เครือข่ายสังคมออนไลน์ และบล็อกครองส่วนแบ่งเวลาในการออนไลน์ของชาวมะกันสูงเกือบหนึ่งในสี่ (22.5%) ของเวลาทั้งหมด มากกว่าสองเท่าของเวลาทีใช้ในการเล่นวิดีโอเกมส์ (9.8%) นอกจากนี้ เครือข่ายสังคมออนไลน์ และบล็อกที่ชาวมะกันใช้เวลาด้วยมากที่สุดคือ Facebook โดยเวลาออนไลน์ของผู้ใช้ทั้งหมดกับเว็บไซต์แห่งนี้อยู่ที่ 5.345 หมื่นล้านนาทีจะขลุกอยู่ในบริการต่างๆ อย่างเช่น นิวส์ฟีด อัพเดทสถานะ โพสต์ภาพถ่าย และวิดีโอ ตลอดจนคอมเมนต์ การใช้เวลากับ Facebook ทิ้งห่างเว็บไซต์อื่นๆ แบบไม่เห็นฝุ่นกันเลยทีเดียว โดยอันดับสองอย่าง Blogger (ของ Google) ยังไม่ถึงหนึ่งพันล้านนาที จากรายงานยังระบุว่า ในเดือนพฤษภาคมมีผู้เข้าเยี่ยมชม และใช้บริการ Facebook มากกว่า 140 ล้านราย หรือประมาณ 3 เท่าของผู้เข้าชม Blogger คิดเป็นส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้เน็ตใน US ประมาณ 70%
จากรายงานยังเปิดเผยอีกด้วยว่า ผู้หญิงอายุ 18 - 34 เป็นกลุ่มผู้ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์กที่แอคทีฟมากที่สุด และส่วนใหญ่เป็นผู้สำเร็จการศึกษาในระดับวิทยาลัยจาก New England ซึ่งรวมถึงนักศึกษา Asian American ที่มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 เหรียญฯต่อปี ในขณะเดียวกันผู้บริโภคกลุ่มใหญ่จะยังคงเข้าถึงโซเชียลมีเดียด้วยคอมพิวเตอร์ของตนเอง (97%) และ 37% จะเข้าถึงโดยสมาร์ทโฟน
นอกจากนี้ ในจำนวนผู้ที่เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟน และดาวน์โหลดแอพฯ โซเชียลเน็ตเวิร์กยังเป็นแอพฯยอดนิยมอันดับสามของชาวมะกันอีกด้วย โดยเป็นรองเกมส์ และรายงานสภาพภูมิอากาศ
ในขณะที่ Facebook จะปรากฎอยู่ในแทบทุกส่วนของรายงานฉบับนี้ เว็บไซต์อื่นๆ ที่ให้บริการในลักษณะที่เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ติดตสอยห้อยตามกันมาติดๆ ไม่ว่าจะเป็น Tumbler โดยผู้ใช้เน็ตชาวมะกันที่มีอายุ 18-34 ปีจะใช้บริการเว็บไซต์แห่งนี้มากถึง 75% ซึ่ง Tumblr เป็นเว็บไซต์ที่ผสมระหว่างบล็อกกับทวิตเตอร์ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถโพสต์ และคอมเมนต์ทุกอย่างตั้งแต่ภาพไปจนถึงวิดีโอ ลิงค์ ตลอดจนข้อความอ้างอิงจากที่ต่างๆ เป็นบริการที่เติบโตเร็วมากแค่ 2-3 ปีก็สามารถติดอันดับ 8 ของเว็บไซต์ในหมวดโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว
สุดท้ายรายงานวิจัยังได้แสดงให้เห็นว่า โซเชียลเน็ตเวิร์กไม่ได้เป็นปรากฎการณ์แค่ในสหรัฐฯ แต่จากตัวอย่างสิบประเทศในโลก โซเชียลเน็ตเวิร์ก และบล็อกยังเป็นอันดับหนึ่งในหลายๆ ประเทศอีกด้วย ทั้งในเรื่องของเวลาส่วนใหญ่ที่ใช้งาน และการเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอย่างน้อย 60% ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่สูงมาก คุณผู้อ่านของเว็บไซต์ arip ล่ะครับ คิดเห็นอย่างไรกํบรายงานฉบับนี้
ข้อมูลจาก: Nielsen Report
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=414366