รายงานข่าวเทคโนโลยีเช้านี้ วิศวกรจากบริษัทเจนเนอรัลมอเตอร์ (GM) ร่วมมือกับนักวิทยาศาสตร์นาซ่า (NASA) ภายใต้ข้อตกลง Space Act พัฒนาหุ่นยนต์ที่สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ทั้งในโรงงาน และในอวกาศ...ว้าว!!!
เจ้าหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศตัวนี้มีชื่อว่า Robonaut 2 หรือ R2 โดยทางทีมพัฒนากล่าวว่า มันทำงานได้เร็วกว่า และฉลาดกว่าหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศรุ่นแรก ตลอดจนหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ตัวอื่นๆ ที่เคยพบเห็นกัน ซึ่งจุดเด่นของ R2 ก็คือ มันได้รับการออกแบบให้สามารถใช้นิ้วทั้งสิบ รวมถึงแขนและมือทั้งสองได้อย่างคล่องแคล่วราวกับมนุษย์ แถมยังมีความแข็งแรงอีกด้วย โดย R2 สามารถใช้มือยกน้ำหนักขนาด 20 ปอนด์ (9 กิโลกรัม) อีกทั้งยังสามารถทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตรายมากๆ หรือไม่สะดวกต่อการทำงานโดยมนุษย์
R2 ได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้ช่วยมนุษย์ ดังนั้น ระบบการทำงานจะประกอบด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย อย่างเช่น การตรวจจับศรีษะของมนุษย์ ซึ่งทำให้ Robonaut สามารถเฝ้าดู และติดตามมนุษย์ได้ทุกฝีก้าว แต่ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีความฉลาดเทียม (AI: Artificial Intelligent) R2 จึงได้รับการพัฒนาให้ทำงาน โดยมีบางงานที่ยังคงต้องใช้ผู้ควบคุมผ่านเทคโนโลยีจริงเสมือน (Virtual Reality) และจากความคล่องแคล่วในการใช้มือและนิ้ว ทำให้เราสามารถให้ R2 ช่วยติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งเป้าหมายก็คือ หุ่นยนต์ผู้ช่วยเหล่านี้จะสามารถใช้แขนและมือทั้งสองข้างได้เร็วเท่ากับ มนุษย์ GM กล่าวว่า การพัฒนาหุ่นยนต์นี้จะนำไปสู่การสร้างรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น และโรงงานที่ปลอดภัยกว่า ในขณะที่ NASA กล่าวว่า เราจะได้ผู้ช่วยมนุษย์ทำงาน และสำรวจอวกาศ
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410844
เจ้าหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศตัวนี้มีชื่อว่า Robonaut 2 หรือ R2 โดยทางทีมพัฒนากล่าวว่า มันทำงานได้เร็วกว่า และฉลาดกว่าหุ่นยนต์ผู้ช่วยนักบินอวกาศรุ่นแรก ตลอดจนหุ่นยนต์ฮิวแมนอยด์ตัวอื่นๆ ที่เคยพบเห็นกัน ซึ่งจุดเด่นของ R2 ก็คือ มันได้รับการออกแบบให้สามารถใช้นิ้วทั้งสิบ รวมถึงแขนและมือทั้งสองได้อย่างคล่องแคล่วราวกับมนุษย์ แถมยังมีความแข็งแรงอีกด้วย โดย R2 สามารถใช้มือยกน้ำหนักขนาด 20 ปอนด์ (9 กิโลกรัม) อีกทั้งยังสามารถทำงานภายใต้สภาพแวดล้อมที่อันตรายมากๆ หรือไม่สะดวกต่อการทำงานโดยมนุษย์
R2 ได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้ช่วยมนุษย์ ดังนั้น ระบบการทำงานจะประกอบด้วยเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย อย่างเช่น การตรวจจับศรีษะของมนุษย์ ซึ่งทำให้ Robonaut สามารถเฝ้าดู และติดตามมนุษย์ได้ทุกฝีก้าว แต่ด้วยข้อจำกัดของเทคโนโลยีความฉลาดเทียม (AI: Artificial Intelligent) R2 จึงได้รับการพัฒนาให้ทำงาน โดยมีบางงานที่ยังคงต้องใช้ผู้ควบคุมผ่านเทคโนโลยีจริงเสมือน (Virtual Reality) และจากความคล่องแคล่วในการใช้มือและนิ้ว ทำให้เราสามารถให้ R2 ช่วยติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ได้ ซึ่งเป้าหมายก็คือ หุ่นยนต์ผู้ช่วยเหล่านี้จะสามารถใช้แขนและมือทั้งสองข้างได้เร็วเท่ากับ มนุษย์ GM กล่าวว่า การพัฒนาหุ่นยนต์นี้จะนำไปสู่การสร้างรถยนต์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น และโรงงานที่ปลอดภัยกว่า ในขณะที่ NASA กล่าวว่า เราจะได้ผู้ช่วยมนุษย์ทำงาน และสำรวจอวกาศ
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410844