สิ้นสุดการรอคอยเมื่อในที่สุด Samsung เปิดตัว Samsung Galaxy Note 3 สมาร์ทโฟนจอใหญ่หรือที่คำนิยามที่เรียกว่าแฟ็บเล็ต โดยในรุ่นใหม่นี้ยังมาพร้อมกับ S Pen คู่ใจ ปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่ บางกว่า เร็วกว่า และฉลาดยิ่งกว่า Galaxy Note 2 ด้วย
สเปคของ Samsung Galaxy Note 3 หากเพื่อนๆที่ติดตามกันมาโดยตลอดไม่น่าจะตื่นเต้นเท่าไหร่เพราะข้อมูลที่ลือกันมาก่อนหน้านี้ไม่ได้แตกต่างกันแต่อย่างใด ส่วนเพื่อนๆที่เพิ่งทราบข่าวเมื่อเห็นสเปคแล้วน่าจะถูกใจไม่น้อย
สเปคของ Samsung Galaxy Note 3 ประกอบไปด้วย
- ขนาดหน้าจอแสดงผล 5.7 นิ้ว แบบ Super AMOLED
- ความละเอียด 1,920 x 1,080 พิกเซล (386 ppi)
- ชิปประมวลผล แบ่งเป็น 2 แบบตามตลาดที่วางขาย ได้แก่ Snapdragon 800 Quad-Core ความเร็ว 2.3 GHz รองรับ 4G กับ Exynos 5 Octa core ความเร็ว 1.9 GHz ใช้ได้เฉพาะ 3G
- ใช้ Android 4.3 Jelly Bean
- กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มากับเซนเซอร์ BSI เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย พร้อม Auto Focus มีระบบ OIS ป้องกันการสั่นไหวขณะถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ นอกจากนี้ยังสนับสนุนการบันทึกวีดีโอที่ความละเอียดระดับ 4K ได้ด้วย และมีแฟลชแบบ High CRI LED
- กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล มากับเซนเซอร์ BSI เพิ่มประสิทธิภาพในการถ่ายภาพในที่แสงน้อย พร้อม Auto Focus มีระบบ OIS ป้องกันการสั่นไหวเช่นกัน
- หน่วยความจำภายในมีแบบ 32 กับ 64GB รองรับการใช้ microSD card สูงสุด 64GB
- แรม 3GB
- รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 ac/a/b/g/n, GPS, GLONASS, NFC, Bluetooth 4.0 LE, IR support, และ MHL 2.0 support
- ตัวเครื่องบาง 8.3 มิลลิเมตร บางกว่า Galaxy Note 2 ประมาณ 0.1 มิลลิเมตร
- น้ำหนัก 168 กรัม เบากว่า Galaxy Note 2 ประมาณ 15 กรัม
- แบตเตอรี่ความจุ 3,200 mAh ยืดเวลาในการใช้งานให้นานขึ้นอีก 40%
ดีไซน์
รูปร่างตัวเครื่องของ Samsung Galaxt Note 3 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดโดยเฉพาะฝาหลังที่เปลี่ยนมาใช้ "หนัง" ที่เรียกว่า Faux leather แทนที่พลาสติกแบบเดิม โดยหนังที่ Samsung เลือกใช้ครั้งนี้สามารถทำความสะอาดได้ง่ายรวมไปถึงช่วยให้การหยิบถือด้วยมือเดียวถนัดมากยิ่งขึ้น (แต่ในความเห็นส่วนตัวยอมรับตามตรงว่าการเปลี่ยนแปลงวัสดุครั้งนี้ไม่ถูกใจผู้เขียนอย่างแรง !!! )
อีกส่วนที่มีการเปลี่ยนแปลงคือ S Pen อุปกรณ์คู่ใจประจำ Galaxy Note ซึ่ง Samsung ได้ออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานร่วมกับหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น จับได้ถนัดมือมากขึ้น รวมถึงยกย่องให้ S Pen รุ่นใหม่เป็นเสมือน "กุญแจ" ที่สามารถดึงความสามารถของฟีเจอร์ต่างๆ ของ Samsung Galaxy Note 3 ออกมาได้อย่างเต็มที่
ลูกเล่นใหม่จาก Samsung Galaxy Note 3
1. Air Command สามารถเพื่อเปิดเมนูย่อยจากตำแหน่งใดก็ได้บนหน้าจอด้วย S Pen เพียงนำปากกาไปจ่อที่หน้าจอและกดปุ่มบนปากกาก็จะเกิดเป็นรูปครึ่งวงกลมสามารถเข้าใช้งานเมนูย่อยบางอย่างได้
2. Action memo ในฟังก์ชันนี้จะมีระบบวิเคราะห์และคำสั่งต่างๆให้ผู้ใช้สามารถใช้ S Pen เขียนข้อความที่ต้องการพร้อมกับเลือกคำสั่งได้ว่าจะโทรออก, ส่งข้อความ, บันทึกเป็นรายชื่อ, ส่งข้อความไปทางอีเมล์ หรือค้นหาสถานที่ ก็สามารถทำได้
3. Scrapbook ฟังก์ชันที่ช่วยจัดระเบียบ เก็บข้อมูลบน browser หรือวีดีโอ Youtube และรูปภาพเพื่อนำมาดูภายหลังได้
4. S Finder ฟังก์ชันที่ช่วยค้นหาประโยคที่เราจดเอาไว้ผ่านการใช้ keyword ในการค้นหา แม้ประโยคนั้นจะจดด้วยลายนิ้วมือของเราเองก็ตาม
5. Pen Window ฟังก์ชันที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเปิดแอพพิลเคชั่นซ้อนทับแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานอยู่ได้ง่ายๆ เพียงใช้ S Pen วาดกรอบสี่เหลี่ยมขึ้นมาที่จุดไหนก็ได้บนหน้าจอ เท่านี้ก็จะปรากฎอีกแอพพลิเคชั่นขึ้นมาโดยไม่ต้องปิดแอพที่เราใช้อยู่ขณะนั้น
6. New Multi Window สามารถเปิดแอพเดียวกันได้พร้อมกัน 2 หน้าต่าง ยกตัวอย่าการเปิดหน้าแชท 2 หน้าพร้อมกัน ผู้ใช้สามารถใช้ S Pen ก็อปปี้ข้อความจากหน้าแชทของเพื่อนคนหนึ่งและโยนไปยังหน้าแชทของเพื่อนอีกคนหนึ่งได้
7. Multi Vision สามารถจับ Samsung Galaxy Note 3 หลายเครื่องมาเรียงกันเพื่อการแสดงผลอย่างใดอย่างหนึ่งที่ต่อเนื่องกันได้
8. My Magazine คล้ายกับ Flipboard เดิม ทำหน้าที่รวบรวมข่าวสารมาไว้ในที่เดียว แต่จะแยกแยะออกเป็นประเภทต่างๆชัดเจน
9. New S Note เพิ่มความสามารถในการบันทึกข้อความส่วนตัว ช่วยในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆสะดวกขึ้น ทั้งพีซีหรือแท็บเล็ต มีการทำงานแบบ Cloud service เชื่อมต่อกับบริการอย่าง Evernote ได้
10. Samsung KNOX ซอฟต์แวร์สำหรับการแยกส่วนข้อมูลของผู้ใช้กับข้อมูลขององค์กรออกจากกันช่วยให้ข้อมูลปลอดภัยขึ้น
Samsung Galaxy Note 3 จะเริ่มวางขายในวันที่ 25 กันยายน 2556 ใน 149 ประเทศ และจะขายทั่วโลกภายในเดือนตุลาคม 2556 มีสีขาว, สีดำ และสีชมพูให้เลือก ส่วนราคาคาดว่าน่าจะอยู่ที่ 22,900 บาทเท่า Galaxy Note 2 ครับ