ข่าวด่วนประจำวัน

 รถไฟฟ้าเปิดให้บริการตามปกติทุกสถานี
 
   
12 เมษา. 2553 07:53 น.

ดร.อาณัติ อาภาภิรม กรรมการ รถไฟฟ้าบีทีเอส แจ้งว่า จากที่บริษัทเปิดให้บริการเดินรถในบางสถานีเมื่อวานนี้ แต่จากสถานการณ์การชุมนุมในปัจจุบันมีแนวโน้มดีขึ้น และไม่ส่งผลกระทบต่อการให้บริการ ดังนั้นจึงเปิดให้บริการเดินรถเป็นปกติในทุกสถานี ตั้งแต่ เวลา 21.00 น.เมื่อวานนี้ ทั้งสายสีลม และสายสุขุมวิท และจะเปิดให้บริการตามปกติวันนี้เช่นกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชน

โคทมยังหวังรัฐบาล/เสื้อแดงเจรจาร่วมหาทางออก
 
   
12 เมษา. 2553 08:27 น.

นายอมรา พงศาพิชญ์ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กล่าวว่า ยังมีความหวังให้ทั้งรัฐบาลและแกนนำคนเสื้อแดง ได้เจรจาร่วมกันเพื่อที่จะหาทางออกในการแก้ไขวิกฤตการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยส่วนตัวเห็นเงื่อนไขที่เป็นตัวเร่งให้เกิดการการเผชิญหน้า อาทิ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รัฐบาลอาจจะต้องปรับลดในส่วนนี้ออกไปเพื่อลดการเผชิญหน้า เช่นเดียวกันกับการออกหมายจับบรรดาแกนนำก็ อาจจะต้องมีการผ่อนคลายเช่นการเปิดทางให้มีการประกันตัวบุคคลเหล่านั้น สิ่งเหล่านี้หากเกิดขึ้นได้ ก็น่าจะนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของการเจรจาระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ในที่สุด
นายโคทม อารียา ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาและพัฒนาสันติวิธี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า การเจรจาที่มีขึ้น ไม่จำเป็นที่จะต้องให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีบทบาทสำคัญในกลุ่มเสื้อแดงเข้าร่วม เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็เป็นเรื่องยากต่อการที่จะหาทางออก อีกทั้งที่ผ่านมาพ.ต.ท. ทักษิณ ก็พยายามที่จะทำให้สังคมเห็นว่าการเคลื่อนไหวของเสื้อแดงที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ เป็นการเรียกร้องเพื่อประชาธิปไตย หากการเจรจามีพ.ต.ท.ทักษิณ เข้าร่วม ก็อาจจะเกิดคำถามว่าใครอยู่เบื้องหลังรัฐบาล ใครสั่งการรัฐบาลอีกทอดซึ่งหากเป็นเช่นนั้นทุกอย่างก็จะไม่จบ ดังนั้นหากควรจะมีเพียงผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงเท่านั้น

 องอาจตั้งความหวังว่าจะมีการเจรจาเพื่อลดความขัดแย้ง
 
   
12 เมษา. 2553 08:53 น.

นายองอาจ คร้ามไพบูลย์ ส.ส. กรุงเทพฯ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ส.ส.กรุงเทพฯพรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันว่า การเจรจา ระหว่างรัฐบาลและแกนนำเสื้อแดงเป็นความหวังเดียวที่จะยุติความเลวร้ายที่เกิดขึ้นในขณะนี้ได้ จะเห็นว่าเหตุการณ์ในคืนวันเสาร์ที่ลดบรยากาศลงไปได้ ก็เป็นเพราะการที่ทั้งสองฝ่ายจะเจรจาที่จะลดระดับการเผชิญหน้า ดังนั้นเพื่อที่จะลดความขัดแย้งจึงอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน สำหรับการเยียวยาหรือช่วยเหลือกลุ่มคนเสื้อแดงที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ ที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ในกรุงเทพฯ ทางกลุ่มส.ส. กรุงเทพฯ พร้อมที่จะเข้าไปดูแล ในฐานะที่เป็นเจ้าของพื้นที่ แต่คงต้องรอให้บรรยากาศโดยทั่วไปผ่อนคลายมากว่านี้ในแง่ของความรู้สึกโกรธแค้น เพราะไม่มีประโยชน์แต่อย่างหากส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์จะยื่นมือช่วยเหลือ ท่ามกลางความรู้สึกของการชิงชังที่ยังคงมีอยู่

 ปภ.ตั้งเป้าลดอุบัติเหตุช่วงสงกรานต์ลดลงร้อยละ 5
 
   
12 เมษา. 2553 09:12 น.

นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ว่า ปีนี้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องด่านตรวจ โดยมอบหมายให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด ทำหน้าที่ตามนโยบายของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่จัดทำโครงการ 365 วัน ลดอุบัติเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้จุดเสี่ยงซึ่งจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้น รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้การเกิดอุบัติเหตุลดลง โดยในวันนี้ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 12-18 เมษายนนี้ เพื่อประเมินสถานการณ์อุบัติเหตุในแต่ละวัน โดยตั้งเป้าลดอุบัติเหตุลงร้อยละ 5 และจะผลักดันให้อุบัติเหตุเป็นศูนย์ในอนาคต

"กลุ่มเสื้อลายดอก"เยี่ยมคนเจ็บพร้อมเชิญชวนบริจาคเลือด
 
   
12 เมษา. 2553 09:12 น.

"กลุ่มเสื้อลายดอก"จะมีการปฏิบัติตามมาตรการ "สะเก็ดดาวแห่งรัก" สร้างรอยยิ้มและความสุขกลับคืนสู่สังคมไทย เท่าที่จะทำได้ โดยจะเดินทางไปรวมกันที่หน้าร.พ.พระมงกุฎฯเวลา13.00 น. อ่านแถลงการณ์ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากนั้นจะเข้าเยี่ยมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงเมื่อวันที่ 10 เม.ย. 53
จากนั้นจะมีการบริจาคเลือดให้ผู้ป่วยทั้งทหารและประชาชน พร้อมระดมกำลังประชาสัมพันธ์ "เลือดไทยช่วยไทย" ให้พี่น้องประชาชนเสื้อทุกสี ร่วมบริจาคเลือดเพื่อผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ เพื่อให้คนไทยได้เชื่อมร้อยต่อถึงกัน ช่วยเหลือกันโดยไม่คำนึงถึงสี และเป็นการใช้เลือดให้เป็นประโยชน์อย่างสร้างสรรค์
ส่วนมาตรการต่อไปของกลุ่มคือการพยายามหาเจ้าภาพในการหาความจริงจากเหตุการณ์ครั้งนี้ โดยให้วุฒิสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และแพทยสภาเป็นเจ้าภาพร่วมในการหาคณะกรรมการหาความจริงจากเหตุการณ์ให้เร็วที่สุด เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งโดยเร็ว

 นักท่องเที่ยวในไทยเล่าประสบการณ์ม็อบ
 
   
12 เมษา. 2553 09:22 น.

เว็บไซท์หนังสือพิมพ์ เดลี่ เมล รายงานว่า ชาวอังกฤษได้รวมอยู่ในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่หลั่งไหลออกจากกรุงเทพฯ ถนนข้าวสาร ซึ่งเป็นแหล่งยอดนิยมของนักท่องเที่ยวประเภทแบกเป้ และในจำนวนชาวอังกฤษที่ต้องรีบหนีกลับประเทศ ได้รวมถึงพวกที่หวังจะไปเที่ยวเกาะสมุยด้วย ซึ่งนักท่องเที่ยวคนหนึ่ง บอกว่า เธอกับเพื่อนอยู่ในห้องของโรงแรม บั๊ดดี้ ตอนที่ได้ยินเสียงดังคล้ายพลุ และเมื่อจะลงไปดู เจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงได้เข้ามาขวางให้อยู่แต่ข้างใน
นักท่องเที่ยวต่างชาติ เล่าว่า เห็นการต่อสู้กันพัลวันที่ด้านนอก หลังจากนั้นก็ตามด้วยเสียงระเบิด มีคนถูกยิง และพนักงานโรงแรมคนไทย ได้พยายามตามแขกให้กลับเข้าไปอยู่แต่ภายในโรงแรม แม้ว่า กระทรวงต่างประเทศอังกฤษ จะยุติการเตือนพลเมืองไม่ให้เดินทางมายังประเทศไทยแล้ว แต่ก็บอกว่าให้ระมัดระวังอย่างสูงสุด

