ข่าว IT ล่าสุด
ถูกใจอย่าลืม Like Fanpage
อันนี้ดีกว่า X JAPAN
แสดงแล้ว 10277 ครั้ง /
มกราคม 30, 2010, 22:04:15

limited_

ออฟไลน์ ( เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สาธุ สาธุ )
กระทู้ : 614
คะแนนขอบคุณ : 13

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2010, 22:08:35 โดย limited_ »

limited_

ออฟไลน์ ( เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สาธุ สาธุ )
กระทู้ : 614
คะแนนขอบคุณ : 13
มกราคม 30, 2010, 22:13:11
ทุกคนฟังต้องชอบแน่นอน
ลองฟังดู
X Japan Tears Returns 1993.12.30
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: มกราคม 30, 2010, 22:22:19 โดย limited_ »

limited_

ออฟไลน์ ( เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สาธุ สาธุ )
กระทู้ : 614
คะแนนขอบคุณ : 13
มกราคม 30, 2010, 22:17:43
X japan
ความเป็นมาของวง X-Japan ถ้าจะให้เริ่มก็ต้องอ่านตั้งแต่ประวัติของ Yoshiki หัวหน้าวงก่อนเลย อ่านประวัติของ Yoshiki ก็เหมือนกับได้อ่านประวัติวง X ไปในตัวเช่นกัน



Yoshiki เป็นเพื่อนกับ Toshi มาตั้งแต่เด็ก เรียนรร.เดียวกัน ตั้งแต่อนุบาล ม.ต้น จนถึง ม.ปลาย สมัยแรกๆ Yoshiki ไม่ยอมเปิดเผยประวัติส่วนตัวของเขาเลย ไม่ว่าจะเป็นชื่อจริง วันเดือนปีเกิด กรุ๊ปเลือด สถานที่เกิด เราจะระบุว่า X ตลอด นั่นเป็นนโยบายของเขาเอง Yoshiki มักพูดเสมอว่า "X" คือทุกสิ่งทุกอย่างของผม ประวัติของเขาจึงมีแต่ X เต็มไปหมด แต่ด้วยความเป็นเพื่อนกับ Toshi จึงทำให้รู้ว่า เขาอายุเท่าไหร่ เกิดที่ไหน เหตุผลที่แท้จริงที่เขาไม่ยอมเปิดเผยวันเกิดนั้นก็เพราะว่า เขาจะรู้สึกเขินเมื่อถึงวันเกิดของเขาแล้วทุกคนแสดงความยินดี ทำให้ได้รู้ว่าเขาขี้อายมากๆ ชีวิตในวันเด็กนั้นมีอุบัติเหตุและเหตุการณ์มากมาย เช่น ในสมัยประถม เขาจะมีความทรงจำกับรพ.มากกว่ารร.เพราะป่วยเป็นโรคหืดหอบ(ปัจจุบันหายแล้ว)
เดินบนถนนกับแม่ก็ถูกมอเตอร์ไซด์ชน ข้ามทางม้าลายก็ถูกรถชน
Yoshiki เองยังพูดว่า "ดวงไม่ดีมันมาแรง" ในวันเกิดครบ 10 ขวบ ตอนที่เขาอยู่ ป.5 เขาได้รับกลองเป็นของขวัญวันเกิดจากแม่ ซึ่งปกติเขาจะได้รับเครื่องดนตรีเป็นของขวัญวันเกิดทุกปีจนถือเป็นธรรมเนียม หลังจากที่เขากลับบ้านก็พบกลองตั้งอยู่กลางห้องและตัวเขาเองก็ไม่เคยสนใจกลองมาก่อนเลย ที่ได้กลองเป็นของขวัญเพราะ พ่อของเขาอยากให้ตีกลองเป็นมือกลองที่ดีให้ได้ และตอนอายุ 5 ขวบ เขาก็ได้รับของขวัญเป็นเปียโน ตัวเขาเอง เริ่มเรียนเปียโนตั้งแต่ 5 ขวบ เพราะพ่อแม่อยากให้เขาเป็นนักเปียโน นอกจากเรียนเปียโนแล้ว ก็ให้เรียนคัดอักษร วาดภาพ ลูกคิด ภาษาอังกฤษ เรียงความ และการเรียนเปียโนเป็นสิ่งที่เขาเล่นติดต่อกันนานที่สุด แม้ระหว่างนั้นเลิกเล่นไปหลายครั้ง แต่พอเวลาผ่านไประยะหนึ่งเขาก็เริ่มหันมาดีดเปียโนใหม่ เมื่อเข้าเรียน ม.ต้น ร่างกายของเขาเริ่มแข็งแรงขึ้น และเข้าร่วมชมรมดนตรี เป็นชมรมที่มีชื่อเสียงมาก ชนะการประกวดได้อัดแผ่นเสียง Yoshiki เล่นทรัมเป็ต Toshiเล่นยูนิฟอเนี่ยม แต่ต่อมาเขาเริ่มรู้สึกว่าการเล่นเครื่องดนตรีเบาๆ เริ่มไม่เต็มอารมณ์ จึงหันมาเล่นกีฬา เขาเลือกเล่นฟุตบอล เขาอธิบายว่า "เพราะเป็นกีฬาที่เหมือนคนทะเลาะกัน" และอีกสาเหตุหนึ่งเพราะเขาอยากปล่อยพลังงาน แต่เล่นได้ไม่นานก็เลิกไป และเขามีความคิดที่จะตั้งวงดนตรีขึ้น โดย Yoshiki เล่นกลอง Toshi ยังไม่ได้เป็นนักร้องนำ แต่มีหน้าที่เล่นกีตาร์ Yoshiki เคยเข้าประกวดระหว่างห้องจนกลายเป็นฮีโร่ในห้องเรียนไป เพราะเป็นเด็กเกเรแต่กลับดีดเปีนโนได้อย่างสง่างาม ไม่เพียงแต่นักเรียน อาจารย์เองก็ตกใจและคิดไม่ถึง เขารู้สึกสะใจมาก ม.3 รร.ที่เขาเรียนแบ่งออกเป็น 2 รร. ตัว Yoshiki และ Toshi ถูกย้ายไปเรียนที่ใหม่ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ อยู่รร.เก่า เขาพบเพื่อนร่วมชั้นใหม่ คุณครูคนใหม่ ตึกเรียนใหม่ จึงทำให้เขาเริ่มเกเร สร้างปัญหามากมายให้คุณครูและรร.ใหม่ โดยปกติเขาก็ไม่ใช่เด็กเรียบร้อยอยู่แล้ว เขาจึงมีปัญหากับอาจารย์เป็นประจำ ย้อมสีผมตลอดถึงขนาดเคยโดนโกนหัวถึง3ครั้ง ชอบซิ่งมอเตอร์ไซด์และอาละวาดในรร.เป็นประจำ



