รายงานข่าวล่าสุด ฟรีสเกล เซมิคอนดัคเตอร์ (Freescale Semiconductor) กล่าวว่า ชิปใหม่ล่าสุดของทางบริษัทจะช่วยให้เครื่องอ่านอีบุ๊กรุ่นต่อไปมีราคาที่ ถูกลงกว่าเดิมค่อนข้างมาก ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ว่า มันตือ กุญแจดอกสำคัญที่จะทำให้เกิดการใช้เครื่องอ่านอีบุ๊กในระดับแมส หลังจากที่เข้าสู่ตลาดมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
i.MX508 ชิป e-reader รุ่นใหม่ของ Freescale จะเป็นการวมองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วนด้วยกันได้แก่ โพรเซสเซอร์สำหรับแอพพลิเคชัน และหน่วยควบคุมการแสดงผล ไว้ในชิปตัวเดียว ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่า มันจะช่วยลดราคาของเครื่องอ่านอีบุ๊กลงได้ประมาณ 30 เหรียญฯ (1,000 บาท) เลยทีเดียว "ราคา คือตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตของตลาด(เครื่องอ่านอีบุ๊ก)" Glen Burchers ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของ Freescale กล่าว เขายังบอกอีกด้วยว่า ชิปรุ่นใหม่นี้ไม่ได้เพียงแต่มีราคาถูกกว่าเท่านั้น แต่มันยังมีประสิทธิภาพในการตอบสนองการทำงานทีเร็วกว่าอีกด้วย โดยชิปรุ่นใหม่จะใช้แกนของชิป ARM ทำงานที 800MHz สามารถเรนเดอร์หน้าอีบุ๊กได้เร็วกว่ารุ่นก่อน 2 เท่าตัว อย่างเช่น Kindle วันนี้จะใช้เวลา 1.5 - 2 วินาทีในการเปลี่ยนหน้า Nook (โพรเซสเซอร์ Samsung) ใช้ 3 วินาที แต่สำหรับชิปรุ่นใหม่จะใช้แค่ 0.5 วินาทีเท่านั้น
ความจริง Freescale เป็นผู้ผลิตชิปที่ถูกใช้ในเครื่องอ่านอีบุ๊กของผู้นำตลาดอย่าง Kindle ของ Amazon และ Reader ของ Sony อยู่แล้ว โดยยังกล่าวว่า ชิปโพรเซสเซอร์สำหรับเครื่องอ่านอีบุ๊กของทางบริษัทครองส่วนแบ่งตลาด 90% ด้วยความที่ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กยังใหม่อยู่ ดังนั้น Amazon ที่เป็นรายแรกๆ จึงกลายเป็นผู้นำตลาดได้ในที่สุด DisplaySearch คาดว่า การเติบโตของตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กทั้่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2010 โดยจะมียอดจำหน่ายมากกว่า 14 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์แจงว่า การที่ตลาดมีการเติบโตค่อนข้างจำกัด เนื่องจากราคาที่แพงเกินไป Kindle ทีมีราคต่ำสุดยังสูงถึง 260 เหรียญฯ (ประมาณ 8,600 บาท) ในขณะที่ Samsung E10 กระโดดไปที 700 เหรียญฯ (ประมาณ 23,000 บาท) Freescale กล่าวว่า เครื่องอ่านอีบุ๊กจะมีราคาต่ำกว่า 200 เหรียญฯ (ไม่ถึง 6,500 บาท) ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคระาห์บางรายเชื่อว่า ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กเริ่มตกแล้ว หลังจากที่ตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอระบบสัมผัสที่นำโดย ไอแพด (iPad) ของ Apple ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการอ่านแบบเครื่องอ่านอีบุ๊กภายใต้ขุมพลังคอมพิวเตอร์ ทีทำอะไรได้มากกว่าการมีแค่ไว้อ่านเพียงอย่างเดียว แต่ Burchers กล่าวว่า กลุ่มผู้ใช้อีรีดเดอร์จะเป็นผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปที่นิยมอ่านมากกว่า ซึ่งทำให้มั่นใจว่า เครื่องอ่านอีบุ๊กจะตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มนี้มากกว่า สำหรับเครื่องอ่านอีบุ๊กที่ใช้ชิปรุ่นใหม่ของ Freescale จะวางตลาดในช่วงปลายปีนี้
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410973
i.MX508 ชิป e-reader รุ่นใหม่ของ Freescale จะเป็นการวมองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วนด้วยกันได้แก่ โพรเซสเซอร์สำหรับแอพพลิเคชัน และหน่วยควบคุมการแสดงผล ไว้ในชิปตัวเดียว ซึ่งทางบริษัทกล่าวว่า มันจะช่วยลดราคาของเครื่องอ่านอีบุ๊กลงได้ประมาณ 30 เหรียญฯ (1,000 บาท) เลยทีเดียว "ราคา คือตัวขับเคลื่อนที่สำคัญของการเติบโตของตลาด(เครื่องอ่านอีบุ๊ก)" Glen Burchers ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดผู้บริโภคของ Freescale กล่าว เขายังบอกอีกด้วยว่า ชิปรุ่นใหม่นี้ไม่ได้เพียงแต่มีราคาถูกกว่าเท่านั้น แต่มันยังมีประสิทธิภาพในการตอบสนองการทำงานทีเร็วกว่าอีกด้วย โดยชิปรุ่นใหม่จะใช้แกนของชิป ARM ทำงานที 800MHz สามารถเรนเดอร์หน้าอีบุ๊กได้เร็วกว่ารุ่นก่อน 2 เท่าตัว อย่างเช่น Kindle วันนี้จะใช้เวลา 1.5 - 2 วินาทีในการเปลี่ยนหน้า Nook (โพรเซสเซอร์ Samsung) ใช้ 3 วินาที แต่สำหรับชิปรุ่นใหม่จะใช้แค่ 0.5 วินาทีเท่านั้น
ความจริง Freescale เป็นผู้ผลิตชิปที่ถูกใช้ในเครื่องอ่านอีบุ๊กของผู้นำตลาดอย่าง Kindle ของ Amazon และ Reader ของ Sony อยู่แล้ว โดยยังกล่าวว่า ชิปโพรเซสเซอร์สำหรับเครื่องอ่านอีบุ๊กของทางบริษัทครองส่วนแบ่งตลาด 90% ด้วยความที่ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กยังใหม่อยู่ ดังนั้น Amazon ที่เป็นรายแรกๆ จึงกลายเป็นผู้นำตลาดได้ในที่สุด DisplaySearch คาดว่า การเติบโตของตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กทั้่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในปี 2010 โดยจะมียอดจำหน่ายมากกว่า 14 ล้านเครื่อง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์แจงว่า การที่ตลาดมีการเติบโตค่อนข้างจำกัด เนื่องจากราคาที่แพงเกินไป Kindle ทีมีราคต่ำสุดยังสูงถึง 260 เหรียญฯ (ประมาณ 8,600 บาท) ในขณะที่ Samsung E10 กระโดดไปที 700 เหรียญฯ (ประมาณ 23,000 บาท) Freescale กล่าวว่า เครื่องอ่านอีบุ๊กจะมีราคาต่ำกว่า 200 เหรียญฯ (ไม่ถึง 6,500 บาท) ในไม่ช้า
อย่างไรก็ตาม นักวิเคระาห์บางรายเชื่อว่า ตลาดเครื่องอ่านอีบุ๊กเริ่มตกแล้ว หลังจากที่ตลาดคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตหน้าจอระบบสัมผัสที่นำโดย ไอแพด (iPad) ของ Apple ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันการอ่านแบบเครื่องอ่านอีบุ๊กภายใต้ขุมพลังคอมพิวเตอร์ ทีทำอะไรได้มากกว่าการมีแค่ไว้อ่านเพียงอย่างเดียว แต่ Burchers กล่าวว่า กลุ่มผู้ใช้อีรีดเดอร์จะเป็นผู้ใช้ที่มีอายุตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไปที่นิยมอ่านมากกว่า ซึ่งทำให้มั่นใจว่า เครื่องอ่านอีบุ๊กจะตอบโจทย์ผู้ใช้กลุ่มนี้มากกว่า สำหรับเครื่องอ่านอีบุ๊กที่ใช้ชิปรุ่นใหม่ของ Freescale จะวางตลาดในช่วงปลายปีนี้
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410973
บันทึกการเข้า