แกนนำแดงยังไม่ยืนยันเส้นทางแห่ศพ
 
   
12 เมษา. 2553 09:38 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากราชประสงค์ว่ามีรายงานว่าวันนี้ในเวลา10.00น.กลุ่มเสื้อแดงจะแห่ศพผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ปะทะเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมาแต่ยังไม่มีการระบุว่าจะใช้เส้นทางใดแต่คาดว่าอาจใช้เส้นที่กลุ่มเสื้อแดงเคยเคลื่อนไหวก่อนหน้านี้
อย่างไรก็ตามการแห่ศพดังกล่าวนายจรัญ ดิษฐาภิชัย ได้ทำความเข้าใจกับผู้ชุมนุมว่การแห่ศพทั่วโลกก็ทำกันถือเป็นการยกย่องผู้เสียชีวิต ไม่ต้องคิดอะไรมาก
ด้านความเคลื่อนไหวที่สะพานผ่านฟ้าแกนนำบนเวทีประกาศขอสนับสนุนรถ 6 คันเพื่อบรรทุกโรงศพและในขณะนี้มีการเตรียมรถเครื่องเสียงหกล้อ 2 คัน พร้อมรถจักรยานยนตร์เตรียมนำขบวนซึ่งมีคาดกันว่าการแห่ศพดังกล่าวอาจไปในสถานที่ที่เป็นสัญญลักษณ์ของรัฐบาลเช่นพรรคประชาธิปัตย์แต่ยังไม่มีการยืนยันจากแกนนำ
สำหรับที่อนุสาวรีย์มีสองศพที่อยู่ในโรงติดแอร์ที่เหลือเป็นโรงเปล่าสีแดง ขณะที่ผู้ชุมนุมเสื้อแดงได้กระจายเต็มถนนราชดำเนิน ส่วนบนเวทีได้มีการจัดรายการสนทนาข่าวโดยมีนายประแสง มงคลศิริ นายสมคิด บานไธสง ส.ส.เพื่อไทยร่วมดำเนินรายการ ส่วนแกนนำที่อยู่ที่เวทีสะพานผ่านฟ้ามีนายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ นายอริสมัตน์ พงษ์เรืองรอง

 รถเมล์สาย 47 ตกคลอง
 
   
14 เมษา. 2553 01:42 น.


กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.ต.วัชรินทร์ อ่วมฟุ้ง พนักงานสอบสวน(สบ 1) สน.พระราชวัง รับแจ้งเหตุรถประจำทางขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.)ตกลงไปภายในคลองคูเมืองเดิม บริเวณใกล้กับแยกพระพิทักษ์ ถ.อัษฎางค์ แขวงวังบูรพาภิรมย์ เขตพระนคร กทม. จึงรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถประจำทางขสมก.สีครีมแดง สาย 47 หมายเลขข้างรถ 4-40472 หมายเลขทะเบียน 12-0367 กทม. วิ่งระหว่างท่าเรือคลองเตย-กรมที่ดิน สภาพด้านหน้าตกลงไปในน้ำ ท้ายรถเกยอยู่บนขอบฟุตบาท นอกจากนี้มีผู้ได้รับบาดเจ็บถูกรถคันดังกล่าวเฉี่ยวชน ถูกนำตัวส่งรพ.กลาง ทราบชื่อต่อมาคือ นายณรงค์ ไม่ทราบนามสกุล อายุ 45 ปี อาชีพเข็นผักอยู่ที่ปากคลองตลาด ได้รับบาดเจ็บศีรษะแตก ขาหัก
สอบสวนทราบว่า นายนที คุ้มม่วง อายุ 31 ปี พนักงานขับรถประจำทางคันดังกล่าว ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถมาจากอู่รถประจำทางสาย 47 ถ.ราชินี โดยยังไม่ได้รับผู้โดยสาร จากนั้นได้ข้ามสะพานคูเมืองเดิม มุ่งหน้าถ.อัษฎางค์ แต่ปรากฏว่าระหว่างนั้นพวงมาลัยรถบังคับไม่อยู่ จึงเสียหลักพุ่งชนนายณรงค์ ที่นั่งอยู่ริมคลองได้รับบาดเจ็บ ก่อนที่รถจะพุ่งตกลงไปในคลอง ตนพร้อมกับ นายชัยณรงค์ เหมาะดี พนักงานเก็บค่าโดยสาร จึงได้ตะเกียกตะกายปีนออกมาทางหน้าต่างรถ
อย่างไรก็ตามจากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ระบุว่า นายชัยณรงค์ ซึ่งเป็นพนักงานเก็บค่าโดยสาร เป็นผู้ที่ขับรถดังกล่าวมา แต่เนื่องจากไม่ชำนาญ จึงเกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น ซึ่งภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวทั้ง 2 คน ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือด ซึ่งปรากฏว่าไม่พบ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสอบสวน เพิ่มเติมเพื่อหาคนขับรถที่แท้จริง เบื้องต้นเตรียมแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

 จ่อยิงหัวช่างทาสีเรือขณะกลับบ้าน
 
   
14 เมษา. 2553 01:55 น.