หลังสิ้นสุดพิธีจบการศึกษาของชั้น ม.ต้น เขาถือดาบไม้ไปขอบคุณอาจารย์ที่ห้องพักอาจารย์ และเขาได้ทำลายตึกใหม่ อาคารต่างๆ จนพัง แต่ถึงกระนั้นเขาก็แตกต่างจากเด็กเกเรทั่วไป เพราะนิสัยที่ไม่ชอบยอมแพ้ใคร จึงทำให้เขาขยันเรียนกว่าเพื่อนๆ ทำให้คะแนนของเขาดีมาก Toshiก็เคยบอกว่า "Yoshikiเก่งทุกอย่าง เป็นเด็กเกเรที่หัวดี"เขาเป็นเด็กเกเรที่ใครๆ ก็รับมือไม่ไหว แต่คะแนนการเรียนของเขานั้นยอดเยี่ยมมากจนเพื่อนๆ อิจฉา สำหรับคุณครูแล้วไม่มีเด็กคนไหนที่ดูแลยากขนาดนี้อีกแล้ว Yoshiki เริ่มรู้จักกับดนตรีแนว Rockตั้งแต่อยู่ชั้น ป.5 และเขาก็รู้จักกับวง Kiss จากโปสเตอร์หน้าร้านขายเทป และพอรู้ว่า Kiss จะมาแสดง concert ที่ญี่ปุ่นจากหน้าหนังสือพิมพ์ จึงขอให้แม่พาไปดูและเป็นการดูการแสดงสดครั้งแรกของเขา และจากการที่เขาได้ดูการแสดงสดครั้งนี้ ทำให้เขาได้รับอิทธิพลจากการแสดงบนเวทีของ Kiss และเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่เขาตั้งวงดนตรีขึ้น และเพื่อนที่จะคุยเรื่องนี้ได้ก็มีแต่ Toshi เท่านั้น ตอนที่เขาได้รับกลองเป็นของขวัญทำให้เขาอยากเป็นมือกลอง แม้ตอนนั้นจะเล่นเป็นแต่เปียโน แต่เขาก็มีความคิดที่จะนำไปใช้กับดนตรีแนว Rockและคิดจะตั้งวงอย่างจริงจัง เขาเป็นนักร้องนำโดยตีกลองไปด้วย แต่เสียงของเขาเปลี่ยนช้า ทำให้เวลาร้องเพลงก็จะถูกเพื่อนล้อว่า "เสียงเหมือนเด็กทารก น่ารักจัง" ทำให้เขาเลิกร้องเพลงไปเลย เขาเริ่มตั้งวงอย่างจริงจัง ก็ตอนอยู่ ม.1 เขาเป็นหัวหน้าวง ม.2 มีโอกาสแสดงบนเวทีในงานรร. และม.3 ก็ได้จัด concert โดยยืมศาลาประชาชนประจำเมือง ตอนนั้นใช้ชื่อวงว่า "Noise" YoshikiและToshi เริ่มแสดงในสถานที่ต่างๆ มากขึ้นและเริ่มแสดง concertของตัวเอง นอกจากนั้นยังเข้าประกวดในงานต่างๆ ด้วย ชีวิตในวัยเรียนของเขาจะเล่นดนตรีเป็นส่วนใหญ่แต่เขาก็ยังเกเรเหมือนเดิม พอขึ้นชั้น ม.ปลาย การต่อต้านเริ่มรุนแรงขึ้น ตัวเขาเองบอกว่า "ชั้น ม.3,4,5 ทั้ง 3 ปี จบลงอย่างสมบูรณ์" ในตอนนั้นเขาไม่สนใจอะไร คิดแต่จะทำลายทุกสิ่งทุกอย่าง แม้ว่าจะรอดจากการถูกไล่ออก แต่ก็ถูกพักการเรียนไปหลายครั้ง และก็เคยถูกตำรวจจับด้วย แต่พายุแห่งการต่อต้านเริ่มจางลงเมื่อใกล้จะจบชั้น ม.5 เมื่อเขาพบกับปัญหาเกี่ยวกับการเข้าเรียนมหาวิทยาลัย นอกจาก Yoshikiและ Toshi แล้ว สมาชิกคนอื่นๆ ขอถอนตัวหมด เขาหาสมาชิกใหม่และเปลี่ยนชื่อวงใหม่ว่า "X" ที่เขาตั้งชื่อนี้เพราะเห็นว่าเป็นอักษรตัวเดียวจะสะดุดตามากกว่า เพราะตอนนั้นกำลังฮิตชื่อยาวๆ (ทีแรกเขาไม่จริงจังกับการใช้ชื่อนี้ แต่เพราะยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่ออะไรเลยใช้ไปพลางๆ ก่อนแล้วเกิดชอบใจก็เลยไม่ได้เปลี่ยน) นอกจากจะเล่นเพลงเลียนแบบ Iron Maiden แล้ว ก็เริ่มทำเพลงของตัวเองด้วย เพลง I'll kill you ที่พวกเรารู้จักกันก็เป็นเพลงที่แต่งตั้งแต่ในตอนนี้ด้วย แม้สมาชิกจะลาออกไปแต่ Yoshikiและ Toshi ก็เห็นว่าการทำวงต่อเป็นเรื่องสมควร ความหวังของเขาคือเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยดนตรี เพราะเขาอยากเป็นนักเปียโน ก็คิดว่าถ้าไม่จริงจังคงไม่เรียนต่อในมหาวิทยาลัยแน่นอน เขาซ้อมวันละ 6ชม. นิ้วเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเปียโน ทำให้เขาต้องดูแลรักษานิ้วเป็นอย่างดี ขนาดล้มยังเอาเข่าลงแทนมือ แต่เรื่องตีกลองก็เป็นปัญหาสำหรับเขา เพราะครูสอนเปียโนจะดุเขาเรื่องแผลที่เกิดจากการตีกลอง แต่เขาก็ยังไม่ยอมทิ้งกลองระหว่างเล่นเปียโน ตอนนั้นเขาไม่คิดว่าจะประสบความสำเร็จกับวงดนตรีหรือการเป็นนักดนตรีแนว Rock ซึ่งทำให้ตัวเขาแปลกใจว่า "ตอนนั้นแม้จะถูกครูสอนเปียโนดุด่าเรื่องตีกลองแต่ก็ยังไม่เลิกตีกลอง" เขาขมักเขม้นกับการฝึกทำนอง ซอลเฟจู และคอลยู บูเก็น แต่ก็ยังเล่นกับวงดนตรีแต่เฉพาะช่วงที่ว่างเท่านั้น และ 1อาทิตย์ก่อนการสอบเข้า ก็ซ้อมหนัก แต่จู่ๆ ก่อนการสอบ 1 วัน เขาก็พูดขึ้นมากระทันหันว่า "จะเลิกสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย"



