ข่าวด่วนประจำวัน

 แผ่นดินไหว6.9 ที่มณฑลชิงไห่จีน ไม่มีรายงานเสียหาย
 
   
14 เมษา. 2553 08:17 น.


สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐ หรือ USGS รายงานในวันนี้ว่า ได้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 ริคเตอร์ที่มณฑลชิงไห่อันห่างไกล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน เมื่อเช้าวันพุธ ขณะที่หน่วยงาน
แผ่นดินไหวของจีนวัดความรุนแรงได้ 7.1 ริคเตอร์ USGS ระบุว่า แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 7:49 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.49 น.ตามเวลาในไทย โดยมีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวห่างจากเมืองโกลมัดไปทางตะวันออกเฉียงใต้ค่อนไปทางใต้ 380 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 46 กิโลเมตร และภายในครึ่งชั่วโมงต่อมา ก็ตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อคสองระลอก คือขนาด 5.3 และ 5.2 ริคเตอร์ บริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวเป็นภูมิภาคที่มีความสูงติดกับชายแดนทิเบตทมทางเหนือ และเป็นพื้นที่ๆมีประชาชนอาศัยอยู่อย่างกระจัดกระจาย จึงคาดว่าคงไม่มีความเสียหายรุนแรงทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน

 ตร.มะเขือเทศ ร่วมม็อบทำทองหาย5บ.ประสานแกนนำช่วยหา
 
   
14 เมษา. 2553 09:13 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 08.00 น. มี ด.ต.มนต์สิทธิ์ กรุงแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.คลองตัน ได้แต่งชุดเครื่องแบบเข้าพบนายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ แกนนำ นปช.ที่หลังเวทีเพื่อขอให้ตรวจดูกล้องวงจรปิดบริเวณห้างเซ็นทรัลเวิล์ด หลังจากเมื่อคืนได้มาชุมนุมร่วมกับคนเสื้อแดง และได้เดินทางกลับบ้านในเวลาตี 2 และพบว่าสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท ได้หายไป จึงอยากให้ทางแกนนำช่วยตรวจดูกล้องซีทีวีว่าพบบุคคลต้องสงสัยว่าขโมยไปหรือไม่

 นปช.เตรียมเคลื่อนอีกยังไม่บอกที่ รอประกาศ10โมง
 
   
14 เมษา. 2553 09:13 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการชุมนุมกลุ่มเสื้อแดงที่บริเวณแยกราชประสงค์ ว่าผู้ชุนุมต่างกระจัดกระจายไปทำกิจธุระส่วนตัว บ้างก็ยังคงนอนพักผ่อน ขณะที่บนเวทียังคงเป็นการสรุปข่าวพาดหัวตามหน้าหนังสือพิมพ์ พร้อมกล่าวโต้แย้งและโจมตีการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่มุ่งเสนอข่าวมีกองกำลังติดอาวุธ แทรกแซงอยู่กับกลุ่มคนเสื้อแดง
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. เปิดเผยว่า วันนี้อาจมีการเคลื่อนไหวเล็กๆ แต่จะเป็นจุดไหนและเมื่อไหร่จะต้องมีการประชุมของแกนนำอีกครั้ง และจะประกาศอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น. ส่วนการจัดทำดีวีดีภาพเหตุการณ์การปะทะในวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะนี้อยู่ระหว่างเลือกภาพจัดทำเพื่อปั๊มเป็นดีวีดีแจกจ่ายประชาชน

 สื่อนอกเผยคลิปปะทะ10เม.ย.มีเลเซอร์ล็อกเป้านายทหาร
 
   
14 เมษา. 2553 09:24 น.




สำนักข่าว เอเอฟพี เผยแพร่คลิปวิดีโอ เหตุการณ์การปะทะกัน ระหว่างกลุ่มคนเสื้อแดง และ ทหาร เมื่อวันเสาร์ที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดย เอเอฟพี ระบุว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปที่ถ่ายไว้โดยผู้ชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงเอง สำหรับคลิปวิดีโอนี้ได้ถูกโพสต์ขึ้นบน เวบยูทูป ความยาว 53 วินาที ในช่วงระหว่างวินาทีที่ 8 - 12 ได้จับภาพนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา ซึ่งยืนอยู่บนรถ กำลังยิงปืนพกสั้นขึ้นฟ้า ตามขั้นตอนการปฏิบัติการสลายการชุมนุมที่ ศอฉ.

