%B8%9F%E0%B8%99+%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95.htm