เมื่อเวลา 00.05 น. พ.ต.ท.ประจวบ กลับนวล สารวัตรเวรสถานีตำรวจภูธรเมืองสงขลา ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีคนถูกยิงเสียชีวิตอยู่บนถนนหน้าร้านขันเงินคาราโอเกะ ตรงข้ามปั้มน้ำมันท่าเทียบเรือประมงใหม่สงขลา เขตเทศบาลนครสงขลา อ.เมือง จ.สงขลา จึงรุดไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบศพ นายเสือ (ไม่ทราบนามสกุล) อายุประมาณ 45 ปี อาชีพช่างทาสีเรือ สวมเสื้อโปโลสีส้มร่องดำ กางเกงขาสั้นสีดำดอกขาว นอนเสียชีวิตโดยมีเลือดไหลนองพื้น ใกล้กับศพพบปลอกกระสุนปืน 11 มม. 1 ปลอก จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน ที่ขอบกางเกงด้านหลังได้พกขวดเหล้าชนิดแบน 1 ขวด
เบื้องต้นทราบว่า ผู้ตาย ได้เดินออกจากท่าเทียบเรือประมงใหม่เพื่อเดินทางกลับบ้าน ระหว่างนั้นได้มีคนร้ายน่าจะเป็นคู่อริสะกดรอยตามมา ขณะที่เดินมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุคนร้ายได้ใช้ปืนจ่อยิงที่ศรีษะบริเวณท้ายทอย 1 นัดและบริเวณใต้ไหล่ขวาอีก 1 นัด จากนั้นได้กระโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ที่จอดติดเครื่องรออยู่หลบหนีไป

รวบพ่อค้ายาบ้าคาด่านตรวจ
 
   
14 เมษา. 2553 01:57 น.


เมื่อเวลา 00.30 น. ที่ผ่านมา พ.ต.ต.มานพ ภุชชงค์ สว.จร.สภ.ศรีราชาพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรตั้งจุดตรวจให้การบริการแก่ประชาชนในเทศกาลสงกรานต์ 7 วันอันตรายที่ถนนสุขุมวิทขาเข้าพัทยาด้านหน้าร้านมงคลชัย โดยเรียกตรวจสอบผู้กระทำผิดพรบ.จราจรและตรวจวัดแอลกอฮอล์แก่ผู้ดื่มสุราแล้วขับขี่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ก็พบว่ามีนายกิตติชัย ถาวร อายุ 24 ปีขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดงดำ หมายเลขทะเบียน กกข-494 ชลบุรี สะพายกระเป๋าสีน้ำตาลขี่ผ่านมาทางด่านตรวจท่าทางมีพิรุธเมื่อเห็นด่านตรวจ จึงได้ขอตรวจค้นภายในกระเป๋าก็พบว่ามียาบ้า 19 เม็ดอยู่ในถุงพลาสติกสีขาวแบบมีฝาปิด อุปกรณ์การเสพยาบ้า 1 ชุด เงินสด 2,200 บาท
เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้ไปซื้อยาบ้ามาจากหญิงขายบริการในซอยเลิศทรัพย์ในราคาเม็ดละ 200 บาท และนำไปจำหน่ายต่อให้ลูกค้าที่เป็นสาวขายบริการและเยาวชนในพื้นที่ศรีราชา ในราคาเม็ดละ 280- 300 บาท โดยเห็นว่ารายได้ดีและตนเองก็ติดยาบ้าอยู่ด้วย
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย หลังจากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.ศรีราชาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

พี่ชายเมาทำท่าจุดไฟเผาบ้าน สุดท้ายวอดทั้งหลัง
 
   
14 เมษา. 2553 02:01 น.


กลางดึกที่ผ่านมา ร.ต.อ.สุวิชา เตชะวรรณวุมิ ร้อยเวร สภ.เมืองกำแพงเพชร ได้รับแจ้งเหตุเกิดเพลิงไหม้บ้านเลขที่ 1 ซอย 5 ถนนกะโลทัย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ จังหวัดกำแพงเพชร จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุอยู่ในชุมชนกะโลทัย เขตเทศบาลเมืองกำแพงเพชร พบเพลิงกำลังลุกไหม้บ้านไม้ชั้นเดียวจนเสียหายทั้งหลัง ชาวบ้านต่างนำอุปกรณ์ฉีดน้ำ ถังน้ำ ไปสาดดับไฟที่ลุกโชน ใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยสภาพบ้านเสียหายหมดทั้งหลัง เหลือเพียงเสาปูน ทรัพย์สินภายในบ้านที่ไม่สามารถขนย้ายออกมาได้ทันเสียหายทั้งหมด
จากการสอบถามนายประวิทย์ มีกำแหง อายุ 28 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในบ้านกล่าวว่า ตนมีพี่น้องรวมกันทั้งหมด 5 คน มีพี่ชายตนชื่อนายนิรุต มีกำแหง อายุ 32 ปี อาศัยอยู่ในบ้านอีกหลังหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง ปกติพี่ชายมักจะดื่มเหล้าเป็นประจำ และหลังดื่มเหล้ามักจะโมโหและมีเรื่องกับมารดาเป็นประจำ ก่อนเกิดเหตุนายนิรุตได้ดื่มเหล้าคนเดียวฉลองสงกรานต์ตั้งแต่เช้าจนค่ำ หลังจากนั้นได้เข้ามาที่บ้าน เข้าไปในครัวพร้อมกับบ่นว่า หิวข้าวไม่มีใครทำกับข้าวให้กิน ตนมองเห็นพี่ชายทำท่าแกล้งจุดไฟเผาไม้ในบ้าน จนเกิดเปลวไฟขึ้นจึงรีบดับไฟ แต่เพลิงเกิดลุกไหม้อย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถดับได้ จึงเรียกมารดาลุกจากที่นอนออกไปไนที่ปลอดภัยนอกบ้าน
ต่อจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัวนายนิรุตไปสอบสวนปากคำ และดำเนินคดีในข้อหาวางเพลิงทำให้ทรัพย์สินเสียหายตามกฎหมายต่อไป

 ตร.สุทธิสาร ปืนดุยิงสาวใหญ่เจ็บ
 
   
14 เมษา. 2553 06:40 น.


เมื่อเวลา 02.30 น. ร.ต.ท. เฉลิมชัย ประสิทธิ์กุลไพศาล พงส.(สบ1) สน.สุทธิสาร รับแจ้งเหตุมีผู้หญิงถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายในบ้านเลขที่ 468 ซอยวิภาวดีรังสิต12 ถนนวิภาวดีรังสิตขาเข้า แขวงและเขตดินแดง กทม. จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว พบร่างนางวิภา ชื่นมาลัย อายุ 53 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ต้นขาขวามีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด 1 นัด เลือดไหลนองเต็มพื้น จึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลเปาโลเมโมเรียล สะพานควาย
ขณะที่ นางมานิดา ไม่ทราบนามสกุล น้องสาวนางวิภา เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 13 เม.ย. ขณะที่ตนนั่งอยู่ภายในบ้านกับพี่สาว มี ด.ต.ชื่อเล่นว่า “ต้อย” ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ทราบแต่เพียงว่าเป็นตำรวจอยู่ที่ สน.วิภาวดี และมาติดพันน.ส.เอ(นามสมมติ) อายุ 18 ปี ลูกสาวของนางวิภา ได้ขับรถยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค สีบรอนซ์ทอง หมายเลขทะเบียน วธ 5005 กรุงเทพมหานคร มาที่บ้านของนางวิภา เมื่อมาถึงได้สอบถามหา น.ส.จุฑามาศ ด้วยน้ำเสียงดุดันและแสดงอาการโมโหตลอดเวลา แต่พอนางวิภาปฏิเสธไม่รู้ว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน ด.ต.คนดังกล่าวก็ได้ขับรถกลับไปด้วยความเร็ว
นางมานิดา กล่าวต่อไปว่า จากนั้นไม่นาน ด.ต.ต้อยก็ขับรถคันดังกล่าวกลับมาที่บ้านอีกครั้ง และขอเข้าไปนั่งดื่มเหล้าภายในบ้าน ซึ่งนางวิภาก็อนุญาต แต่พอ ด.ต.ต้อยดื่มเหล้าไปได้ไม่นาน ก็ถามถึง น.ส.เบลล์อีกครั้ง พอนางวิภาตอบว่าไม่รู้ว่าลูกสาวอยู่ที่ไหน ด.ต.ต้อยก็แสดงอาการไม่พอใจแล้วชักปืนที่พกมายิงใส่ขานางวิภาขณะกำลังอุ้มหลานสาวอยู่ในมือจนได้รับบาดเจ็บสาหัส แล้วหลบหนีไปโดยทิ้งรถยนต์ของตัวเองไว้ข้างบ้าน
ด้าน ร.ต.ท. เฉลิมชัย กล่าวว่า เบื้องต้นต้องรอสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บก่อนว่า เรื่องทั้งหมดเกิดจากสาเหตุใด และใครเป็นผู้ก่อเหตุกันแน่ อย่างไรก็ตาม น้องสาวผู้ได้รับบาดเจ็บและเพื่อนบ้านนางวิภา ระบุว่าผู้ก่อเหตุคือ ด.ต.ต้อย ก็จะทำการตรวจสอบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่และอยู่ที่ไหน และเมื่อทราบแล้วก็จะเรียกตัวมาสอบปากคำ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวจะเข้าข่าย ทำร้ายร่างกายโดยใช้อาวุธปืน ส่วนจะเข้าข่ายอื่นๆ อีกหรือไม่ต้องรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ผู้เห็นเหตุการณ์และผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งก่อน