เขาบอกกับแม่ว่า "แม่ครับ ผมอยากเป็น ROCK STAR!" เป็นเรื่องที่ทันด่วน ทำให้คนรอบข้างและแม่ของเขาตกใจและสับสนไปตามๆ กัน แต่การตัดสินใจของเขาหนักแน่น ไม่ว่าใครจะหว่านล้อมยังไงก็ไม่สนใจ เขาเริ่มที่จะแต่งเพลงและเล่นเองอย่างอิสระ แต่เขาก็ยังมีความคิดที่ว่า "เพลงคลาสสิคเป็นการเลียนแบบเพลงคนอื่น" ในการประกวดตอน ม.6 Toshi ได้รับรางวัล Best Vocal และ Yoshiki ได้รับรางวัล Best Drum และนี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจเช่นนั้น แถมยังรู้สึกว่าตัวเองอาจมีความสามารถที่ไม่จำกัด แฝงอยู่ด้วย(อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เขาใช้ชื่อวงว่า X เพราะเขาเคยบอกว่ามันหมายถึง ความไม่มีที่สิ้นสุดหรือ Infinity) เมื่อเขารู้สึกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยดนตรีเพื่อเป็นนักดนตรีมันตัน ก็ทำให้ความฝันในการตั้งวง Rockในใจเขาเริ่มพองโตขึ้น การที่เขาล้มเลิกการเข้าเรียนต่อ เขาก็นัดแนะกับ Toshi ว่า "เอาวะไปตายเอาดาบหน้า กะว่าถ้าแม่ของเราด่าก็เก็บกระเป๋าก้าวลงบันไดไปโตเกียวเลย" ปรากฏว่าที่บ้านของทั้ง 2 ตกใจมาก แต่ก็ไม่ห้ามอะไร อยากไปนักก็ให้ไป ทั้ง 2 ก็ขึ้นรถไฟไปโตเกียวหลังจากที่เรียนจบม.6 เพื่อที่จะทำให้ X เจริญเติบโตขึ้น เขากับ Toshi เริ่มทำงานพิเศษพร้อมกับหาสมาชิกไปด้วย ทั้ง 2 เช่าอพาร์ตเมนท์อยู่ด้วยกัน ทำงานพิเศษทุกอย่าง ไม่ว่าจะเสิร์ฟอาหารกวาด-ถูพื้นร้าน ระหว่างทำงาน ก็ทำเพลงไปเสนอค่ายเทปด้วย แต่เงินที่ได้มาก็ไม่พอใช้ ในที่สุดเขาก็เขียนจม.ไปขอตังค์แม่ของเขา ซึ่งแม่ของเขาก็ให้ Yoshiki ชอบสไตล์ผมและการแต่งหน้าแบบตนเอง ไม่เหมือนใคร ทรงผมของเขานั้นก่อนเข้าวงการคือ ผมตั้งแบบหอยเม่น และมักจะทำผมตั้งขึ้นเวทีอยู่เสมอ ตอนที่ X เปลี่ยนสมาชิกวง ทำให้แสดงดนตรีไม่ได้ เขาได้ไปช่วยวงอื่นตีกลอง ตอนนั้นเขาไม่มีเวลาเลยขึ้นไปแสดงบนเวที ทั้งที่ผมตั้งแค่ครึ่งเดียว เมื่อตั้งผมครึ่งเดียวจึงแต่งหน้าซีกซ้ายและขวาไม่เหมือนกัน ครึ่งนึงเป็น Punk อีกครึ่งเป็น Heavy Metal มันแสดงถึง 2 บุคลิกในคนเดียว เจ้าตัวเองก็ชอบใจเอามาก สาเหตุที่ถูกใจมากที่สุดก็คือ ดูเด่นดีและไม่เหมือนใคร จากที่ต้องเปลี่ยนสมาชิกบ่อยๆ ทำให้ Yoshikiท้อแท้และพูดว่า "เลิกซะดีมั้ย" สมาชิกของ X ตอนนั้นมีแค่ Yoshikiและ Toshiเท่านั้น การซ้อมที่มีมือกลองและนักร้องนำนั้นทำไม่ได้ และคนที่เป็นกำลังใจให้ Yoshikiก็คือ Toshiนั่นเอง Toshiมักจะอยู่เคียงข้าง Yoshiki เสมอมา Toshiบอกว่าตอนนั้นรู้สึกว่าควรทำอะไรให้มันติดต่อกัน สมาชิกเปลี่ยนบ่อยมากถึงขนาดเคยคิดว่า "ถ้าเอาหินปาใส่นักดนตรีใน Harajuku คงจะถูกอดีตสมาชิกวง X สักคนหนึ่ง" ซึ่งหลังจากที่ Yoshiki สามารถทำให้ Taiji ยอมเข้าวงได้ก็เริ่มการแสดงสดอย่างจริงจัง แถมยังมีการอาละวาดบนเวที ล่างเวทีก็ทะเลาะกับเจ้าหน้าที่ในงานดื่มฉลองหลังเสร็จงาน ทั้งผู้เกี่ยวข้องและไม่เกี่ยวข้อง นักดนตรีและแฟนเพลงแน่นไปหมด จึงทะเลาะกันใหญ่เป็นประจำทุกวัน Yoshiki ชอบทำแก้วในร้านแตกหมดและชอบเหวี่ยงขวดเบียร์หลาย 10 ขวด จนเป็นข่าวลืออยู่เป็นประจำ เลยทำให้ร้านเหล้าห้ามไม่ให้เขาเข้ามากขึ้น ถึงขนาดที่ร้านเหล้าแถว Shibuya ต้องตรวจหาว่า " มีคุณ Yoshikiมาด้วยรึเปล่า" Yoshikiนั้น มีท่าทางยิ้มแย้มและสุขุมมากเหมือนเด็กหนุ่มที่น่ารัก ในเวลาพักผ่อนเขาเป็นคนร่าเริง พูดเก่งและเป็นมิตรมาก จากท่าทางการเดินเทเหล้าในสมาชิกวงดนตรีอื่นๆ ในวงเหล้านั้น ไม่มีท่าทีอันบ้าระห่ำที่ว่า "เป็นมือกลองที่พอเมาแล้วเหมือนสัตว์ประหลาดอาละวาด" หลงเหลืออยู่เลย มันแตกต่างจากคำเล่าลืออย่างสิ้นเชิง หน้าตาที่ล้างเครื่องสำอางค์ออกนั้นงดงามมากจริงๆ ในการสัมภาษณ์ครั้งหนึ่ง เขาพูดถึง concert กลางแจ้งที่ Hibiya Toshiจะล้อ Yoshiki ว่า "ถ้าจะฆ่า Yoshiki ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ แค่ให้เล่นเพลงเร็วๆ ติดต่อกันก็พอแล้ว" ทำให้ Yoshiki ตอนพักหายใจแล้วพูดว่า "เมนูการแสดงกลางแจ้งมันสุดยอดแล้ว แต่มันอาจเป็นวันตายของผมก็ได้ครับ" Yoshikiมีดี 2ด้านคือ สามารถเล่นกลองหนักๆ ได้ เหมือนมนุษย์มหัศจรรย์และพลังในการ Solo กลองมันอัดแน่นมาก แต่ในทางกลับกันก็เล่นเปียโนได้อ่อนหวาน นับเป็นอะไรที่แปลกและน่าประทับใจจริงๆ และในเมื่อ X คือทุกสิ่งทุกอย่างของ Yoshiki ดังนั้นอย่าแปลกใจที่ประวัติของเขาไม่ได้จบลงท้าย ด้วยคำพูดที่สวยงาม



1985
แต่เดิมสมาชิกของ X นั้น นอกจาก Toshi กับ Yoshikiแล้ว สมาชิกคนอื่นจะเป็นสมาชิกขาจรทั้งนั้นในตอนนั้น X มีสมาชิกคือ Yoshiki(Drum), Toshi(Vocal),Yuji(Guitar), Tomo (Guitar),Tokuo(Bass)
- มิถุนายน ออกผลงานชิ้นแรกคือ Single:I'll kill you.ซึ่งเพลงนี้ก็ยังคงเป็นเพลงเด่นที่ใช้ในการแสดง Concertไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ปัจจุบันไม่สามารถหา Albumนี้ได้อีกแล้ว
- กรกฎาคม ทำเพลง 1 เพลง ใน Omnibus ชุด Album Heavy Metal Force 3 ถือว่าเป็นการเข้าร่วมงานกับ Majorเป็นครั้งแรก


1986
X ได้สมาชิกใหม่ คือ Taiji เข้าร่วมวง ในตำแหน่ง Bass จากนั้นก็เริ่มแสดงอย่างจริงจังยิ่งขึ้น
ความดุเดือดบนเวทีก็มีมากขึ้นพวกเขาทำลายของมากมายและบ่อยครั้งในขณะที่พวกเขาแสดง
ถึงขนาดทะเลาะกับคนดูตอนเล่นเพลงอยู่ก็มีแถมยังอาละวาดบนเวทีทำให้ได้ชื่อว่าเป็นวงมหัศจรรย์ แม้แต่ Hide ที่เคยดู concert ในฐานะคนดู ยังบอกว่า "เหมือนปิศาจอาละวาด" เพราะมีการโยนกีตาร์ ทำลายกลองชุด พังทลายทั้งหมด
- เมษาย販 ออกผลงานชิ้นที่ 2 คือ Single: Orgasm จัดจำหน่ายโดย Indies Label Extasy Record ที่ Yoshiki เป็นผู้ก่อตั้ง มีนโยบายที่ Yoshiki และเพื่อนๆ ริเริ่มว่า "อยากทำอะไรในแบบที่ตัวเองชอบ" ทุกอย่างจึงทำด้วยมือของเขาเอง เขาจะลองผิดลองถูก คิดว่า cd เทป และลงโฆษณา ควรจะทำยังไง พวกเขาเรียนรู้สิ่งเหล่านี้จนถึงการ pack ใส่ถุงส่งก็ทำกันเอง โฆษณาแปลกๆ ก็มาจากฝีมือของสมาชิกเอง สมาชิกตอนที่ออก Single: Orgasm มี 4 คน คือ Yoshiki(Drum),Toshi(Vocal),Jun(Guitar),Hikaru(Bass) ช่วงนั้น Taijiออกจากวงไปชั่วคราว หน้า A เพลงแรก คือ "Orgasm" เพลงที่ 2 คือ "Time Trip Loving"และเพลงแรกหน้า B คือ "X"



1987
- กุมภาพันธ์ หลังจาก Taiji กลับมา สมาชิกหลักทั้ง 3 ก็เข้าร่วมผลงาน Omnibus Album ชุด Skull Trash Zone เมื่อ 3 คนรวมตัวกันได้ดีจึงต้องหานักกีตาร์สำหรับอัดแผ่น และผู้ที่ Yoshiki เลือกคือ Pata ในฐานะนักกีตาร์ผู้ช่วย ซึ่งรู้จักกันเมื่อ 1 ปีก่อน หลังจากที่เข้าวงการ X ก็ยังเปิดการแสดงสดต่อไปและอัดเพลง Stab me in the back และ No Connextion หลังจากนั้น X ก็ได้รับ Hide และ Isamu อดีตสมาชิกวง Saber Tiger มาร่วมวงอย่างเป็นทางการ จึงพูดได้ว่าเป็นวงที่มีนักกีตาร์ 2 คน ที่จริง Hide กับ Yoshiki รู้จักกันมานานแล้ว เพราะ Toshi กับ Yoshiki เคยไปดูการแสดงของวง Saber Tiger ทำให้เกิดความประทับใจในความเท่ห์ของ Hide และมั่นใจว่า "เขาเป็นคนที่เกิดมาเพื่อเป็นนักกีตาร์ของ X "ช่วงนั้น Saber Tiger ดังกว่าวงของ X หลายเท่า จึงไม่อยู่ในสถานะที่จะดึงตัว Hide มาร่วมได้ แต่ Toshi กับ Yoshiki สาบานว่า "ต้องทำให้ X ดังยิ่งขึ้น แล้วดึงตัวเขามาร่วมให้ได้" และเมื่อได้ Hide มาร่วมวงด้วยจึงทำให้จัดการแสดงมากยิ่งขึ้น แต่หลังจากนั้น Isamu ก็ประสบอุบัติเหตุต้องเข้าโรงพยาบาล จึงขอให้ Pata มาช่วยอีกครั้ง พอเล่น Live ไปหลายๆ ครั้งเข้า Pata ก็กลายเป็นคนที่ขาดไม่ได้สำหรับ X ไป
- ต้นปี 1987 X ได้สมาชิกที่ลงตัว คือ Yoshiki(Drum),Toshi(Vocal),Taiji(Bass),Hide(Guitar),Pata(Guitar) พวกเขาเล่น Live หลายต่อหลายแห่ง พร้อมๆ กับทำดนตรีของวงให้แน่น และเริ่มทำ VDO: X Clamation มี 3 เพลง คือ XClamation, Stab me in the back, Kurenai ซึ่งมันแสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาลของพวกเขาในตอนนั้น สำหรับแฟนๆ เพื่อจะได้รู้จัก XVDO นั้นนอกจากพวกเขาจะทำเองแล้ว ยังแจกให้แฟนๆ ฟรีๆ ที่มาชม Concert นอกจากแฟนเพลงแล้ว ยังแจกให้วงการเพลงอีก 100 ม้วน การแจก VDO เป็นข่าวดังไปทั่ว ทำให้ชื่อเสียงของวงเป็นที่รู้จักขึ้น ความคิดนี้จะต้องเกิดตอนที่พวกเขาคุยล้อเล่นกันขณะเมาแน่นอน ในตอนนั้นพวกเขาไม่มีสำนักงานและบริษัทแผ่นเสียงที่สังกัดอยู่ ค่าใช้จ่ายจึงต้องออกกันเอง สมาชิกทุกคนพอได้รับคำสั่งว่า "พรุ่งนี้เอาเงินมาคนละ 2แสนเยน" ทุกคนก็รีบไปหาเงินกันใหญ่ นอกจากแสดง Concert แล้ว พวกเขายังรับ jobเล็กๆ น้อยๆ อีกด้วย ผลงานชิ้นนั้นไม่เป็นที่แพร่หลายนัก เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีใครรู้เลยก็ว่าได้ งานนั้นคือ การเล่นเป็นตัวประกอบหนังเรื่อง "Tokyo Pop" เพียงฉากเดียว On Air ไม่ถึง 10 นาที Hide เคยพูดไว้ว่า "กิจกรรมของ X ในช่วงนั้นตั้งใจจะออก TV เพื่อการ promote แต่ไม่ค่อยได้รับการต้อนรับเท่าไหร่ ในช่วงนั้นมีคนต่อต้านมากกว่ายอมรับ เพราะทุกคนไม่เคยเห็นวงอย่างนี้มาก่อน ตอนออก TV ก็พูดจาตลก ทำให้คนดูรู้สึกแปลกใจมากกว่ายอมรับที่พวกผมเป็นอย่างนี้โดยเฉพาะพวกผู้ใหญ่จะไม่ชอบเอาซะเลย เพราะเกลียดวัยรุ่นที่แต่งตัวประหลาดอย่างพวกเขา เรียกว่ารับไม่ได้เลยล่ะ"



1988
- 14 เมษายน ออก ALBUM: Vanishing Vision หลังออกจำหน่ายก็มียอดขายสูงสุดของ INDIES ถึง 3 แสนแผ่น ความสำเร็จของ ALBUM นี้เกิดจากแรงกายแรงใจของพวก เขาเองทั้งสิ้น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นกลุ่มเป็นก้อนในฐานะวงดนตรีของพวกเขาอย่างสมบูรณ์ ที่ผ่านมาพวกเขามักจะถูกมองว่าเป็นพวกออกแนวอิโรติก จากการ ออก TV และการแสดงต่างๆ แต่พอออก Album ชุดนี้แล้ว พวกเขาก็เป็นฝ่ายชนะและได้รับการชื่นชมว่า "เป็นแนวดนตรี Hard Rock ขนานแท้ ซึ่งมีรูปแบบดนตรีที่แน่นอน" ช่วงนั้น X มักจะร่วมแสดงสดกับวงดนตรีในสังกัด Extasy Record เช่น Ladies Room, G-Kill(ปัจจุบันคือ ZI:Kill),Tokyo Yankees อยู่บ่อยๆ พอตกดึกมักจะเจอพวกเขาหรือกลุ่ม Extasy ที่ร้านเหล้าย่าน Mekuro ในตอนนั้น X ชื่อดังในแง่ลบมาก พอดื่มเหล้าก็จะหาเรื่องอาละวาดและทะเลาะกันทันที มีร้านเหล้าที่ห้ามพวกเขาเข้าออกนับไม่ถ้วน และโดนต่อว่าว่า "หลังจาก X มาเยือนแล้ว ก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง" เลยทีเดียว ตอนนั้นพวกเขาอายุแค่ 20 ต้นๆ เท่านั้น คงเลือดร้อนและไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใดเลย
- พฤศจิ谭ายน พวกเขาได้แสดงในงาน All night rock event ชื่อ Street Fighting Man จัดขึ้นที่ MZA (ซึ่งในปัจจุบันไม่มีแล้ว) การแสดง Event ครั้งนี้เป็นการแสดงดนตรีตลอดทั้งคืน เริ่ม 3 ทุ่ม และจบลงตอน 7 โมงเช้าของวันต่อมา เป็น Event ที่ยิ่งใหญ่มาก วงที่ได้ขึ้นแสดงเป็นวง Rock ชั้นเยี่ยมของญี่ปุ่น ได้แก่ Aathem, Dead End , D, Erlanger, Edvils, Gastang, G.D. Flickers, Fusty Nasty, Kinnikushojotai, Presence,Reaction,Ziggy และ X ครั้งนี้ X ได้เล่นเป็นวงแรกในฐานะที่เป็น "วงดนตรีหน้าใหม่ฝีมือไม่ดีนักที่ถูกคาดหวังในการดำเนินกิจกรรมต่อจากนี้ไปมากที่สุด" แต่แรงดึงดูดบนเวทีนั้นไม่น่าเชื่อว่าเป็นวงน้องใหม่เลย พวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างดีจากคนดู และยังได้รับการชื่นชมว่า "เป็นวงดนตรีที่ถูกคาดหวังในการดำเนินกิจกรรมมากที่สุดในปี 1989" ช่วงเปลี่ยนวงหรือขณะแสดงนั้น ภายหลังเวทีพวกที่แสดงเสร็จแล้วจะนั่งล้อมวงดื่มเหล้ากันอย่างสนุกสนานตัวตั้งตัวตีก็คือ Yoshiki และสมาชิกวง X นั่นเอง



