[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุด พอล โอเตลินี (Paul Otellini) ซีอีโอของอินเทล (Intel) มั่นใจว่า อนาคตของเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาจะต้องเป็นโน้ตบุ๊กรุ่น"บาง-เบา" (ultra-thin) มากกว่า"เน็ตบุ๊ก"ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน
ในระหว่างการรายงานผลประกอบการรายได้ของอินเทล โอเตลินี กล่าวในที่ประชุมดังกล่าวว่า โน้ตบุ๊กที่บางเบาจะกลายเป็นคำตอบที่ผู้ซื้อเน็ตบุ๊กกำลังมองหาอยู่ โดยอ้างว่า ผู้ใช้(เน็ตบุ๊ก)จะรู้สึกไม่พอใจเมื่อพวกเขาพยายามจะเล่นเกมส์ 3D หรือรันแอพพลิเคชัน Office บนเน็ตบุ๊ก ซึ่งเป็นการกล่าวในเชิงตำหนิ "สถาปัตยกรรมโดยรวม" ของเน็ตบุ๊ก แทนที่จะบอกว่า Atom เป็นชิปราคาถูกของบริษัท ทั้งนี้ โอเตลินี่เชื่อว่า เวลาของโน้ตบุ๊กบางเบามาถึงแล้ว
ในขณะที่โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของการประมวลผล แต่โอเตลินี่ก็เชื่อว่า ผู้ใช้กลุ่มใหญ่ที่เห็นข้อจำกัดของเน็ตบุ๊กพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้น เพื่อเลือกใช้โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาแทน ตัวอย่าง Acer Aspire Timeline รุ่นทีมีราคา 699 เหรียญฯ (ประมาณ 26,000 บาท) ไม่น่าจะทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ปฏิเสธที่จะไม่เลือกได้ เพื่อแลกกับสมรรถนะการทำงานที่ดีกว่า บางเบา และประหยัดพลังงานได้มากกว่า
พิจารณาในแง่ธุรกิจ ความพยายามของโอเตลินี่ที่จะผลักให้ผู้บริโภคหันไปใช้โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เนื่องจากรายได้ และผลกำไรที่แท้จริงของบริษัทน่าจะมาจากชิป ULV Core 2 ทีใช้ในโน้ตบุ๊กบางเบามากกว่า Atom สมรรถนะการทำงานที่เพิ่มขึ้นของโพรเซสเซอร์ในโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบายังช่วยรักษาภาพพจน์ของแบรนด์ Intel ในแง่ของผู้นำโพรเซสเซอร์ทีมีประสิทธิภาพ แทนที่จะปล่อยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่แย่ลง แต่มันก็เป็นเรื่องลำบากอยู่เหมือนกันที่จะไม่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดคิดว่า เน็ตบุ๊กก็คือ โน้ตบุ๊กเครื่องเล็กนั่นเอง
ดูเหมือนงานนี้อินเทลจะต้องแก้สมการด้วยตนเอง เพราะแนวโน้มความต้องการเน็ตบุ๊กที่สุงขึ้นไปพร้อมกับความพยามที่จะเพิ่มคุณสมบัติการทำงานเข้าไปในเครื่องพวกนี้ของเหล่าผู้ผลิต ประกอบกับราคาที่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้มองว่า เน็ตบุ๊กใช้ทำงานไม่ได้ แม้จะมีการออกโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาให้มีขนาดเล็กลงมา แต่ผู้ซื้อก็ยังถามตัวเองว่า มันคุ้มไหมที่จะต้องจ่ายถึงสองเท่า เพื่อได้สิ่งทีมีขนาด(ดูจากภายนอก)เท่ากัน...นับเป็นโจทย์ที่น่าปวดหัวดีเหมือนกัน
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409515
Site : www.it4x.com
ในระหว่างการรายงานผลประกอบการรายได้ของอินเทล โอเตลินี กล่าวในที่ประชุมดังกล่าวว่า โน้ตบุ๊กที่บางเบาจะกลายเป็นคำตอบที่ผู้ซื้อเน็ตบุ๊กกำลังมองหาอยู่ โดยอ้างว่า ผู้ใช้(เน็ตบุ๊ก)จะรู้สึกไม่พอใจเมื่อพวกเขาพยายามจะเล่นเกมส์ 3D หรือรันแอพพลิเคชัน Office บนเน็ตบุ๊ก ซึ่งเป็นการกล่าวในเชิงตำหนิ "สถาปัตยกรรมโดยรวม" ของเน็ตบุ๊ก แทนที่จะบอกว่า Atom เป็นชิปราคาถูกของบริษัท ทั้งนี้ โอเตลินี่เชื่อว่า เวลาของโน้ตบุ๊กบางเบามาถึงแล้ว
ในขณะที่โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาอาจจะยังไม่ตอบโจทย์เรื่องประสิทธิภาพการทำงานสูงสุดของการประมวลผล แต่โอเตลินี่ก็เชื่อว่า ผู้ใช้กลุ่มใหญ่ที่เห็นข้อจำกัดของเน็ตบุ๊กพร้อมที่จะจ่ายแพงขึ้น เพื่อเลือกใช้โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาแทน ตัวอย่าง Acer Aspire Timeline รุ่นทีมีราคา 699 เหรียญฯ (ประมาณ 26,000 บาท) ไม่น่าจะทำให้ผู้บริโภคกลุ่มนี้ปฏิเสธที่จะไม่เลือกได้ เพื่อแลกกับสมรรถนะการทำงานที่ดีกว่า บางเบา และประหยัดพลังงานได้มากกว่า
พิจารณาในแง่ธุรกิจ ความพยายามของโอเตลินี่ที่จะผลักให้ผู้บริโภคหันไปใช้โน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาน่าจะเป็นแนวทางที่ถูกต้อง เนื่องจากรายได้ และผลกำไรที่แท้จริงของบริษัทน่าจะมาจากชิป ULV Core 2 ทีใช้ในโน้ตบุ๊กบางเบามากกว่า Atom สมรรถนะการทำงานที่เพิ่มขึ้นของโพรเซสเซอร์ในโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบายังช่วยรักษาภาพพจน์ของแบรนด์ Intel ในแง่ของผู้นำโพรเซสเซอร์ทีมีประสิทธิภาพ แทนที่จะปล่อยให้ผู้บริโภคได้รับประสบการณ์ในการใช้งานที่แย่ลง แต่มันก็เป็นเรื่องลำบากอยู่เหมือนกันที่จะไม่ทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดคิดว่า เน็ตบุ๊กก็คือ โน้ตบุ๊กเครื่องเล็กนั่นเอง
ดูเหมือนงานนี้อินเทลจะต้องแก้สมการด้วยตนเอง เพราะแนวโน้มความต้องการเน็ตบุ๊กที่สุงขึ้นไปพร้อมกับความพยามที่จะเพิ่มคุณสมบัติการทำงานเข้าไปในเครื่องพวกนี้ของเหล่าผู้ผลิต ประกอบกับราคาที่แตกต่างจากโน้ตบุ๊กอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ผู้บริโภคไม่ได้มองว่า เน็ตบุ๊กใช้ทำงานไม่ได้ แม้จะมีการออกโน้ตบุ๊กรุ่นบางเบาให้มีขนาดเล็กลงมา แต่ผู้ซื้อก็ยังถามตัวเองว่า มันคุ้มไหมที่จะต้องจ่ายถึงสองเท่า เพื่อได้สิ่งทีมีขนาด(ดูจากภายนอก)เท่ากัน...นับเป็นโจทย์ที่น่าปวดหัวดีเหมือนกัน
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409515
Site : www.it4x.com