อินเทลเรียก*ทรานซิสเตอร์ที่ได้รับการออกแบบให้มีโครงสร้างการทำงานเป็น 3 มิตินี้ว่า ไตรเกท (Tri-Gate) โดยมันจะมีลักษณะแตกต่างจากทรานซิสเตอร์ทั่วไปตรงทีส่งผ่านอิเล็กตรอนในแนวราบ (ด้านเดียว) ไปเป็นโครงสร้างใหม่ที่มีพื้นผิวถึง 3 ด้าน ซึ่งอินเทลกล่าวว่า ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เพิ่มพื้นผิว (ยกสูงคล้ายคลีบปลาดังในคลิปวิดีโอ) จะทำให้เกิดการไหลผ่านของอิเล็กตรอนในทรานซิสเตอร์ (ที่มีพื้นผิวถึง 3 ด้าน) ได้มากกว่า เมื่ออยู่ในสถานะ "เปิด" และยังคงเหลืออิเล็กตรอนที่ไหลผ่านน้อยมากๆ เมื่ออยู่ในสถานะ "ปิด" รวมถึงการสลับการเปิดปิดการทำงานได้ที่ความเร็วสูงสุด อินเทลยังบอกอีกด้วยว่า โครงสร้างของ Tri-Gate ที่ออกแบบคล้าย "คลีบปลา" ยังช่วยให้โพรเซสเซอร์สามารถทำงานได้โดยใช้พลังงานต่ำกว่า อีกทั้งยังเกิดการรั่วไหล (สูญเสีย) ของพลังงานน้อยกว่าอีกด้วย
นอกจากนี้ การดีไซน์ให้มีลักษณะเป็นคลีบปลาในแนวตั้งฉาก ยังทำให้ทรานซิสเตอร์สามารถเรียงตัวใกล้ชิดกันได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งนั่นหมายถึงการเพิ่มจำนวนทรานซิสเตอร์เข้าไปในชิป เพื่อให้ได้โพรเซสเซอร์ที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น อีกทั้งยังใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย ทางบริษัทวาแผนทีจะใช้เทคโนโลยีนี้กับผลิตภัณฑ์ทั้งหมด ตั้งแต่โพรเซสเซอร์สำหรับเซิร์ฟเวอร์ไปจนถึงอุปกรณ์โมบาย ซึ่งโพรเซสเซอร์ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่ 22nm (โค้ดเนม Ivy Bridge) คาดว่าจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 37% ในขณะที่พลังงานต่ำกว่าเดิม นั่นหมายความว่า โพรเซสเซอร์ที่ใช้บนโน้ตบุ๊คจะสามารถทำงานด้วยพลังงานที่ต่ำลงกว่าเดิมในขณะที่ความเร็วของสัญญาณนาฬิกาเท่ากัน และใช้แบตฯได้นานขึ้น
(*ทรานซิสเตอร์ คือ ชิ้นส่วนการทำงานที่เล็กที่สุดในโพรเซสเซอร์ ลักษณะการทำงานของมันจะคล้ายสวิตช์เปิดปิด เพื่อให้สัญญาณในรูปแบบ 1 กับ 0 (ระบบเลขฐานสอง) ที่ใช้ในการประมวลผลในระบบคอมพิวเตอร์นั่นเอง โดยในชิปคอมพิวเตอร์ตัวหนึ่งๆ จะมีทรานซิสเตอร์หลายล้านตัวที่เปิดปิดการทำงานด้วยความเร็วสูงตามรอบสัญญาณนาฬิกา (Clock) เพื่อประมวลผลในด้านต่างๆ ให้กับคอมพิวเตอร์คุณกำลังใช้งาน ซึ่งการที่ Intel สามารถพัฒนาให้ทรานซิสเตอร์เล็กลง (ใส่ทรานซิสเตอร์เข้าไปในชิปได้มากขึ้น) พลังงานที่ใช้ต่ำลง สามารถเปิดปิดการทำงานเร็วขึ้น ก็จะทำให้เราได้โน้ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์โมบายที่ฉลาดขึ้น เร็วขึ้น กินไฟน้อยลง นั่นเอง)
เว็บไซต์ในข่าว: Intel
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=413600