ด้วยเหตุนี้บริษัท Secunia จึงได้ทำการศึกษาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ใดบ้างที่ไม่ได้ทำขึ้นจากไมโครซอฟท์ แล้วพบว่ามีช่องโหว่ที่สุ่มเสี่ยงต่อการเข้าถึงจากแฮกเกอร์มากที่สุด ผลการศึกษาแสดงให้เห็นว่า 86% ของโปรแกรมที่ไม่ได้เกิดจากไมโครซอฟท์มีปัญหาด้านความปลอดภัย เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้วถึง 78% Secunia ยังแสดงให้เห็นว่าค้นพบช่องโหว่กว่า 9,776 แห่งจากซอฟต์แวร์ที่มีการใช้งานทั้งหมด 2,503 ที่เกิดจาก 421 บริษัทเมื่อปี 2012
Secunia ยังกล่าวด้วยว่าเว็บเบราว์เซอร์อย่าง Google Chrome เป็นเบราว์เซอร์ที่มีการค้นพบช่องโหว่มากที่สุดถึง 291 แห่งในปี 2012 ตามมาด้วย Firefox ที่ 257 แห่ง iTunes ของ Apple 243 แห่ง, Adobe Flash Player 67 แห่ง และ Java มี 66 แห่ง
จากข้อมูลที่นำเสนอไปก็อย่าเพิ่งตกอกตกใจกันไป เพราะเชื่อว่าช่องโหว่ต่างๆที่เราได้ทราบกัน ทางเจ้าของหรือบริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์นั้นๆก็น่าจะรู้ดีถึงความเสี่ยงในข้อนี้ และคงไม่ปล่อยให้ความเสี่ยงนี้เข้ามาคุกคามต่อลูกค้าผู้ใช้งานได้ เห็นได้จากการออก Patch ต่างๆเพื่อให้ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อัพเกรดกันซอฟต์แวร์กันเรื่อยๆนั่นเอง แต่ใครที่คิดจะหันกลับไปใช้ Internet Explorer หลังจากเห็นข่าวนี้ก็ไม่ว่ากันนะครับ
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=416461
บันทึกการเข้า