 ปชป.นัดถกทีมกม. 20เม.ย.ให้"ชวน"ปธ.สู้คดียุบพรรค
 
   
14 เมษา. 2553 06:41 น.


นายนิพิฐฎ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง และประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย ของพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเตรียมต่อสู้ในคดียุบพรรค ว่า พรรคไม่ได้หารืออย่างเป็นทางการ เพราะอยู่ในช่วง
เทศกาลสงกรานต์ แต่ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ผ่านทีมกฎหมายพรรคแล้ว ทั้งนายทศพล เพ็งส้ม ส.ส.นนทบุรี นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.กทม. และนายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระนอง พรรคประชาธิปัตย์
โดยตนเองจะนัดประชุมอีกครั้งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ เพื่อร่วมหารือและรวบรวมข้อมูลทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวอยากเสนอให้นายชวน หลีกภัย ประธาน
สภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาเป็นประธานชุดคณะทำงาน ในการต่อสู้คดียุบพรรคในครั้งนี้อีกรอบ เนื่องจากนายชวนเคยทำหน้าที่เป็นประธานในคดียุบพรรค เมื่อครั้งที่พรรค
ไทยรักไทยกล่าวหา ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ในคดีพรรคใหญ่จ้างพรรคเล็กลงเลือกตั้ง และได้รับชัยชนะมาแล้ว ครั้งนั้นคณะทำงานของพรรคได้ทุ่มเททำงาน หาพยานหลักฐาน ข้อเท็จจริง
มาต่อสู้ในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ และนายชวนยังมีประสบการณ์ รวมทั้ง ได้รับการยอมรับจากทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่มีบารมีของความดีที่ทุกฝ่ายยอมรับ ซึ่งไม่มีใครปฏิเสธในเรื่องนี้

อย่างไรก็ตาม หลังจากการหารืออย่างเป็นทางการแล้ว จะเชิญบุคคลที่ถูกพาดพิงในคดีนี้ทั้งหมดมาให้ข้อมูลต่อคณะทำงานอย่างเป็นทางการ และเป็นระบบมากขึ้น เพื่อนำมาเป็นข้อมูลเรียบเรียงเหตุการณ์ พยานหลักฐาน เพื่อใช้ต่อสู้ในชั้นศาลต่อไป

 หุ้นสหรัฐปิดบวกแม้ตัวเลขศก.ไม่น่าพอใจ
 
   
14 เมษา. 2553 07:22 น.


ตลาดหุ้นสหรัฐปรับขึ้นไปอยู่ในแดนบวกได้ ทั้งที่ตัวเลขเศรษฐกิจโดยรวมไม่ค่อยน่าพอใจนัก โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,019.42 จุด ปรับขึ้น 13.45 จุด หรือ 0.12% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,465.99 จุด เพิ่มขึ้น 8.12 จุด หรือ 0.33% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,197.30 จุด เพิ่มขึ้น 0.82 จุด หรือ 0.07% ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ ปรับลดลงเป็นวันที่ 5 โดยลงไปอีก 29 เซนต์ ปิดที่ระดับ 84.05 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล

อุตุฯ เตือนอีสานมีพายุฟ้าคะนอง-ลูกเห็บตก
 
   
14 เมษา. 2553 07:27 น.


กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานว่า ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดในหลายพื้นที่ อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณเวียดนามตอนบนแล้ว คาดจะแผ่เข้ามาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยวันนี้ ลักษณะดังกล่าวจะทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือด้านตะวันออกมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงและลูกเห็บตกเกิดขึ้นได้