1989
- 16 มีนาคม พวกเขาได้จัด เดบิวต์ไลฟ์ที่ Shibuyakokaido เป็นการแสดงสดที่รุนแรงมาก พวกเขาจะเอา solo ของแต่ละคนมารวมกันในการเล่น concert ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว style การเล่นนั้นยังไม่เป็นรูปเป็นร่างเหมือนในปัจจุบัน แต่ก็เป็นโครงสร้างที่แสดงดนตรีต่อกันไปเรื่อยๆ โดยไม่มีเวลาหยุดพักหายใจกันเลย ความสมบูรณ์ของแต่ละเพลงนั้นยอดเยี่ยมมาก เพลงหนักๆ ก็จะเล่นรุนแรงไปเลย แสดงให้เห็นถึงพลังอันมหาศาล Melody line ก็จำง่ายและงดงาม โดยเฉพาะเพลงช้านั้นเป็นงานชิ้นเอกเลยทีเดียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเป็นวงเดียวกันกับตอนที่เล่นเพลงหนัก พวกเขาทั้ง 5 เมื่อได้แสดง concertบนเวทีก็ดูยิ่งใหญ่ เท่ห์อย่างไม่มีที่ติ ดนตรีหนักแต่ melodyสวย รุนแรงแต่งดงาม การตีกลอง 2กระเดือง เล่นกีตาร์คู่ ดีดช่วง solo พร้อมกัน เสียงเบสเป็น Hard Rockแต่ใช้ Shopper
- เมษายน ออก Album: Blue Blood เป็นเดบิวต์ Album อย่างเป็นทางการ การบันทึกเสียงโดยมีสมาชิกวงแบบนี้เป็นครั้งที่ 2 ต่อจาก Vanishing Vision การบันทึกเสียงครั้งนี้เป็นไปอย่างเข้มงวดและใช้เวลานานจนไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นน้องใหม่ พวกเขาได้ทำการบันทึกเสียงจนถึงก่อนการแสดงสด 1 วัน เลยทีเดียว พวกเขาใช้ห้องอัดพร้อมกันถึง 3 แห่ง แห่งหนึ่งใช้อัดเสียงร้อง อีกแห่งใช้ทำ Track Down และอีกแห่งใช้ทำการซ้อมการแสดงสด พวกเขาทำการอัดเสียงที่ห้องอัดของ Sony ระหว่างการบันทึกเสียง Yoshiki ถึงกับต้องนอนที่โซฟาในห้องอัดเลยทีเดียวเพราะไม่มีเวลากลับบ้าน เรื่องที่บอกว่าการบันทึกเสียงของ X นั้นนานมากหรือการที่ Yoshiki จะทำดนตรีให้เป็นไปตามที่คิดได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นที่กล่าวขวัญกันอย่างกว้างขวางตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
- 22 เมษายน Album : Blue Blood ก็ออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ มีทั้งหมด 12นาที ALBUM ชุดนี้ได้รวบรวม X อีกด้านหนึ่งไว้ และเป็นผลงานที่สมกับเป็นผลงานชิ้นเอกจริงๆ เพลงหนักๆ ทำให้รู้สึกเร้าใจ เพลงช้าก็ดูหนักแน่นและเจ็บปวด เป็น ALBUM ที่พวกเขาอยากจะสื่อถึงอารมณ์ดีใจ,โกรธ,เศร้า,สนุก เพลง Rose of pain ซึ่งให้วง Orchestra เต็มรูปแบบ 40 คนบรรเลง มีความยาว 11.49 นาที ให้ความรู้สึกดั่งละคร แสดงให้เห็นถึงความคลาสสิคของพวกเขาโดยเฉพาะ Yoshiki จุดสำคัญของ Album นี้คือ "X จะเปลี่ยนรูปแบบเป็นมืออาชีพ" นั่นเป็นคำพูดที่สมาชิกในวงคิดขึ้นมาเอง แต่พวกเขาก็เปลี่ยนฉากของวงการอย่างหนักแน่นจริงๆ ในขณะที่เป็นวงดนตรีน้องใหม่ที่แต่งตัวกันสุดฤทธิ์สุดเดช ที่ไม่เคยมีมาก่อนในระดับมืออาชีพ Album นี้ขึ้นอันดับ 6 ของ Origon Chart ทันที ซึ่งการที่วง Rock ได้รับความนิยมในปี 1989 นั้นเป็นเรื่องแปลก ใครๆ ก็ตกตะลึง ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เปลี่ยนจาก LPมาใช้ CD พอดี ดังนั้น X ก็เลยทำ LP เป็น 2 แผ่น ที่ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนลำดับเพลง และใช้เพลงหน้า 1-3 เท่านั้น ออกจำหน่าย ซึ่งก็ขึ้น LP Chart อันดับ 1 ของ Origon ทันที หลังจากนั้น Album นี้ก็ยังคงขายดีเรื่อยมา ไม่ใช่แค่จะขายดีเท่านั้น จำนวนผู้มาดูการแสดงก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ Blue Blood Tour แสดงสดทั่วประเทศ 16 แห่ง เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม บัตรขายหมดทุกที่นั่ง ไม่ว่า X จะไปไหนก็ได้รับการต้อนรับอย่างร้อนแรง และได้รับการชื่นชมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในวงการสื่อมวลชน พวกเขาก็ได้รับการต้อนรับเช่นเดียวกัน แต่ไม่ใช่ทั้งหมด มีนักเขียนหลายๆ คนไม่ชอบพวกเขา เพราะคำเล่าลือของ X ในตอนนั้นน่ากลัวมาก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เลย หลังจากที่พวกเขาประสบความสำเร็จจากการ Tour Concert พวกเขาก็ไปต่างประเทศเพื่อทำเพลง Yoshiki ไป London,New York, Paries ส่วน Toshi,Hide,Pata,Taiji ไป LA, New York ความจริง Yoshiki ไป London เพื่อหาข้อมูลเกี่ยวกับการบันทึกเสียงของ Dead. X ได้รับรางวัลนักร้องหน้าใหม่ยอดเยี่ยมของ Nippon Yusentosho เป็นวงดนตรี HARD ROCK วงแรกของญึ่ปุ่นที่ได้รับการยอม รับจากคนทั่วไป รางวัลทั้ง 2 นั้น เป็นการรวบรวมผลจากการโหวตทางโทรศัพท์ทั่วประเทศ จึงหมายความว่าเพลงของ X เป็นเพลงที่ได้รับการโหวตมากที่สุดในบรรดาศิลปินทั้งหมดที่เดบิวต์ในปี 1989 และยังอยู่ในยอดขายอันดับ 1 ของ Single chart นักร้องหน้าใหม่ของ Chart Origon ประจำปี 1989 นั่นเอง จากการที่ X ได้รับรางวัลมากมายขนาดนี้ทำให้ Toshi พูดว่า "มันเป็นการแสดงให้เห็นว่าทุกคนชื่นชมเพลงของพวกเราเป็นจำนวนมากเลย ดีใจมากครับ" X ในตอนนั้นดูท่าทางจะไปได้อย่างราบรื่น แต่ก็ต้องมาเจอกับอุบัติเหตุครั้งใหญ่
- ในเดือน พฤศจิกายน พวกเขาเริ่ม Tour Concert ครั้งที่ 2 คือ Rose & Blood Tour ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน นอกจาก Hall จะใหญ่กว่าการ Tour ครั้งที่แล้ว บัตร Concert ยังขายหมดเกลี้ยงทุกที่นั่งอีกด้วย สมาชิกในวงคึกกันสุดฤทธิ์ การแสดงเต็มไปด้วยพลังอันมหาศาลน่ากลัวกว่าทุกครั้งที่แสดง จากการเล่น Concert หนักๆ ติดต่อกันนานๆ ทำให้ Yoshiki อ่อนล้ามากขึ้น ครั้งแรกที่มีการยกเลิก Concert คือที่ Fukuoka วันที่ 30 ตุลาคม สาเหตุเพราะโรคประจำตัวของ Yoshiki โรคหอบหืดเริ่มมีอาการรุนแรงขึ้น เขาไม่ยอมไปรักษาที่โรงพยาบาล จนถึงวันที่ 8 พฤศจิกายน เขาสลบหลังจาก solo กลองเสร็จ ทำให้ Concert ต้องเลิกกลางคัน และเขาก็ได้ยกเลิก Concert จากนั้นอีกหลายแห่ง และวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นวันแรกของ Concert 2 วัน ที่ Shibuya หลังจากจบการแสดงแล้ว Yoshiki สลบในห้องพัก ถ้า Yoshiki ฝืนต่อไปอาจจะเป็นอันตรายถึงชีวิตการเป็นมือกลองของเขา ในที่สุดพวกเขาจึงตกลงกันด้วยความลำบากใจ ยกเลิก Concert หลังจากนั้นทั้งหมดและเลื่อนเวลาออกไปที่ Shibuya ครั้งที่ 2 ในเดือน ธันวาคม บัตรขายหมดทุกที่นั่งอย่างรวดเร็วและอีกหลายแห่งในปีนั้น ต้องเลื่อนเวลาออกไปจนกว่าร่างกายของ Yoshiki จะกลับสู่สภาพเดิม โรคนั้นชื่อว่า "วงจรเส้นประสาทไร้สมรรถภาพ เนื่องจากการทำงานมากไป รวมทั้งโรคปวดหลัง" จากการให้สัมภาษณ์ของเขาเมื่อพูดถึงการเล่น Concert แล้วเป็นลมในครั้งนั้นเขาพูดว่า "เวลาที่ผมตีกลอง ความรู้สึกของผมอยู่ระหว่างความสบายใจกับความลำบาก บางครั้งสบายใจมาก บางครั้งลำบากมาก ผมคิดว่าเวลาที่ลืมความรู้สึกแบบนั้นได้ คือเวลาที่วิเศษมากที่สุด ผมเกลียดผมที่ยังมีแรงเดินกลับไปหลังเวที ฉะนั้นผมก็จะใช้แรงทั้งหมดจนเป็นลม อยากมี Concert ที่ดีที่สุดทุกครั้ง" "เวลาที่อยู่ใน concert ก็อย่างที่ผมบอก ถ้าไม่เต็ม 100 ละก็ผมจะเกลียดตัวเองมาก อย่างเวลาที่ solo กลอง ความรู้สึกเวลานั้นผมบอกตรงๆ ว่า ผมลืมหมดเป็นลมหลัง solo เสร็จ เล่นเอาทีมงานวุ่นวายไปหมด ทุกคนก็มีงานยุ่งจะตายอยู่แล้ว แล้วยังต้องมายุ่งกับผมอีก แต่ผมยืนคนเดียวไม่ไหวจริงๆ ต้องมีคนมาหิ้ว ความรู้สึกตอนนั้นมันหมดแล้ว Staff เองก็รู้ เฮ้ย! Yoshiki แย่แล้วนี่หว่า รีบมาช่วยยกหัวผมและเอาพัดลมมาให้ บางครั้งผมปางตายก็น็อคไป ถ้าผมกลับไปเล่นกลองต่อไม่ไหวจริงๆ Staff ต้องแอบบอก Hide ว่า "ยัง… ยังไม่ฟื้น! เล่นต่อ… เล่นต่อ!" (หัวเราะ)" จากบทสัมภาษณ์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า Yoshiki นั้นทุ่มเทให้กับการแสดง Concert มากก็เพื่อแฟนๆ เพลงของพวกเขา ในช่วงที่สภาพร่างกายของ Yoshiki ฟื้นดีขึ้นแล้ว พวกเขาก็ได้ประกาศตารางเวลาใหม่ของ Rose & Blood Tour ที่ถูกเลื่อนมาตลอด ในครั้งนี้สิ่งที่ทำให้ตกใจคือ การแสดงสดครั้งแรกของครั้งนี้คือ 14 กุมภาพันธ์ จัดการแสดงที่ Nippon Budohkan แต่เดิมการแสดงที่ Budokhan เป็นสิ่งที่เสริมเข้าไปในตารางเวลา ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนเมนูเพลงในแต่ละวันที่แสดง แต่การลื่นไหลนั้น ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเท่าไหร่ การแสดงสดของ X นั้น มีพลังอันแปลกประหลาด

1990
- 17 พฤษภาคม ก็เสร็จสิ้น Rose & Blood Tour ซี่งใช้เวลามานานกว่า 8 เดือน ที่ Osaka Jo Hall พวกเขาปิดฉากอย่างน่าประทับใจที่ Osaka หลังจากที่ Yoshiki สลบกลางงาน ถึงแม้ Tour Concert เสร็จสิ้นแล้ว แต่พวกเขาก็งานยุ่งเหมือนเดิมเพราะต้องถ่ายทำ VDO: Visual Shock VOL 2.5 พวกเขาอยู่ใน Studio ที่ Roppongi ติดต่อกันหลายวัน จนไม่สามารถปลีกตัวไปทำงานอื่นได้ จากนั้นพวกเขาก็ประกาศการเดินทางไป LA. เพื่อบันทึกเสียง Album ชุดที่ 2 ข่าวเริ่มเงียบหายไปจากสื่อต่างๆ เหลือไว้แต่คำพูดที่ว่า "จะไม่กลับญี่ปุ่นจนกว่าผลงานที่ยอมรับได้จะเสร็จ" แล้วสมาชิกทั้ง 5 ก็เดินทางไป LA,usa
- เดือนพฤศจิกายน การบันทึกเสียงของ X ในเวลานาน อย่าง Album Indies: Vanishing Vision ก็ใช้เวลาบันทึกเสียงทั้งหมด 300 ชม. ส่วน Album: Blue Blood ใช้เวลากว่า 2 เดือน ดังนั้น Album นี้ก็ไม่รู่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ แต่ก่อนไป X ก็ทิ้งผลงานไว้ชุดหนึ่งคือ Film Gig มันต่างจาก Film Concert ทั่วๆ ไป มีทั้ง Film Gig และ message จากสมาชิก ภาพถ่าย VTR ก่อนเดบิวต์ และภาพล่าสุดที่ Usa. ระบบเสียงและประสิทธิภาพนั้นเหมือนการแสดงสดจริงๆ ทำให้บรรยากาศครึกครื้น การแสดงดนตรีที่เหมือนมีพลังการแสดงสดจริงๆ ผู้ชมทั้งกรี๊ดและเต้นท่า Monkey Dance ในเพลง 20TH Century Boy ท่า X Jump ในเพลง X การร้องประสานเสียงในเพลง Endless Rain แฟนๆ มีปฏิกริยาโต้ตอบเหมือน X แสดงสดอยู่จริงๆ Film Concert ที่มี Encore นั้นก็ไม่มีใครทำนอกจาก X Film Concert สถานที่เปิดคือ Tokyo Bey NK Hall จุคนได้ถึง 8,000 คน ฉายทั้งหมด 3 ครั้ง วันที่ 8-9 ธันวาคม บัตรเข้าชมขายหมดอย่างรวดเร็ว รอบๆ Hall ก็จะมีผลิตภัณฑ์ของ X ขาย ทำให้แฟนๆ เพลิดเพลินและสนุกกับโลกของ X ก่อนเข้าชม Concert ด้วย ผู้เข้าชมทุกคนจะได้รับของขวัญเป็น CD single ใส่ในกระป๋องแบบพิเศษ ในนั้นมี CD ซึ่งมี message จากสมาชิกในวง ยาว 25 นาที กับเมล็ดของต้นสนดำพร้อมวิธีการปลูก ซึ่งภาวนาให้แฟนเพลงปลูกอย่างทะนุถนอม ในการ Tour Film Gig ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 1991 แต่ของขวัญที่ได้จะเปลี่ยนสีกระป๋องจากดำเป็นแดงและเปลี่ยนเป็นเมล็ดต้นสนซีดาร์คิดะยาม่าแทน มันแสดงให้เห็นว่า การดูแลของ X ที่ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กน้อย อยากให้แฟนเพลงดีใจ Tour Concert ครั้งนี้มี 33 แห่งทั่วประเทศ จนเข้าสู่ปี 1991 มันทำให้แฟนๆ คลายเหงาและคิดถึงไปได้มากทีเดียว
- ปลายปี 跱 1990 ที่ X ไม่อยู่ก็ได้รับรางวัลดนตรียอดเยี่ยม: Nippon Taisho, รางวัล Music VDO ยอดเยี่ยม และรางวัล: Nippon Gold Disc Taisho



1991
- 7 พฤษภาคม ช่วง Golden Week ก็มีข่าวว่า X เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่ LA (ทั้งๆ ที่มีกำหนดกลับญี่ปุ่นตอนต้นเดือนมิถุนายน) ทั้งหมด 3 ข่าว คือ การจัด Concert ที่ Tokyo Dome ในวันที่ 23 สิงหาคม 1991, Album 2ND : Jealousy จะจัดจำหน่ายในวันที่ 1 กรกฎาคม 1991 และ กลับญี่ปุ่นวันที่ 5 มิถุนายน นับเป็น idea ที่สมกับเป็น X ที่ชอบทำอะไรไม่เหมือนใคร การแถลงข่าวครั้งนี้มีสื่อมวลชนมากมายทั้งญี่ปุ่นและต่างชาติ
- 5 มิถุนายน Hide,Pata และ Taiji ก็กลับมาตามกำหนด แฟนๆ ไปรอรับที่สนามบิน Narita มากที่สุดตั้งแต่สนามบินนี้เปิดทำการมา ส่วน Yoshiki และ Toshi ติดปัญหาในการบันทึกเสียงจึงต้องอยู่ต่อ เลยกลับในวันที่ 7 มิถุนายน และไปออกรายการ Music Station ต่อทันที วันต่อมาก็ทำการบันทึกเสียงเพลงสุดท้ายและเสียงเปียโนต่อ การผลิตขั้นสุดท้ายเสร็จภายในวันที่ 12 มิถุนายน
- 16 มิถุนายน จัดจำหน่ายบัตร Concert: Tokyo Dome จำนวน 50,000 ใบ ขายหมด ภายใน 2 ชม. เท่านั้น และจะ Tour Concert ทั่วประเทศ ชื่อว่า Violence In Jealousy Tour ~Yumenonakanidake Ikite~ ตั้งแต่ปลายเดือนมิถุนายน TV Sport ของ Album ที่มีฉากจูบของ Yoshiki ถูกฉายออก TV และ Album:Jealousy
ที่ห่างหายไป 2 ปี 2 เดือน ก็ขึ้นอันดับ 1 ของ Origon Chart ทันที แสดงให้เห็นถึงอำนาจมหาศาลของ X ได้เป็นอย่างดี Concert ที่ Tokyo Dome ประสบความสำเร็จกว่าที่คิดไว้มาก ในระหว่างตารางการแสดงนั้น คนดูทั้ง 50,000 คน ยืนดูตั้งแต่ต้นจนจบและส่งเสียงกรี๊ดตลอดเวลา เมื่อทุกคนทำ X Jump Tokyo Dome ถึงกับสั่นทีเดียว ความเป็น 1 เดียวบนเวทีกับพลังของคนดูอันร้อนแรง X กำลังไปได้อย่างสวยงาม
- 11 กันยายน ก็ออก Singleแรกของ Album: Silent Jealousy เป็นเพลงที่มีความเป

limited_

ออฟไลน์ ( เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สาธุ สาธุ )
กระทู้ : 614
คะแนนขอบคุณ : 13
มกราคม 30, 2010, 22:33:17
มันยาวจะยาวไปนิดนึง(หรือป่าว)
ต้องขอโทษด้วยนะครับ
 :) :) :) :) :)
 :-* :-* :-* :-*

paozars200

ออฟไลน์
กระทู้ : 109
คะแนนขอบคุณ : 0
มกราคม 30, 2010, 22:41:10
 :-*

limited_

ออฟไลน์ ( เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร สาธุ สาธุ )
กระทู้ : 614
คะแนนขอบคุณ : 13
กุมภาพันธ์ 16, 2010, 15:25:15

 

ด้วยฟังค์ชั่น ตอบด่วน คุณสามารถใช้โค๊ดและ เครื่องหมายแสดงอารมณ์ได้ เหมือนการตั้งกระทู้ธรรมดา แต่สามารถทำได้สะดวกกว่า

ระวัง: หัวข้อนี้ไม่มีการอัพเดทมานานถึง 120 วัน

แจ้งเตือน: โพสของคุณจะไม่แสดงจนกว่าผู้ดูแลจะอนุมัติ.
ชื่อ: อีเมล์: