ข่าว IT ล่าสุด
ถูกใจอย่าลืม Like Fanpage
[it] DailyBuzz: เปิดโลกทีวี 3 มิติกับ Chanya
แสดงแล้ว 2510 ครั้ง /
พฤษภาคม 13, 2010, 11:15:36

Moshi

ออฟไลน์
กระทู้ : 16,996
คะแนนขอบคุณ : 45
it4x สังคมแห่งการเรียนรู้
      พบกับ Chanya ใน DailyBuzz Specialเป็นตอนที่ 2 แล้วนะคะ วันนี้มีเรื่องเกี่ยวกับทีวี 3 มิติมาเล่าสู่กันฟังค่ะ เชื่อไม๊คะว่า เราสามารถสร้างภาพ 3 มิติได้ตั้งแต่ 200 ปีที่แล้ว ซึ่งเทคโนโลยีที่พัฒนาจากภาพนิ่งสู่ภาพเคลื่อนไหวที่มีมิติทะลุจอออกมาได้ ก็ยังคงใช้หลักการพื้นฐานเหมือนเดิม มาร่วมไขความลับของ 3 มิติกันได้จากในรายการตอนนี้ค่ะ


     ทุกวันนี้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลก 3 มิติ โลกที่วัตถุต่างๆ รอบตัวเรา สามารถมองเห็น หรือสัมผัสได้ทั้งความกว้าง ยาว และลึกตื้นของมัน แต่ด้วยระนาบของหน้าจออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น จอคอมพิวเตอร์ ทีวี หรือโมบาย มันมีแค่ 2 มิติเท่านั้น แต่ข้อจำกัดของเทคโนโลยีส่วนแสดงผลได้เปลียนไปแล้ว เพราะทีวีรุ่นใหม่จะให้คุณผู้ชมได้สัมผัสมิติที 3 ที่ทำให้ภาพวัตถุต่างๆ ที่ปรากฎในหน้าจอสามารถพุ่งทะลุออกมานอกจอได้แล้วค่ะ

ชมรายการได้จากคลิปด้านล่างข่าวนี้นะคะ

การสร้างภาพ 3 มิติมีการคิดค้นมาตั้งแต่ 200 ปีที่แล้วค่ะ ค้นพบโดยนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ ชาลส์ วีสโตน (Charles Wheatstone) โดยภาพ 3 มิติภาพแรก เกิดขึ้นในปี 1844 ซึ่งเป็นช่วงประมาณเดียวกันกับกล้องที่ถ่ายรูปได้ถูกประดิษฐ์ขึ้นค่ะ โดยอุปกรณ์ที่เรียกว่า Stereoscope สามารถถ่ายภาพที่สามารถมองเห็นเป็น 3 มิติได้ คือ นอกจากจะเห็นความกว้าง และความยาวของภาพแล้ว ยังเห็นมิติของความใกล้ ไกล ขององค์ประกอบต่างๆ ที่อยู่ในภาพได้อีกด้วย ความลับของกล้อง 3 มิติในยุคนั้นก็คือ การถ่ายภาพ2 ภาพพร้อมกันที่มาจากคนละมุมมอง โดยจำลองจากการมองเห็นภาพวัตถุในโลกแห่งความเป็นจริงด้วยดวงตาทั้ง 2 ของเรานั่นเองค่ะ

คุณผู้ชมบางท่านอาจจะเคยมีประสบการณ์ภาพ 3 มิติกันมาบ้างแล้ว โดยเฉพาะจากของเล่นที่ชื่อว่า View Master ลักษณะเป็นกล้องสองเลนส์ที่ใช้ตามองพร้อมกัน ซึ่งภาพที่เห็นจากทั้งสองตาจะเป็นภาพเดียวกัน แต่จะมีมุมมองของภาพที่ไม่เหมือนกัน ผลลัพธ์ก็จะเหมือนกับ Stereogram คือ ภาพวัตถุด้านหน้าจะพุ่งขึ้นมาจากแบคกราวนด์ค่ะ
จนกระทั่งในปี 1950 ภาพยนต์ 3 มิติก็ได้เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ โดยใช้วิธีการฉายภาพจากเครื่องฉาย 2 ตัววางติดกัน เพื่อฉายภาพสองภาพเหลื่อมซ้อนกันไปปรากฎบนหน้าจอ ฟีดแบคจากผู้ชมส่วนใหญ่ก็คือ รู้สึกเมื่อยสายตาหลังจากชมภาพยนต์ 3 มิติด้วยเทคนิคดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในสมัยนั้นภาพยนต์ 3 มิติได้รับความนิยมอย่างมากทีเดียว

จะเห็นได้ว่า เทคโนโลยี 3 มิติในรุ่นแรกๆ จะรับชมค่อนข้างยาก และสร้างความลำบากให้กับสายตาผู้ชมมากทีเดียว แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันที่มีความแม่นยำในรายละเอียดมากขึ้น ทั้งๆ ที่แนวคิดพื้นฐานของเทคโนโลยียังเหมือนเดิม การสร้างภาพ 3 มิติที่ลวงตาให้ผู้ชมมองเห็นความลึก ตื้น หรือแม้แต่ทะลุหน้าจอออกมา แต่เพื่อให้คุณผู้ชมเข้าใจมากขึ้น ว่าเหตุใดถึงมองเห็นภาพเป็น 3 มิติได้นั้น เราคงต้องมาทำความรู้จักกับเทคนิคต่างๆ ทีใช้กันโดยทั่วไปกันก่อนค่ะ

แบบแรกนะคะ เราเรียกว่า Anaglyphs ค่ะ ใข้วิธีการมองเห็นภาพซ้อนสีน้ำเงินแดง ผ่านแว่นตาที่มีสีน้ำเงินแดงเช่นเดียวกัน ความลับที่ทำให้มองเห็นมิติของภาพก็คือ ภาพที่เกิดจากสีทั้งสองจะตกถึงจอตาที่ใช้ภาพในระยะไม่เท่ากัน สีแดงจะให้ความรู้สึกใกล้ตัวเรามากกว่าสีน้ำเงิน เมื่อถูกนำมาซ้อนกัน สมองจึงเล่นกลให้มองเห็นเป็นภาพลอยขึ้นมาได้นั่นเองค่ะ 

แบบที่สอง Polarization ก็ใช้แว่นตาแบบ Polarization ทีใช้เทคนิคการซ้อนภาพด้วยช่องของการมองเห็นที่ไม่เหมือนกัน ทำให้แว่นตาทั้งสองข้างมองเห็นภาพที่ปรากฎบนจอคนละภาพพร้อมกันตามหลักการพื้นฐานเดิมนั่นเอง

และแบบที่สามเรียกว่า Parallax Barrier จะเป็นเทคนิคการทำภาพสามมิติที่ผู้ชมไม่ต้องสวมแว่นตา พูดง่ายๆ ก็คือ แว่นตาที่เคยใช้ทำหน้าที่รวมภาพให้มีมิติขึ้นมา เมื่อมองผ่านสายตาทั้งสองของเรา เทคนิคนี้ มันกลับถูกออกแบบให้ติดตั้งบนจอภาพแทน ซึ่งเมื่อมองภาพซ้อนทีมาจากคนละมุมมองผ่านแผ่นกั้นที่ว่านี้ มันก็จะเกิดการรวมภาพให้เรามองเห็นมีมิติขึ้นมาแทน


 
เอาล่ะค่ะคงพอจะเข้าใจความลับของภาพ 3D กันบ้างแล้วนะคะ วันนี้เทคโนโลยีสามมิติกลับมาอีกครั้งในรูปของทีวี ซึ่งต้องสวมแว่นตา เพื่อรับชมภาพสามมิติ ปัจจุบันผู้ชมในสหรัฐฯ สามารถรับช่องสัญญาณที่ถ่ายทอดกีฬาในรูปแบบ 3 มิติ ผ่านกล้องพิเศษ เพื่อให้ผู้ชมทางบ้านที่มีทีวีสามมิติได้รับประสบการณ์ในการรับชมการแข่งขันกีฬาราวกับอยู่ในสนามจริง นอกจากนี้ยังมีรายการแฟชั่นที่ให้คุณได้ชมนางแบบอย่างใกล้ชิดอีกด้วย และแน่นอนว่า Avatar ที่ลาโรงไปแล้วก็จะมีแผ่น Blu-ray 3D ออกมาให้ได้ชมกันในบ้าน แต่อาจจะช้าหน่อย เพราะต้องรอจนถึงช่วงปลายปีนี้ค่ะ

ปัจจุบันมีผู้ผลิตทีวีหลายรายที่เริ่มวางหน่ายทีวี 3 มิติทีให้คุณภาพการรับชมได้อย่างสมบูรณ์แล้ว อย่างเช่น Sony Bravia LX Series ซึ่งมาพร้อมกับแว่นตาพิเศษที่เหมือนชัตเตอร์สลับเปิดปิดภาพจากสองมุมมองด้วยความเร็วสูงทำให้ภาพสามมิติที่มองเห็นมีความนุ่มนวล และนิ่งมากขึ้น หรือจะเป็น Panasonic 3D Viera ที่เน้นการแสดงผลที่นุ่มนวลยิ่งขึ้นด้วยความเร็วในการตอบสนองภาพที่ปรากฎ 0.001 มิลลิวินาที ซึ่งถือว่าเร็วมากทีเดียว เมื่อเทียบกับจอ LCD ทั่วไปที่อยู่ที่ 4 มิลลิวินาที

หวังว่า รายการ DailyBuzz Special ในตอนนี้คงจะทำให้คุณผู้ชมคุ้นเคยกับทีวีสามมิติมากขึ้นนะคะ แล้วพบกับ Chanya ได้ใหม่ในตอนหน้า อย่าลืมทักทายกันในทวิตเตอร์ chanya_nit ด้วยนะคะ สวัสดีค่ะ บ๊าย บาย


[url=http://www.buzzidea.tv]www.buzzidea.tv[/url]


แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com

ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411265


ßë©äûšë

ออฟไลน์ ( แค่นี้ยังอ่อนหัดอยู่นะ )
กระทู้ : 1,534
คะแนนขอบคุณ : 13
เลขเด็ด เลขเด็ด เลขดัง เกร็งเลข ใบ้หวย ประจำงวดนี้ ที่นี่ อาจารย์ตี๋
พฤษภาคม 13, 2010, 18:52:15
ว้าวๆ แต่อยากได้ ipad อะ :'(

 

ด้วยฟังค์ชั่น ตอบด่วน คุณสามารถใช้โค๊ดและ เครื่องหมายแสดงอารมณ์ได้ เหมือนการตั้งกระทู้ธรรมดา แต่สามารถทำได้สะดวกกว่า

ระวัง: หัวข้อนี้ไม่มีการอัพเดทมานานถึง 120 วัน

แจ้งเตือน: โพสของคุณจะไม่แสดงจนกว่าผู้ดูแลจะอนุมัติ.
ชื่อ: อีเมล์: