ข่าวด่วนประจำวัน

โตโยต้าจะหยุดขาย เล็กซัส เอสยูวี ชั่วคราว
 
   
14 เมษา. 2553 12:53 น.



บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศหยุดขายรถยนต์เล็กซัส จีเอ็กซ์ 460 เป็นการชั่วคราว ในระหว่างทำการทดสอบของบริษัทเอง หลังจากชื่อเสียงของโตโยต้าได้รับผลกระทบล่าสุดจากการที่นิตยสาร"คอนซูเมอร์ รีพอร์ต" นิตยสารซึ่งได้รับความเชื่อถือในสหรัฐฯ รายงานเมื่อวันอังคารว่า รถSUV รุ่นนี้มีความเสี่ยงสูงมากผิดปกติที่จะเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำในระหว่างการเลี้ยวรถในบางท่า และได้ออกคำแนะนำที่นานๆจะเกิดขึ้นสักครั้งว่าเกี่ยวกับรถรุ่นนี้ว่า" อย่าซื้อ : เสี่ยงเรื่องความปลอดภัย" (Don't Buy: Safety Risk) จนกว่าทางบริษัทจะแก้ไขปัญหานี้ได้

รายงานของ"คอนซูเมอร์ รีพอร์ต"ระบุว่าในการทดสอบเรื่องควบคุมรถในกรณีฉุกเฉินหลายครั้ง รถยนต์ขนาด 7 ที่นั่งรุ่นนี้ลื่นไถลจนใกล้ถึงข้างทางกว่าที่ระบบควบคุมการทรงตัวด้วยไฟฟ้า (electronic stability control system) จะกลับมาทำงาน ซึ่งในการใช้งานจริง อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ รถพลิกคว่ำได้ วิศกรทั้ง 4 คนของตนประสบปัญหาเดียวกันในระหว่างการทดสอบช่วงเลี้ยวรถ และคนขับยกเท้าขึ้นจากคันเร่งอย่างรวดเร็ว ซึ่งในชีวิตจริง ผู้ขับขี่ยวดยานมักทำเช่นนั้นจู่ๆเจอสิ่งกีดขวาง หรือ ต้องเลี้ยววงแคบ


ปัจจุบัน โตโยต้าขายรถรุ่นนี้ไปแล้วประมาณ 5,000 คันนับจากเริ่มออกขายเมื่อสามเดือนก่อน และไม่ได้รวมอยู่ในจำนวนการเรียกคืนรถยนต์ทั่วโลกมากกว่า 8 ล้านคันของโตโยต้า จากปัญหา
ระบบเบรคและการควบคุมความเร็วไม่ได้ ปัจจุบัน รัฐบาลสหรัฐฯกำลังสอบสวนด้วยว่าโตโยต้าเจตนาปกปิดปัญหาความปลอดภัยต่างๆจากหน่วยงานตรวจสอบของสหรัฐฯหรือไม่

สื่อนอกระบุเหตุนองเลือดชี้ให้เห็นความแตกแยกกองทัพไทย
 
   
14 เมษา. 2553 12:55 น.



เว็บไซท์หนังสือพิมพ์สเตรท ไทม์ ของสิงคโปร์ รายงานบทวิเคราะห์ว่า ความแตกแยกในกองทัพได้เผยออกมาแล้ว นักวิเคราะห์หลายคน มองเห็นความเห็นแตกแยก ที่ทหารบางกลุ่ม สนับสนุน
ผู้ประท้วงคนเสื้อแดง แต่ทหารระดับสูงส่วนใหญ่ยังคงเป็นทหารที่เป็นพันธมิตรกับฝ่ายที่ภักดีต่อราชวงศ์และกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำ ขณะที่แหล่งข่าวระบุว่า คนเสื้อแดงเองก็แตกออกเป็นสองแนวรบ
ด้วยเช่นกัน

บทวิเคราะห์ของสเตรท ไทม์ส ได้ตั้งคำถามว่า ใครมือปืนไอ้โม่งที่ยิงใส่ทหารในเหตุการณ์จลาจลนองเลือด ในกรุงเทพฯ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และใครเป็นมือระเบิด คำตอบสำหรับคำถาม
เหล่านี้ อาจชี้ให้เห็นถึงความแตกแยกระดับอันตรายในกองทัพไทย และหนึ่งในคำตอบนั้น อาจทำให้เกิดการนองเลือดได้อีก เว้นเสียแต่ว่า รัฐบาลที่กำลังเผชิญสถานการณ์ลำบากอยู่ในเวลานี้ จะ
ยอมเรียกร้องให้มีการเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งทันที เพื่อปลดชนวนความขัดแย้งทางการเมือง เหตุการณ์ปะทะกันเมื่อวันเสาร์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคน ไม่ใช้เหตุ
จลาจลครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 18 ปี แต่อาจจะก้าวล่วงเข้าใกล้วิกฤติที่เลวร้ายที่สุด อันเนื่องมาจากการจมอยู่ใน 5 ปี ของรอยร้าวในกองทัพที่คู่ขนานไปกับความแตกแยกทางการเมืองและใน
สังคมที่สร้างความแตกแยกในประเทศ

แม้ว่าสถานการณ์จะดูบรรเทาเบาบางลง แต่กลุ่มคนเสื้อแดงที่ต่อต้านรัฐบาลหลายหมื่นคน ก็ยังอยู่ตามถนนหนทาง ในกรุงเทพฯ และยังเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยุบสภา
นักวิเคราะห์หลายคน มองว่า ทหารชั้นผู้น้อยและระดับสูงกว่าจำนวนไม่น้อย ที่เห็นอกเห็นใจเข้าข้างพวกเสื้อแดง ที่ส่วนใหญ่เป็นพวกผู้ใช้แรงงาน และยากจน ที่มาร่วมปักหลักประท้วง
กันนานกว่า 1 เดือน เพื่อเรียกร้องให้จัดการเลือกตั้งใหม่ แต่ก็ยังมีอีกมาก ที่เป็นนายทหารระดับสูง ที่ยังสนับสนุนกลุ่มธุรกิจ กลุ่มที่ภักดีต่อราชวงศ์ และสนับสนุนรัฐบาล

 ยอดตายแผ่นดินไหวจีนพุ่ง300ศพเจ็บกว่า8พัน
 
   
14 เมษา. 2553 13:43 น.



โทรทัศน์ซีซีทีวีของทางการจีนรายงานว่า ยอดผู้เสียจากแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 6.9 ริคเตอร์ในแถบเทือกเขาห่างไกลในมณฑลชิงไห่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเพิ่มเป็นอย่างน้อย 300
ราย บาดเจ็บกว่า 8 พันคน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังพยายามช่วยขุดค้นซากปรักหักพังของบ้านเรือน เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ยังติดอยู่ข้างใต้ มีรายงานว่าบ้านเรือนจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่ทำจากดินและไม้ ที่อยู่ในบริเวณใกล้จุดศูนย์กลางแผ่นดินไหวพังทลาย โดยเฉพาะที่เมืองจี้กู มีบ้านเรือนร้อยละ 85 พังถล่มลงมา รวมถึงหอประชุมของรัฐบาลท้องถิ่น และอาคารบางส่วนของโรงเรียนแห่งหนึ่งถล่มลงมา ยังมีนักเรียนถูกฝังอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกเป็นจำนวนมาก

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บระเกะระกะอยู่ตามท้องถนน ทางการกำลังเร่งส่งทีมกู้ภัยพร้อมอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ประสบภัย แต่ ถนนหนทางได้รับความ
เสียหายและมีดินถล่มลงมาปิดกั้น ขณะที่ระบบสื่อสารโทรคมนาคมขัดข้อง

ปภ.เขต 5 เผยยอดสงกรานต์โคราชตายนำโด่ง7ศพ
 
   
14 เมษา. 2553 13:50 น.


นายวัลลภ เทพภักดี ผู้อำนวยการศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา เปิดเผยถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2553 ระหว่างวันที่ 12 - 13 เมษายน 2553 รวม 2 วัน 4 จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของศูนย์ ปภ. เขต 5 นครราชสีมา คือ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์และจังหวัดสุรินทร์ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 78 ครั้ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2552 (79 ครั้ง) พบว่า อุบัติเหตุลดลง 1 ครั้ง คิดเป็น 1.3 % ประชาชนได้รับบาดเจ็บ(Admid) 89 คน เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2552 (85 คน) พบว่า เพิ่มขึ้น 4 คน คิดเป็น 4.7 % ผู้เสียชีวิต 7 คน เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในเทศกาลสงกรานต์ ปี 2552 (9 คน) พบว่า ลดลง 2 คน คิดเป็น 22.2 % แยกเป็น จังหวัดสุรินทร์ เกิดอุบัติเหตุ 34 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 36 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดนครราชสีมา เกิดอุบัติเหตุ 22 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 21 คน ผู้เสียชีวิต 7 คน จังหวัดบุรีรัมย์ เกิดอุบัติเหตุ 20 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 27 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต จังหวัดชัยภูมิ เกิดอุบัติเหตุ 2 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 5 คน ไม่มีผู้เสียชีวิต

อุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดกับรถจักรยานยนต์ คิดเป็น 86.4 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือ รถปิคอัพ 9.9 เปอร์เซ็นต์ ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุ อันดับ 1 เกิดจากการเมาสุราขณะขับรถ คิดเป็น 35.9 % รองลงมาคือ การขับรถเร็วเกินกำหนด คิดเป็น 18.4 เปอร์เซ็นต์ และตัดหน้าในระยะกระชั้นชิด คิดเป็น 7.7 เปอร์เซ็นต์ สำหรับประเภทถนนที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ถนนในอบต.และหมู่บ้าน คิดเป็น 44.9 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือถนนกรมทางหลวง คิดเป็น 24.4 เปอร์เซ็นต์ และ ถนนทางหลวงชนบท คิดเป็น 17.9 เปอร์เซ็นต์ โดยจุดเกิดเหตุเป็นทางตรงมากที่สุด รองลงมาคือทางโค้งและทางแยก
สำหรับช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด คือ ช่วงเวลา 12.01 - 16.00 น. คิดเป็น 35.9 เปอร์เซ็นต์ รองลงมาคือช่วงเวลา 16.01 - 20.00 น. คิดเป็น 24.4 เปอร์เซ็นต์ และช่วงเวลา 20.01 - 00.00 น. คิดเป็น 15.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนช่วงอายุของผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต อันดับ 1 อายุ 15 - 19 ปี (19 ราย) คิดเป็น 19.8 %รองลงมา อายุ 30 - 39 ปี (16 ราย) คิดเป็น 16.7 เปอร์เซ็นต์ และ 25 - 29 ปี (15 ราย) คิดเป็น 15.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ตำบล/หมู่บ้านที่เกิดเหตุ คิดเป็น 71.8 % รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 2,426,800 บาท ในส่วนของการดูแลรักษาความปลอดภัยบนท้องถนนเจ้าหน้าที่ตั้งจุดตรวจร่วมหลัก 416 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 11,679 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 121,606 คัน จำนวนที่ถูกดำเนินคดี 20,262 คัน ผู้ทำผิด 20,273 คน

 ปชป.ปูด "วอร์รูมใต้ดิน" ก่อสงครามกลางเมือง
 
   
14 เมษา. 2553 13:50 น.


นพ.บุรณัชย์ สมุทรักษ์ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า พรรคประชาธิปัตย์ขอให้ประชาชนตั้งมั่นอย่างมีสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่ารัฐบาลและฝ่ายความมั่นคงจะหยุดยั้งผู้ปฏิบัติการ โดยจะต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพราะรูปแบบจู่โจมเรียกว่าการสงครามไร้รูปแบบ และข้าศึกไม่ได้อยู่ตรงหน้า แต่อยู่ด้านบน และใช้กลุ่มผู้ชุมนุมเป็นเกราะกำบัง ลอบสังหารเจ้าหน้าที่อย่างเลือดเย็น ส่วนกองกำลังเสื้อดำ ขณะนี้ทางการได้ชื่อและสังกัดคนดังกล่าวแล้ว อยากให้อดีตนายทหารพรานที่เคยต่อสู้เพื่อชาติ ได้ออกมาให้ข้อมูลกับการกระทำของบุคคลดังกล่าว ทั้งนี้การที่กลุ่มนปช.ออกมาปฏิเสธการดำเนินการของบุคคลดังกล่าว พบว่ามีพิรุธ โดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำนปช.บอกว่าคนเสื้อดำต้องการถือปืนไปคืนเจ้าหน้าที่ทหาร แต่พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ “เสธ.แดง” ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก บอกว่าไม่เกี่ยวกับการ์ดนปช. เท่ากับว่าบุคคลทั้งสองอาจพูดไม่จริงหรือมีบางคนพูดไม่จริง
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากภาพพบว่าบุคคลชุดดำดังกล่าวถืออาวุธประจำกาย 3 ชนิด หวังใช้จู่โจมเป้าหมาย ไม่ได้นำไปคืนเจ้าหน้าที่แน่นอน เพราะลักษณะการสะพายอาวุธมีอาวุธชุดห้อยประจำกายเป็นอาวุธแบ๊คอัพและอาวุธหลักด้วย และจากสำนักข่าวต่างประเทศบอกว่ามีการใช้แสงเลเซอร์ชี้เป้ายิงด้วย นอกจากนี้ยังมีการจับภาพผู้แฝงตัวในกลุ่มผู้ชุมนุม โดยนายจรัล ดิษฐาอภิชัย แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง บอกกับผู้ชุมนุมว่าคนชุดดำจะไม่ทำร้ายผู้ร่วมุชุมนุมที่สวมเสื้อแดง
นพ.บุรณัชย์ กล่าวอีกว่า อยากถามไปยังพรรคเพื่อไทยว่าได้แสดงความรับผิดชอบในการนำพาประชาชนไปสู่จุดที่เกิดความรุนแรงอย่างไรบ้าง และก่อนหน้านี้การปรากฏตัวแนวร่วมด้านความมั่นคงฝ่ายทหาร ซึ่งรู้รูปแบบการจัดกำลังทหารเป็นอย่างดี ได้ออกมาให้ความเห็นช่วยรัฐบาล แจ้งเบาะแสอย่างไรบ้าง เห็นได้ชัดว่ามีเบาะแสว่ามีการจัดตั้งวอร์รูมใต้ดิน เพื่อดำเนินการดังกล่าว และมีการดำเนินการทำสงครามนอกรูปแบบ เพื่อนำสู่สงครามกลางเมือง ในลักษณะพฤษภาทมิฬ โดยจากการพิสูจน์ศพผู้เสียชีวิต 11 คน พบว่า 10 คน เสียชีวิตจากอาวุธสงคราม โดย 9 คน เป็นอาวุธสงครามทำลายล้างสูง หากเป็นที่สูงปืนสไปเตอร์ มี 5 คน ถูกยิงจากด้านหลังบน สอดคล้องกับผู้บาดเจ็บสวนใหญ่ก็บาดเจ็บจากอาวุธสงครามและปืนเช่นกัน

 ตร.ส่งหน่วยกู้ระเบิด ร่วม"แดง"เคลียร์พื้นที่ผ่านฟ้า
 
   
14 เมษา. 2553 13:51 น.


พล.ต.ต.ภาณุ เกิดลาภผล รอง ผบช.น.กล่าวถึงมาตรการดูแลด้านการจราจรหลังกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) ประกาศจะคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน และสะพานผ่านฟ้า โดยจะเคลื่อนไปรวมตัวกับกลุ่มผู้ชุมุนมที่ถนนราชประสงค์แทน ว่า จากการข่าวทราบว่าผู้ชุมนุมจะเริ่มเคลื่อนย้ายในเวลา 15.00 น. สำหรับด้านการจราจรถือว่าเป็นข่าวดี เพราะถนนราชดำเนินกลาง ราชดดำเนินนอก เป็นถนนหลักที่เชื่อมกับการเข้าและออกตัวเมือง เมื่อถูกปิดกั้นทำให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนต้องเลี่ยงไปใช้ถนนเล็กโดยรอบแทนทำให้ค่อนข้างมีปัญหาเรื่องความคล่องตัว

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในคืนนี้กลุ่มผู้ชุมนุมน่าจะเคลื่อนตัวจากพื้นที่ออกจากถนนราชดำเนินทั้งหมด จากนั้นก็จะประสานให้ กทม.เข้าไปดูแลปัญหาเรื่องความสะอาดของพื้นที่ทั้งเรื่องขยะ ระบบไฟฟ้า ประปาท่อแดงที่มีการนำน้ำไปใช้ พร้อมกันนี้ทางตำรวจจะส่งกลุ่มงานเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด กองบังคับการตำรวจปฏิบัติการพิเศษ (E.O.D.) ลงพื้นที่ควบคุมพร้อมการรื้อย้าย คาดว่าน่าจะสามารถเปิดใช้เส้นทางการจราจรได้ตามปกติในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ส่วนพื้นที่บริเวณแยกราชประสงค์ที่ผู้ชุมนุมจะย้ายไปรวมกันนั้น พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า โดยปกติใช้พื้นที่ตั้งแต่ชิดลม-ห้างพารากอน และประตูน้ำ-ราชดำริ แต่เมื่อไปรวมกันในจุดเดียวคาดว่าในช่วงเย็นที่มีผู้มาร่วมชุมนุมมากขึ้นอาจมีปัญหาในการใช้พื้นที่อาจต้องขยายไปถึงบริเวณเพลินจิต ปทุมวัน และศาลาแดง แต่ก็จะมีการตกลงให้คืนพื้นที่ถนนบางส่วนที่ไม่ได้ใช้ในช่วงเช้า-บ่าย เมื่อมีผู้ชุมนุมน้อยลง ส่วนรถยนต์ที่มาร่วมชุมนุมที่จะมาร่วมชุมนุมที่ราชประสงค์นั้นถือว่ามีข้อจำกัดในพื้นที่จอด แต่ก็จะประสานกับทางสน.ลุมพินี ให้ใช้พื้นที่จอดรถบริเวณสวนลุมพินี และหลังสวน แต่จะไม่อนุญาตให้จอดในพื้นที่เพลินจิต-สุขุมวิท

พล.ต.ต.ภาณุ กล่าวว่า ทั้งนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่จากจราจรกลางอีกจำนวน 40 นายเพื่อทำงานร่วมกับ สน.ปทุมวันในการดูแลปัญหาด้านการจราจรโดยรอบพื้นที่การชุมนุม คาดว่าหลังจากวันหยุดสงกรานต์ที่เปิดทำงานประชาชนที่ต้องทำงาน หรือใช้เส้นทางในบริเวณ ดังกล่าวต้องเลี่ยงไปใช้ถนนพระราม 4 ถนนเพชรบุรีหรือใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลัก

ปชป.ปัดตั้งพรรคใหม่รอรับยุบพรรค
 
   
14 เมษา. 2553 13:53 น.

นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่กกต.มีมติยุบพรรคประชาธิปัตย์ว่า ส.ส.หลายคนใช้เวลาเทศกาลสงกรานต์ลงพื้นที่และทำความเข้าใจกับสมาชิกพรรคให้ทราบข้อเท็จจริง ซึ่งพบว่าสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ไม่หวั่นไหว รู้สึกว่าพรรคเคยเจอชะตากรรมเหล่านี้แต่ก็สู้ผ่านมาได้ และมั่นใจว่าข้อเท็จจริงที่พรรคมีจะสามารถฟันฝ่าได้เช่นกัน โดยสมาชิกพรรคจะไม่เคลี่อนไหวเรียกร้องสิทธิใดๆ ทั้งสิ้น ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายกำหนด เพราะสมาชิกมีสัญชาตญาณเสือโดนนิดหน่อยก็จะไม่ร้อง ทั้งนี้สาเหตุที่พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าสามารถผ่านการต่อสู้ในกระบวนการยุติธรรมได้เพราะได้ตรวจสอบแล้วว่าเรามีข้อต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงโดยฝ่ายกฎหมายและฝ่ายที่รับผิดชอบทางบัญชีได้เตรียมต่อสู้ในศาลรัฐธรรมนูญแล้ว
เมื่อถามว่านายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคง ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ บอกได้ตั้งพรรคสำรองเอาไว้แล้ว นายเทพไท กล่าวว่า ไม่ทราบ ที่ผ่านมายังไม่มีการพูดคุยในหมู่ส.ส. แต่อาจจะพูดวิจารณ์กันไป แต่เชื่อว่ายังมีหนทางต่อสู่ได้อีก ดังนั้นการพูดชื่อพรรคใหม่อาจจะพูดในวงแคบๆ เท่านั้น โดยยังไม่มีใครทราบว่าชื่อที่ว่านั้นชื่อว่าอะไร

สงกรานต์เชียงใหม่คึกคัก-จราจรติดยาว
 
   
14 เมษา. 2553 13:53 น.


บรรยากาศเทศกาลสงกรานต์จ.เชียงใหม่ วันนี้ (14 เม.ย.) เริ่มคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวพากันออกมาเล่นสาดน้ำรอบคูเมืองกันอย่างสนุกสนาน โดยเฉพาะที่ถนนท่าแพและลานเอนกประสงค์ข่วงประตูท่าแพ มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติออกมาเล่นสาดน้ำกันจำนวนมาก ส่งผลให้การจราจรเริ่มติดขัดเป็นบางช่วงเพราะประชาชนนำรถกระบะบรรทุกถังน้ำออกมาเล่นน้ำสงกรานต์รอบคูเมืองนอกจากนี้บรรยากาศการเล่นน้ำสงกรานต์บนถนนห้วยแก้วก็คึกคักไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่หน้าศูนย์การค้ากาดสวนแก้ว และศูนย์การค้า 12 ห้วยแก้ว เอกชนได้จัดเวทีคอนเสิร์ตประชันกัน จึงมีบรรดาวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวแห่ไปชมคอนเสิร์ตและเล่นน้ำสงกรานต์ในจุดดังกล่าวจำนวนมาก

ส่วนในเวลา 16.00 น.วันนี้จะมีขบวนแห่ขนทรายเข้าวัด และขบวนแห่ไม้ค้ำสะหลี จากบริเวณสะพานเหล็ก บนถนนเชียงใหม่-ลำพูน มายังถนนท่าแพ เพื่อขนทรายและนำไม้ค้ำสะหลีมาถวายยังวัดต่างๆที่ตั้งอยู่บนถนนท่าแพ รายงานข่าวแจ้งว่า แม้เทศบาลนครเชียงใหม่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรณรงค์ไม่ให้นำเครื่องดื่มแฮลกอฮอลล์มาจำหน่ายรอบคูเมืองให้กับนักท่องเที่ยว แต่ยังพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าหลายรายที่ฝ่าฝืนแอบน้ำเครื่องดื่มแฮลกอฮอลล์มาจำหน่ายอยู่.

คนนับหมื่นแห่ไปชัยภูมิเล่นน้ำตกคลายร้อน
 
   
14 เมษา. 2553 13:54 น.


บรรยากาศการท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ใน จ.ชัยภูมิ ปีนี้คึกคักเป็นพิเศษ ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัด ทำให้มีนักท่องเที่ยว และประชาชนจำนวนมากหลายหมื่นคน พากันเดินทางออกจากบ้าน เพื่อท่องเที่ยวหาแหล่งเล่นน้ำคลายร้อน โดยเฉพาะที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของจ.ชัยภูมิ ต.นาฝาย อ.เมืองชัยภูมิ มีประชาชนจำนวนมากหลายหมื่นคนขับรถยนต์ส่วนตัวเดินทางไปท่องเที่ยวจำนวนมาก ทำให้ถนนตลอดสายตั้งแต่สี่แยก(โรงเลื่อย)ชัยภูมิ-ตาดโตน ระยะทางจากตัวเมืองชัยภูมิไปถึงอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน ยาวกว่า 18 กิโลเมตร รถติดยาวตลอดทั้งสาย รวมทั้งแหล่งท่องเที่ยว น้ำตกที่สวยงามอีกแหล่ง บริเวณอุทยานแห่งชาติน้ำผุดทัพลาว บ้านผาเบียด ต.ห้วยยาง อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ ก่อนถึงทางขึ้นเขื่อนจุฬาภรณ์ มีประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางไปเล่นน้ำคลายร้อนจำนวนมากกว่า 10,000 คน และทำให้ทางขึ้นอุทยานน้ำผุดทัพลาว มีรถติดยาวเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตรตามมาตลอดทั้งวันด้วยเช่นกัน

ด้านบรรยากาศการเล่นสาดน้ำสงกรานต์ในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ เป็นไปด้วยความคึกคัก ประชาชนแทบทุกหมู่บ้าน ได้นำรถกระบะบรรทุกน้ำ ตระเวนสาดน้ำสงกรานต์ตามชุมชนต่างๆ โดยเฉพาะถนนหฤทัย ซึ่งเทศบาลเมืองชัยภูมิ ปิดให้เป็นโซนนิ่งเล่นสาดน้ำสงกรานต์ พร้อมจัดหาน้ำไว้บริการ และมีการแสดงดนตรีตลอดทั้งวัน ทำให้มีรถบรรทุกประชาชนเข้าไปเล่นสาดน้ำ ปะแป้ง รถติดเป็นทางตลอดทั้งสาย นอกจากนี้ยังมีประชาชนกลุ่มคนเสื้อแดง ที่มาปักหลักชุมนุมทางการเมืองในรั้วศาลากลางจังหวัดชัยภูมิ ได้ถือโอกาสพาผู้ชุมนุม ออกมาเล่นสาดน้ำสงกรานต์คลายร้อน ร่วมกับประชาชนชาวชัยภูมิ ในถนนหฤทัยด้วย พอตกค่ำก็กลับไปชุมนุมตามเดิม

 "เทพไท" ชี้แดงยุบเวทีผ่านฟ้า ส่งสัญญาณรุนแรง
 
   
14 เมษา. 2553 13:55 น.


นายเทพไท เสนพงศ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อยากถามว่ามือปืนชุดดำเป็นคนเสื้อแดงใช่หรือไม่ เพราะจากภาพพบว่าคนเสื้อดำติดอาวุธและมีสัญลักษณ์ผ้าสีแดงอยู่ด้วย และอยู่ท่ามกลางกลุ่มคนเสื้อแดง ทำไมคนเสื้อแดงและแกนนำปิดปากเงียบ ภาพนี้ยืนยันว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีภาพคนชุดดำสวมเสื้อแจ๊กเก็ตสัญลักษณ์ด้านหลังเป็นตัวอักษรนปช. หากกล่าวหาว่าเป็นคนของรัฐบาล แล้วรัฐบาลจะเอาเสื้อแจ๊กเก็ตของคนเสื้อแดงมาใส่ได้อย่างไร และยังมีภาพมือปืนที่เทียบแล้วหน้าคล้ายกับการ์ดนปช. ทั้งนักรบโรนิน นักรบพระเจ้าตาก นักรบทุ่งสัมฤทธิ์ ยังไม่มีแกนนำนปช.ออกมาปฏิเสธเลย

นายเทพไท กล่าวต่อว่า เหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย. มีการวางแผนเป็นขั้นตอน ตั้งแต่ประวิงเวลาให้ถึงพลบค่ำ จากนั้นนำอาวุธมาโจมตีทหาร แต่เชื่อว่าที่สุดแล้วจะมีการจับกุมแกนนำที่ถูกออกหมายจับไปแล้ว 24 คน และจะต้องออกหมายจับชุดดำที่ใช้ความรุนแรงให้เร็วที่สุด ทั้งนี้การที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำนปช.ประกาศว่าพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะปูนบำเน็จให้ผู้เสียชีวิตศพละ 1 แสนบาท ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะแสดงความรับผิดชอบต่อคนที่ตัวเองยุยงปลุกปั่นมาจนเสียชีวิต แต่เงิน 1 แสนบาทน้อยเกินไป พ.ต.ท.ทักษิณ ควรรับผิดชอบมากกว่านี้ จึงขอเรียกร้องให้ทักษิณ เปิดเผยตัวออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์วันที่ 10 เม.ย.
นายเทพไท กล่าวอีกว่า การที่แกนนำคนเสื้อแดงประกาศยุบเวทีสะพานผ่านฟ้าฯมาชุมนุมที่เวทีราชประสงค์เวทีเดียว เป็นการส่งสัญญาณให้มีการชุมนุมที่รุนแรงขึ้น โดยเหตุผลการยุบเวทีคือ 1.มวลชนคนเสื้อแดงน้อยลง อาจเกิดปัญหาในการบริหารจัดการได้ 2.เป็นการกดดันรัฐบาล โดยเฉพาะความเสียหายภาคธุรกิจ 3.แกนนำคนเสื้อแดงเห็นว่าแยกราชประสงค์เป็นฐานที่มั่นที่ดีในการที่ฝ่ายเจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมทวงพื้นที่คืนยาก เพราะห้อมล้อมด้วยตึกขนาดใหญ่ ห้างสรรพสินค้า ที่ตัวอาคารเป็นกระจก และมีรถไฟฟ้าผ่าน และ 4.แกนนำคงรวบรวมสรรพกำลังเพื่อเป็นเกราะป้องกันตัวเองในการถูกเจ้าหน้าที่จับกุม ส่วนการที่นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ประกาศจะนำผู้ชุมนุมไปปิดล้อมทีวีทุกช่องนั้น ขอเรียนไปยังส.ส.พรรคเพื่อไทยว่ากำลังรับเงินเดือนจากภาษีประชาชนในการทำงานในสภา แต่กลับมาปฏิบัติหน้าที่ที่ท้องถนน อยากถามหาความรับผิดชอบของคนเหล่านี้ ซึ่งคนเหล่านี้ย่ามใจหลังจากประสบความสำเร็จในเคลื่อนไหวกดดันองค์อิสระได้ เช่น กกต. จึงจะเคลื่อนปิดล้อมสถานีสื่อมวลชนเพื่อหวังให้สื่อมวลชนยินยอมเสนอข่าวตามที่ต้องการ

 ปภ.สรุปยอดอุบัติเหตุ2วันตายพุ่ง114 ราย
 
   
14 เมษา. 2553 14:06 น.


นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะ เลขานุการศูนย์อำนวยการความปลอดภัย ทางถนน ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ แถลงสรุปอุบัติเหตุทางถนน วันที่ 13 เม.ย. ซึ่งเป็นวันที่ 2 ของ 7 วันอันตรายว่า มียอดการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 870 ครั้ง ยอดผู้เสียชีวิต จำนวน 69 คน บาดเจ็บจำนวน 929 คน ซึ่งมีสาเหตุ ส่วนใหญ่มาจากการเมาสุราถึงร้อยละ 47 ขณะที่ ยอดอุบัติเหตุสะสมทางถนน ตลอด 2 วันที่ผ่านมา พบว่า มียอด การเกิดอุบัติเหตุ รวม 1,427 ครั้ง ผู้เสียชีวิต จำนวน 114 คน บาดเจ็บรวม 1,536 คน โดยจังหวัดที่มีผู้เสียชีวิต สูงสุด ได้แก่ จ.นครราชสีมา และ จ.อุบลราชธานี จังหวัดละ 7 คน ขณะที่ จ.นครศรีธรรมราช มียอดผู้บาดเจ็บสูงสุด 71 คน ทั้งนี้ สาเหตุหลักในการเกิดอุบัติเหตุ ยังคงพบว่า มีสาเหตุมาจากการเมาสุราและขับขี่ยานพาหนะ เร็วเกินกว่า ที่กฎหมายกำหนด อย่างไรก็ตาม นายอนุชา กล่าวว่า ได้มีการกำชับให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งด่านตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ของผู้ที่ขับขี่ยานพนะ รวมทั้ง เข้มงวดกับผู้กระทำผิด ตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และดำเนินคดีกับผู้ที่ ฝ่าฝืนอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุเพิ่มเติม

 หมอตุลย์ชวนปปช.รวมพลังหน้าราบ11ต้าน"เแดง"16เม.ย.นี้
 
   
14 เมษา. 2553 14:34 น.


เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 14 เมษายน นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ ผู้ประสานงานกลุ่มประชาชนพิทักษ์ชาติ และกลุ่มเฟสบุ๊คต้านยุบสภา ซึ่งเป็นตัวแทนเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน พร้อมสมาชิกในเครือข่ายประมาณ 10 คน ได้เดินทางมาอ่านแถลงการณ์ที่สวนสันติภาพ ถนนราชวิถี ตัดถนนรางน้ำ แขวงพญาไท เขตราชวิถี กทม.เพื่ออ่านคำแถลงการณ์เรียกร้องให้กลุ่มคนและประชาชนออกมาต่อต้านความรุนแรง
โดยใบแถลงการณ์ได้มีการเกริ่นนำเหตุการณ์ที่กลุ่มคนเสื้อแดงปะทะกับทหารเมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก ซึ่งในท้ายของแถลงการณ์ได้มีการเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนออกมาแสดงพลังร่วมชุมนุมกันอย่าง สงบ สันติ และปราศจากอาวุธ ที่บริเวณหน้ากรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ตั้งแต่เวลา 10.00 น.ในวันที่ 16 เมษายน เป็นต้นไป เพื่อยื่นข้อเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับกลุ่มก่อการร้าย ก่อการกบฏ ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และแยกแยะประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกมา โดยหลังจากยื่นข้อเรียกร้องแล้วทางกลุ่มเครือข่ายพลเมืองอาสาปกป้องแผ่นดิน ได้เดินทางกลับทันที

นักข่าวรอยเตอร์ จี้ถามคืบหน้าการตายนักข่าวญี่ปุ่น
 
   
14 เมษา. 2553 14:50 น.


ผู้สื่อข่าวของสำนักข่าวรอยเตอร์ จำนวน 5 คน เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.) เพื่อสอบถามถึงความคืบหน้าการเสียชีวิตของนายฮิโร มูราโมโตะ ช่างภาพชาวญี่ปุ่นของสำนักข่าวรอยเตอร์ ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะกัน เมื่อวันที่ 10 เมษายน ที่ผ่านมา ระหว่างทหารกับกลุ่มผู้ชุมนุม นปช.

รองผบช.น.กล่าวว่า เรื่องนี้สถานทูตญี่ปุ่น และตำรวจญี่ปุ่นได้ติดตามเรื่องอย่างใกล้ชิดอยู่แล้ว สำหรับการมาพบของทีมงานสำนักข่าวรอยเตอร์ เพื่อมาขอให้ตำรวจยืนยันว่า การเสียชีวิตของนายฮิโร มูราโมโตะ อยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งยังขอรับทราบผลการชันสูตรศพ ซึ่งผลการชันสูตรศพนั้น ตำรวจไม่สามารถเปิดเผยได้ เนื่องจากครอบครัวขอไว้ไม่ให้เปิดเผย

พล.ต.ต.อำนวย กล่าวต่อไปว่า ขอความร่วมมือประชาชนส่งภาพ หรือคลิปวิดีโอในวันเกิดเหตุยิงปะทะกัน มาให้กับตำรวจ เพื่อนำมาตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งหาเบาะแสของคนที่แฝงตัวก่อเหตุ ทั้งนี้ แม้ตำรวจจะมีภาพชายชุดดำ สวมหมวกไหมพรมปิดบังหน้าตา แต่หากมีหลักฐานในหลายจุด เชื่อว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่จะตรวจสอบได้ แม้จะเห็นเพียงลูกตา หรือโหนกแก้ม

สตูลสังเวยสงกรานต์วันเดียว 3 ศพ
 
   
14 เมษา. 2553 14:51 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจ.สตูลว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา ร.ต.ท.อดินัน วงศ์หมัดทอง ร้อยเวร สภ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ว่าเกิดเหตุรถยนต์กระบะแหกโค้งมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 8 ราย ที่บริเวณโค้งบ้านท่าขาม ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล จึงเดินทางไปตรวจสอบพบรถยนต์กระบะปิคอัพ ยี่ห้ออีซูซุ สีเทา ทะเบียน บจ.5629 นครศรีธรรมราช พลิกคว่ำอยู่ข้างทางและพบศพนายบ้าหวัน เกื้อสา อายุ 28 อยู่บ้านเลขที่ 12 ม.5 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล และนางสิรินาฐ อ่อนเมือง อายุ 38 อยู่บ้านเลขที่ 42 ม.5 ต.ทุ่งหว้า จ.สตูลเสียชีวิต และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวน 8 ราย นำส่ง รพ.ทุ่งหว้า จ.สตูล จากการสอบสวนทราบว่าผู้ตายนายบ้าหวันฯและนางสิรินาฐฯ พร้อมเพื่อนบ้านอีก 8 รายได้พากันไปเที่ยวสงกรานต์ขากลับรถเสียหลักแหกโค้งที่เกิดเหตุจนทำให้มีผุ้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บ 8 ราย
อีกรายในขณะที่ ด.ช.อาฟิตร์ หลงหัน อายุ 6 ปี บ้านอยู่ ม.3 ต.สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูล กำลังเดินอยู่บนถนนภายในหมู่บ้าน อบต.สาคร อ.ท่าแพ จ.สตูลก็ได้มีรถยนต์กระบะขับมาด้วยความเร็วสูง เป็นเหตุให้ ด.ช.อาฟิตร์ฯเสียชีวิตทันที รวมในช่วงวันสงกรานต์ จ.สตูล มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย

 ยอดผู้เสียชีวิตสงกรานต์กระบี่ตายแล้ว 4
 
   
14 เมษา. 2553 14:51 น.



นายเถลิงศักดิ์ ภูวญาณพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ เปิดเผย "ผู้สื่อข่าว" จาการที่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งได้ตั้งจุดตรวจหลัก กระจายอยู่ตามอำเภอต่าง ๆ รวม 24 จุด 8 อำเภอ ตามถนนสายหลัก ศูนย์ปฏิบัติการร่วมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ จังหวัดกระบี่ ที่ผ่านมาตั้งแต่วันที่ 12-13 เมษายน 53 มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น 24 ครั้ง อำเภอเมืองกระบี่ 13 ครั้ง อำเภอลำทับ 3 ครั้ง อำเภออ่าวลึก 2 ครั้ง อำเภอปลายพระยา 2 ครั้ง อำเภอเหนือคลอง 1 ครั้ง อำเภอคลองท่อม 1 ครั้ง และอำเภอเขาพนม 1 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 29 คน เสียชีวิต 4 คน สาเหตุการเกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายการจราจร เมาสุรา และขับรถด้วยความเร็วสูง

ขณะที่ พ.ต.อ. บุญทวี โตรักษา รอง ผบก.ภ.จว.กระบี่ (ปป) กล่าวว่า จาการที่มีการตั้งจุดตรวจจุกสกัดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อตั้งแต่วันที่ 12 เมษายน 53 เป็นต้นมา มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อยมาก และมีความเสียงที่จะเกิดขึ้นเรื่อย ทางตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ ได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ ทุก สภ. ให้ดำเนินการเพิ่มความเข้มข้นตามจุดสกัดต่างๆทุกจุด เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ทางถนน และให้มีการปราบปรามกวาดล้างอาวุธปืน อาญากรรม จับกุมผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายการจราจร โดยเฉพาะเมาแล้วขับ นอกจากนั้นยังส่งการให้ทางเจ้าหน้าที่ ตรวจจับผู้ที่ขายเครื่องดื่มสุราบริเวณขอบถนน รวมทั้งห้ามเล่นน้ำบนถนน เพื่อป้องอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดระหว่างเล่นน้ำ ตามถนนเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวไปยังหาดอ่าวนาง และหาดนพรัตน์ธารา