ระหว่างที่ นายทหารคนดังกล่าว ยิงปืนขึ้นฟ้า ได้ปรากฏจุดเลเซอร์สีเขียว และ สีแดงขึ้น บริเวณส่วนศีรษะของนายทหารระดับผู้บังคับบัญชา คล้ายกับเลเซอร์ระบุเป้าในการโจมตี ขณะที่ อีกไม่กี่นาทีต่อมาก็เกิดประกายไฟ และ เสียงระเบิดขึ้นตามมา ในหมู่เจ้าหน้าที่ทหาร และ ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นตามมา จากนั้นภาพจึงมีการตัดมาที่กลุ่มคนเสื้อแดง เข้าทุบทำลายรถขยายเสียงของทางราชการ และ ภาพเจ้าหน้าที่ กลุ่มผู้ชุมนุมนอนได้รับบาดเจ็บหลายราย

ชมคลิปที่นี่ Dramatic footage from night battle in Bangkok

 ศพช่างภาพชาวญี่ปุ่นเหยื่อปะทะถึงบ้านเกิดแล้ว
 
   
14 เมษา. 2553 09:30 น.


สำนักข่าวเกียวโด และเว็บไซท์ เจแปน ไทม์ส รายงานว่า ศพของนายฮิโรยูกิ มูราโมโต้ ช่างภาพวัย 43 ปี ที่ทำงานให้กับสำนักข่าวรอยเตอร์ส ประจำสำนักงานใหญ่ที่กรุงโตเกียว เดินทางถึงสนามบินนาริตะ จังหวัดชิบะ ของญี่ปุ่นแล้ว เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ขณะที่ตำรวจได้ตัดสินใจจะเริ่มดำเนินการสืบสวนในคดีอาญาไปสู่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

นายมูราโมโต้ ถูกยิงเสียชีวิตในระหว่างการปะทะกันระหว่างกองกำลังรักษาความมั่นคงกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่กรุงเทพฯ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน และเขาเป็นหนึ่งในจำนวนนั้น ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวนมากกว่า 800 คน

 โบลิเวียออกเครื่องดื่มผลิตจากใบโคคาที่ใช้ผลิตโคเคน
 
   
14 เมษา. 2553 10:07 น.


นายวิคเตอร์ เลเดซม่า เจ้าของบริษัทผลิตเครื่องดื่มแห่งหนึ่งของโบลิเวียเปิดเผยเมื่อวันอังคารว่าได้วางตลาดเครื่องดื่มชื่อ โคคา คอลลา ที่ผลิตจากใบโคคาแล้ว โดยกำลังจัดจำหน่ายเครื่องดื่ม
ชนิดนี้ 12,000 ขวด ที่กรุงลาปาซ เมืองซานตา ครูซ และเมืองโคชาบามบา เครื่องดื่มชนิดนี้มีสีดำบรรจุขวดที่มีฉลากสีแดง และขวดขนาดครึ่งลิตรราคา 1.50 ดอลลาร์ หรือเกือบ 50 บาทนายเลเดซม่าเปิดเผยว่าชื่อนี้ได้รับเลือกจากชาวไร่ในท้องถิ่น โดยมาจากชื่อของโบโคคา กับชื่อของชาวที่ราบสูงคอลลา ผู้เคี้ยวใบชามาหลายศตวรรษแล้ว และการวางตลาดมีขึ้นหลังจากเมื่อต้นมกราคม ประธานาธิบดีอีโว โมราเลส ผู้นำที่เป็นชนเผ่าพื้นเมืองคนแรกของโบลิเวีย ผู้ชอบเคี้ยวใบโคคา ไม่เว้นแม้แต่ขณะไปประชุมในเวทีสหประชาชาติ ประกาศจะส่งเสริมการปลูกโคคาอีกขั้น ด้วยการผลิตน้ำอัดลมยี่ห้อนี้ เพื่อแข่งกับน้ำอัดลมยี่ห้อดัง "โคคา โคลา" ของสหรัฐฯ

ใบโคคาเป็นส่วนผสมสำคัญของโคเคน แต่ชาวอินเดียในโบลิเวียใช้เคี้ยวและใช้เป็นยามาตั้งแต่โบราณ และคนในแถบเมทือกเขาแอนดีสก็นิยมเคี้ยวใบโคา หรือนำใบมาทำเป็นชาดื่ม โดยใช้เป็นยากระตุ้นอย่างอ่อนๆหรือใช้รักษาโรคแพ้ความสูง ก่อนหน้านี้เคยมีข่าวฮือฮาในออสเตรเลียเรื่องเครื่องดื่มคาเฟอีนชื่อโคเคนที่ไม่ได้เกี่ยวกับกับโคเคนแต่อย่างใด และเมื่อปีที่แล้วมีรายงานข่าวพบโคเคนเจือปนจำนวนเล็กน้อยในเครื่องดื่มกระทิงแดงในหลายประเทศด้วย

จตุพรอ้างยุบรวมราชประสงค์สะดวกดูแลผู้ชุมนุม
 
   
14 เมษา. 2553 11:45 น.


เมื่อเวลา 11.14 น. นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช. ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวก่อนขึ้นเวทีปราศรัย ระบุว่า สาเหตุที่จะต้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมที่อยู่สะพานผ่านฟ้าฯ มารวมกับที่สี่แยกราชประสงค์ เนื่องจากบริเวณสี่แยกราชประสงค์ มีตรอกซอกซอยน้อยกว่าบริเวณสะพานผ่านฟ้าซึ่งจะสะดวกต่อการดูแลพี่น้องประชาชนที่มาร่วมชุมนุม และเห็นแล้วว่ารัฐบาลไม่ได้เสียดายบริเวณสะพานผ่านฟ้าฯ แต่ห่วงใยและให้ความสนใจแยกราชประสงค์ซึ่งเป็นย่านธุรกิจมากกว่า

ส่วนที่บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ด้านโรงเรียนสตรีวิทยานั้น ช่วงเช้าวันนี้ ได้มีการจัดสร้างเมรุเผาศพผู้เสียชีวิตจากการใช้กำลังเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยนายจตุพร กล่าวว่า หากกลุ่มผู้ชุมนุมได้ย้ายไปชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ศพดังกล่าวจะยังไม่มีการเผา ตามที่เคยกำหนดไว้ในวันที่ 15 และ 16 เม.ย. โดยการเผาศพจะทำต่อเมื่อบรรลุภารกิจรัฐบาลยุบสภา อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้จะมีการนำศพผู้ชุมนุมไปฝากไว้ที่วัดก่อน

 ตายแล้ว 67 ศพหลังแผ่นดินไหว 7.1 ริกเตอร์ที่จีน
 
   
14 เมษา. 2553 11:57 น.


สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นและทหารที่ไม่เปิดเผยนาม ที่ว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 67 คน และอีกหลายคนยังถูกฝังอยู่ใต้ซากอาคารที่พังทลายลงมาในพื้นที่ๆมีประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบาง ในมณฑลชิงไห่อันห่างไกล ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน แถวชายแดนติดกับทิเบต หลังเกิดแผ่นดินไหวเมื่อเช้านี้ ที่จีนระบุว่ามีความรุนแรง 7.1 ริคเตอร์ แต่สำนักงานสำรวจทางธรณีวิทยาสหรัฐฯ หรือ USGS วัดความรุนแรงได้ 6.9 ริคเตอร์ และว่าหลังแผ่นดินไหว ได้มีอาฟเตอร์ช็อคตามมาอีก 3 ระลอก ซึ่งครั้งรุนแรงสุดคือ 5.8 ริคเตอร์

สำนักข่าวซินหัวอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชื่อ หวง หลี่มิง ที่ว่าได้มีการส่งทหารอออกช่วยเหลือประชาชนที่ติดอยู่ในซากปรักหักพังแล้ว ขณะที่มีการตัดสัญญานโทรศัพท์ในช่วงแรกๆ แต่ปัจจุบันได้กลับมา
เปิดใช้งานแล้ว แผ่นดินไหวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 7:50 น.ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 06.50 น.ตามเวลาในไทย โดยมีจุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวห่างจากเมืองโกลมัด เมืองใหญ่แห่งหนึ่งของมณฑลชิงไห่ ไปทางตะวันออกเฉียงใต้ค่อนไปทางใต้ 380 กิโลเมตร ที่ระดับความลึก 10 กิโลเมตร

บริเวณที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ที่ราบสูงของจีนที่เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง เป็นถิ่นที่อยู่ของชาวมองโกเลียและชาวนากับผู้เลี้ยงปศุสัตว์ของทิเบต เป็นพื้นที่ๆเต็มไปด้วยถ่ายหิน ดีบุก ตะกั่วและทองแดง เมื่อ
สิงหาคมปีที่แล้ว เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.2 ริคเตอร์ที่เมืองโกลมัด เกิดแผ่นดินถล่ม ทำให้บ้านเรือน30 หลังพังทลาย แต่ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต

 ยอดตายจากเหตุปะทะเพิ่มอีก2รวม23ศพ
 
   
14 เมษา. 2553 12:01 น.


ศูนย์เอราวัณ กทม. รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุปะทะ 10 เม.ย. 2553 ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 13 เมษายน มีเพิ่มอีก 2 ราย รวมเป็น 23 ราย โดยรายที่ 22 เสียชีวิตที่ รพ.วชิรพยาบาล วานนี้ (13 เม.ย.) คือ นายนภทล เผ่าพนัส อายุ 30 ปี เป็นพลเรือน ถูกยิงที่ท้อง ส่วนรายที่ 23 เสียชีวิตที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า เมื่อวานนี้ คือ พลทหารอนุพงษ์ หอมมาลี อายุ 29 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดที่ศีรษะ ส่วนผู้บาดเจ็บพักรักษาตัว รพ.พื้นที่กรุงเทพฯ 15 แห่ง 195 ราย ในจำนวนนี้อยู่ห้องไอซียู 14 ราย รพ.พระมงกุฏเกล้ามีผู้ป่วยมากสุด 146 ราย ยอดรวมผู้บาดเจ็บจากเหตุปะทะของกลุ่มผู้ชุมนุมนปช.กับทหาร 863 คน แยกเป็นผู้บาดเจ็บ 842 ราย ผู้เสียชีวิต 23 ราย

 ศอฉ.แจ้งความอาวุธถูกยึด ยันทหารไม่ได้ยิงม็อบ
 
   
14 เมษา. 2553 12:44 น.


พ.อ.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) แจ้งความกรณีอาวุธของกองทัพสูญหายและถูกยึดไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย. เกรงจะถูกนำมากระทำผิดกฎหมายและจะโยนความผิดให้เจ้าหน้าที่ พร้อมนำคลิปวิดีโอมาเปิดเผย ชี้แจงว่าผู้ชุมนุมที่ถูกยิงเป็นการยิงจากที่สูงด้านหลัง ยืนยันไม่ได้เป็นการกระทำของทหาร และยังมีเสียงของผู้ชุมนุมระบุว่ามีกลุ่มคนใช้อาวุธหนักช่วยเหลือเสื้อแดง รวมถึงคลิปวีดีโดที่มีภาพผู้ชุมนุมทำร้ายทหารระหว่างนำทหารเจ็บออกจากพื้นที่

 สิ้นสงกรานต์ หาดใหญ่เงียบปชช.-นทท.พักผ่อน
 
   
14 เมษา. 2553 12:44 น.



วันที่ 14 เม.ย.53 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากวันที่ 13 เม.ย.ที่ผ่านมา ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มีประชาชน นักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ ออกมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนานตลอดทั้งวัน และที่สนุกสุดเหวี่ยงไปกว่านั้นคือ การเล่นสาดน้ำในตอนกลางคืน หรือ "มิดไนท์สงกรานต์" บรรยากาศโดยรวมล่าสุดในเช้าวันที่ 14 เม.ย.นี้ โดยเฉพาะย่านธุรกิจใจกลางเมือง ปรากฎว่า ไม่ค่อยคึกคักมากนัก เหมือนเช่นเมื่อวานที่ผ่านมา เนื่องจากวันนี้ไม่มีการเล่นสาดน้ำสงกรานต์แล้ว อีกทั้งประชาชน นักท่องเที่ยวต่างยังคงนอนพักผ่อนจากการเหน็ดเหนื่อยเล่นน้ำสงกรานต์กันมาตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตามยังคงมีประชาชน นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติบางส่วน ได้ออกมาจับจ่ายซื้อสินค้ากันอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเดินหาร้านอาหารเพื่อรับประทานอาหารเช้ากันอย่างหนาตา ขณะที่ร้านค้าบางร้านก็ยังปิดให้บริการอยู่ เนื่องจากบางรายเดินทางไปต่างจังหวัด ไปต่างอำเภอ เพื่อไปพบปะญาติพี่น้อง เนื่องในวันสงกรานต์หรือปีใหม่ไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ขณะเดียวกันนั้น ก็ได้มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจำนวนหนึ่ง เริ่มทยอยเดินทางกลับประเทศมาเลเซีย หลังร่วมเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ อย่างสนุกสนานเมื่อวานนี้ บางรายเดินทางด้วยรถบัสที่เดินทางมาจากมาเลเซียเพื่อมารับนักท่องเที่ยวเดินทางกลับประเทศ บางรายเดินทางกลับด้วยรถยนต์ส่วนตัว บางรายขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์เดินทางกลับประเทศกันเป็นกลุ่มคณะจำนวนหลายคัน

ปชป.พร้อมรับฟังความเห็นพรรคร่วม
 
   
14 เมษา. 2553 12:44 น.


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จากการที่พรรคร่วมรัฐบาลห่วงใยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ยืนยันว่าพรรคประชาธิปัตย์มีแนวทางดำเนินการแก้ปัญหาวิกฤตของประเทศโดยรับฟังคามเห็นทุกฝ่าย โดยการที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งเป็นผู้ใหญ่ของบ้านเมือง ได้ให้ข้อคิดที่เป็นประโยชน์ในการเตือนสติ โดยนายบรรหาร เป็นอดีตนายกฯ ซึ่งมีความหนักแน่น และจะไม่หวั่นไหว แม้บ้านจะเคยถูกนปช.ล้อม และพรรคประชาธิปัตย์พร้อมที่จะพูดคุยเพื่อหารือถึงสถานการณ์การเมืองต่อไป

 ชาวไทยและเทศแห่สะเดาะเคราะห์ เสริมดวง
 
   
14 เมษา. 2553 12:45 น.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้งแต่เมื่อตอนเช้าของวันที่ 14 เมษายน 2553 ได้มีประชาชนทั้งชาวไทยและ ชาวต่างประเทศจำนวนมาก เดินทางเข้ามาที่วัดห้วยใหญ่ หรือวัดหลวงพ่อก้าน เกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งภาคตะวันออก หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี พร้อมทั้งได้นำ ดอกไม้ ธูปเทียน เครื่องสังฆทานเข้าไปถวายพระสงฆ์ และเข้าร่วมพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวงชะตา บังสุกุลเป็น บังสุกุลตาย ด้วยการคลุมด้วยผ้าขาว เพื่อเปลี่ยนจากเรื่องร้ายให้กลายเป็นดี เสริมโชคชะตา เสริมดวงให้เกิดเป็นสิริมงคลในช่วงต้นปีใหม่ที่หลุดพ้นจากปีวัว เข้าสู่ปีเสือ รับการปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ ถือว่าเข้ามาในวัดได้ทำบุญสร้างทานบารมีครบวงจร และได้มีกรวดน้ำอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลให้กับคุณบิดรมารดา ครูอาจารย์ และเจ้ากรรมนายเวรที่ติดตามมาแต่ชาติอดีตและชาติปัจจุบัน
พระอธิการ สราวุธ จิตปัญโญ เจ้าอาวาสวัดห้วยใหญ่ เปิดเผยว่า พิธีสวดสะเดาะเคราะห์ เสริมดวง ต่อดวงชะตา ทางวัดได้จัดให้มีการดำเนินการมานานตั้งแต่สมัยหลวงพ่อก้าน หรือ พระครูภัทรกิจวิบูล อดีตเจ้าอาวาส ท่านได้มรณะภาพไปแล้วแต่สังขารไม่เน่า ไม่เปื่อย บรรจุอยู่ในโรงแก้วบนศาลา เนื่องจากในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ไทย ตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน มีญาติ โยม เดินทางหมุนเวียนเข้ามาทำบุญ ถวายสังฆทานวันละหลายร้อยคน พระที่สวดพระพุทธมนต์ ต้องผลัดเปลี่ยนกันฉันท์อาหาร เพื่อไม่ให้ญาติ โยม เสียเวลารอคอยนาน และขณะนี้ได้เปลี่ยนสถานที่การสวดพิธีกรรมสะเดาะเคราะห์ไปที่ศาลาหลังใหม่ ได้มีจัดพระสงฆ์สวดให้กับประชาชนที่เดินทางมาจากจังหวัดต่าง ๆ ทั่วทุกสารทิศ และเป็นที่น่าสังเกต ปีนี้มีประชาชนมาทำพิธีสะเดาะห์เคราะห์น้อยกว่าเทศกาลอื่น ๆ และน้อยกว่าทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
ในเทศกาลปีใหม่ไทย 13 เมษายน เป็นต้นไป เป็นช่วงวันหยุดหลายวัน ซึ่งหยุดกันมาตั้งแต่วันที่ 10 เมษายน โดยปกติจะมีประชาชนจำนวนมากแห่กันมาทำพิธี ต้องการเข้ามาวัดเพื่อหาทางให้พ้นจากสรรพทุกข์ พ้นสรรพโศก สรรพโรค และภัยพิบัติ ที่น่ากลัวที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ก็คือมหันตภัยที่เกิดจากความไม่สมดุลของธรรมชาติ หรือภัยธรรมชาติที่ประชาชนกลัวอยู่ในขณะนี้ ส่วนเรื่องของภัยทางเศรษฐกิจสิ่งมีชีวิตย่อมปรับสภาพให้สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยดำเนินชีวิตอย่างพอเพียง และต้องการให้ประเทศไทยเข้าสู่ภาวะปกติ คนไทยไม่แตกแยกกัน ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวกกัน

สงกรานต์พิษณุโลก- วันเดียวตาย3 ราย
 
   
14 เมษา. 2553 12:46 น.


พ.ต.ท.ศุภกรณ์ บุญคง พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีรถจักรยานยนต์เสียหลักตกลงข้างทางมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดถนนในหมู่บ้าน บ้านวังตาบัว หมู่ 9 ต.โคกสลุด อ.บางกระทุ่มหลังรับแจ้งงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยต้นกุม ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นคลิกไอ สีขาว-ดำ ทะเบียน วฉม 6 กทม สภาพพังยับเยิน และพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 2 ราย ทราบชื่อต่อมาคือนายนวภัทร ธรรมชาติ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 175/4 หมู่ 4 ต.สามงาม อ.สามง่าม จ.พิจิตร และนายอำนาจ ฟักเงิน อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 หมู่ 6 ต.แพงดิน อ.บางกระทุ่ม จ.พิษณุโลก ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายอาการบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลบางกระทุ่ม แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสองรายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการสอบสวนในเบื้องต้นทราบว่าทั้งสองคนได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวเพื่อจะไปเที่ยวบ้านญาติที่ อ.บางกะทุ่ม เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางเปลี่ยวทำให้รถเกิดเหตุหลักพุ่งตกลงข้างทางจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว
อีกรายเมื่อเวลา 08.30 น.วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมบูรณ์ สีแดง พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.เมืองพิษณุโลก รับแจ้งมีรถยนต์กระบะชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดหน้าหมู่บ้านเอื้ออาทรพลายชุมพล ถนนพิษณุโลก-สุโขทัย หมู่ 3 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีบรอนด์เงินทะเบียน บบ 6464 พิษณุโลก สภาพด้านหน้าพังเสียหายบริเวณใต้ท้องรถพบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อต่อคือนายประดิษฐ์ วังคีรี อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 4 ต.ท่าศาลา อ.ภูเรือ จ.เลย สภาพร่างกายแหลกเหลว เพราะถูกชนเข้าอย่างจังและลากศพมาไกลกว่า 50 เมตร ห่างออกไปพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีดำ ทะเบียน ษลต 791 กทม.ซึ่งเป็นของของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำอยู่ข้างทาง จากการสอบสวนนายสมชาย โพธิ์ขำ อายุ 38 ปี คนขับรถรถยนต์กระบะ ให้การว่า ตนเองกำลังจะขับรถกลับบ้านพักในตัวเมือพิษณุโลก ซึ่งขับมาด้วยความเร็วสูง โดยไม่ทันเห็นรถจักรยานยนต์ของนายประดิษฐ์ ผู้เสียชีวิตซึ่งขับนำหน้าตนเองจึงพุ่งชนท้ายเข้าอย่างจังจนเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

 โจรใต้ยิงเอ็ม 79 ถล่มบ้านไทยพุทธที่รือเสาะ
 
   
14 เมษา. 2553 12:46 น.



ร.ต.ท.อาทิตย์ เทียนศิริ ร้อยเวรสอบสวน สภ.รือเสาะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนร้ายยิงถล่มบ้านพัก เลขที่ 4 บ้านธรรมโชติ ม.4 ต.รือเสาะออก อ.รือเสาะ จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.พชรพล ณ นคร รอง ผกก.ป.สภ.รือเสาะ พ.ต.ต.เนติธร วัตตธรรม รอง สว.กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด นปพ.จ.นราธิวาส รวมทั้งกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารฝ่ายปกครองจำนวนหนึ่งรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นของนายง้วน ปองถวิล อายุ 60 ปี โดยที่บริเวณเสาไฟฟ้าหน้าบ้านพักถูกคนร้ายยิงถล่มด้วยอาวุธปืน เอ็ม.79 จนสายโทรศัพท์ขาดไปทั้งหมู่บ้าน โดยมีเศษซากชิ้นส่วนของปลอกกระสุนปืนเอ็ม 79 ตกอยู่บนถนนจำนวนหนึ่งนอกจากนี้จากการตรวจสอบภายในสวนมะพร้าวตรงข้ามบ้านพัก เจ้าหน้าที่ยังสามารถตรวจสอบพบหลุมระเบิด ลึก 4 นิ้ว กว้าง 5 นิ้ว โดยต้นไม้รอบหลุมระเบิดมีร่องรอยถูกสะเก็ดระเบิดจนฉีดขากจำนวนหนึ่ง และมีเศษซากชิ้นส่วนของปลอกกระสุนปืนเอ็ม 79 ตกอยู่จำนวนหนึ่งเช่นกัน เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บรวบรวมหลักในที่เกิดเหตุ
จากการสอบสวน จ.ส.อ.บัณฑิต ภูมิทา หัวหน้าชุด ร้อย ร.1034 ฉก.นราธิวาส 30 ทราบว่า ในช่วงเวลาประมาณ 05.40 น.ของเช้าวันที่ 14 เม.ย. ในขณะที่ตนและทหาร รวม 8 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ รปภ.บ้านพักหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านไทยพุทธเพียงหลังเดียวในหมู่บ้าน ได้มีคนร้ายไม่ทราบจำนวนแฝงตัวอยู่ในสวนยางพารา ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร ได้ใช้อาวุธปืน เอ็ม.79 ยิงถล้มใส่บ้านพัก จำนวน 2 นัดซ้อน แต่กระสุนปืนพลาดเป้า ตนจึงได้สั่งลูกน้องหาที่กำบังและใช้อาวุธปืนประจำกายยิงตอบโต้ใส่กลุ่มคนร้าย จำนวนชุดใหญ่ และเมื่อเสียงปืนสงบลงจึงได้เข้าตรวจสอบในเบื้องต้นก่อนที่จะแจ้งผู้ที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบอย่างละเอียดในช่วงเช้าบ้านพักหลังดังกล่าวในช่วงเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เคยถูกคนร้ายยิงถล่มบ้านพักและลอบวางระเบิดมาแล้วหลายครั้ง แต่โชคดีไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตตลอดมา