ข่าว IT ล่าสุด
ถูกใจอย่าลืม Like Fanpage
[it] ไอเดียอีรีดเดอร์ 2 จอเป็นของใครกันแน่?
แสดงแล้ว 1456 ครั้ง /
กรกฎาคม 09, 2010, 18:43:09

Moshi

ออฟไลน์
กระทู้ : 16,996
คะแนนขอบคุณ : 45
it4x สังคมแห่งการเรียนรู้
      แม้ว่า Kindle ของแอมะซอนเปิดตัวมาก่อน แต่คนที่ทำให้อีบุ๊กดังเปรี้ยงปร้างขนาดนี้ก็คงหนีไม่พ้น iPad จากบริษัทที่ใช้ผลไม้เพียงหนึ่งเดียวที่พระเจ้าห้ามกินเป็นโลโก้ เรียกว่าดังจนแอมะซอนต้องยอมลดราคา Kindle DX ลงมาอีก 110 ดอลลาร์ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการอ่านหนังสือเพียงบนเครื่องอ่านอีบุ๊กทุกวันนี้คล้ายกับการอ่านหนังสือบนกระดานชนวนเสียมากกว่า ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็มีผลการวิจัยที่น่าสนใจออกมาซ้ำด้วยว่าการอ่านหนังสือบนอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์เหล่านี้จะทำให้การอ่านช้ากว่าเดิมไปถึงสิบกว่าเปอร์เซ็นต์แล้วอย่างนี้คนไทยที่อ่านหนังสือปีนึงน้อยกว่า 7 บรรทัดถ้าเปลี่ยนไปอ่านบนอีบุ๊กคงเหลือแค่ 6 บรรทัดต่อปียิ่งแย่เข้าไปใหญ่


     
 

แต่ดูเหมือนแอมะซอนเองก็คิดเรื่องนี้ไว้บ้างเช่นกันก็เลยจัดการยื่นเอกสารของจนสิทธิบัตร Handheld Electronic Book Reader Device Having Dual Displalys เฉพาะในสหรัฐ เอาไว้ตั้งแต่ 2006 ซึ่งก็ใช้เวลาเกือบสี่ปีกว่าจะมาอนุมัติในวันที่ 6 กรกฏาคม 2010 นี้เอง โดยสาระสำคัญของการจดสิทธิบัตรมีดังนี้

"A handheld electronic device comprising: a housing; an electronic paper display disposed in the housing and having a first surface area; and a liquid crystal display (LCD) disposed in the housing proximate the electronic paper display, the LCD having a second surface area that is smaller than the first surface area of the electronic paper display."

หมายเหตุ : ถ้าใครอยากอ่านข้อมูลแบบเต็มเข้าไป Search หาคำว่า United States Patent No. US 7748634 B1

ประเด็นคือ พอข่าวนี้ออกปั๊บคนที่แทบจะหงายหลังล้มตึงก็คือ barnes & noble เจ้าของ Nook ที่ออกเครื่องอ่านอีบุ๊ค 2 หน้าจอ (จอ e-paper กับ จอ LCD ตรงกับสิทธิบัตรของแอมะซอน) และอีกคนหนึ่งที่น่าเป็นห่วงด้วยก็คือ Alex ที่มีคุณสมบัติ 2 หน้าจอ ซึ่งมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับที่แอมะซอนได้อ้างถึงในสิทธิบัตร อย่างไรก็ดี งานนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่า แอมะซอนจะฟ้องสองบริษัท หรือไม่ ฐานที่ละเมิดสิทธิบัตรของตน แต่ที่แน่ๆ เชื่อว่า เรื่องนีัทั้งสองเจ้าที่ก่อนหน้านี้ก็เกือบจะฟ้องกันเองอยู่แล้ว ก็คงจะไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนเหมือนกันว่าแท้จริง เจ้าของสิทธิบัตรตัวจริงคือแอมะซอน เฮ่อ...เศร้า 

ข้อมูลจาก: pcmag

แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com

ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411678


 

ด้วยฟังค์ชั่น ตอบด่วน คุณสามารถใช้โค๊ดและ เครื่องหมายแสดงอารมณ์ได้ เหมือนการตั้งกระทู้ธรรมดา แต่สามารถทำได้สะดวกกว่า

ระวัง: หัวข้อนี้ไม่มีการอัพเดทมานานถึง 120 วัน

แจ้งเตือน: โพสของคุณจะไม่แสดงจนกว่าผู้ดูแลจะอนุมัติ.
ชื่อ: อีเมล์: