[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] ข่าวดีสำหรับนักพัฒนาแอพพลิเคชันบนมือถือแอนดรอยด์ (Android smarthphone) เนื่องจากล่าสุดกูเกิ้ล (Google) ได้โพสต์วิดีโอแนวทางอัพเดต Android Market ออนไลน์สโตร์ที่เปิดให้ผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ใหม่ๆ ลงบนมือถือแอนดรอยด์ได้ รวมถึงการเปลียนแปลงอินเตอร์เฟซให้ซื้อง่ายจ่ายคล่อง เพื่อเทียบชั้นความสำเร็จของ Apple App Store กันเลยทีเดียว
อ้างอิงข้อมูลที่โพสต์ไว้ในบล็อกนักพัฒนาแอพฯแอนดรอยด์ ระบุว่า นักพัฒนาจะสามารถเพิ่มหน้าจอตัวอย่าง (screenshots) ของโปรแกรม ไอคอน ตลอดจนคำอธิบายเกี่ยวกับแอพพลิเคชันเข้าไปใน Android Market ได้ โดยส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ของทางหน้าร้านจะได้รับการพัฒนาให้ใช้บริการได้ง่ายมาก เรียกได้ว่า เทียบชั้นความง่ายได้ไม่แพ้ App Store ของ Apple เลยก็ว่าได้
ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอื่นๆ ก็จะมีการแสดงปุ่ม "จ่าย" (Paid) ที่ชัดเจนสำหรับแอพพลิเคชันที่ต้องซื้อจากทางร้าน โดยปรากฎอยู่ด้านบนสุดของหน้าจอ เมือใดก็ตามที่ผู้ใช้สืบค้นแอพพลิเคชันในหมวดนี้ (ในเวอร์ชันปัจจุบันของทางร้านก็มีอยู่แล้ว แต่อาจจะมองหายากสักหน่อย) นอกจากนี้ก็จะมีส่วนบริการเพิ่มเติมของทางร้านเป็นหมวดย่อยๆ ของแอพฯ อย่างเช่น ธีม (themes), การ์ตูน (comics), สุขภาพ (health) และกีฬา (sports)
การปรับปรุงล่าสุดน่าจะเกิดจากการที่ทาง Android Market ทราบดีว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้นำตลาดอย่าง App Store คงจะทิ้งห่างออกไปทุกที โดยเฉพาะการที่จะมีนักพัฒนาที่มีฝีมือเข้ามาร่วมสร้างสรรค์แอพฯ ดีๆ เพื่อแลกกับรายได้งามๆ ซึ่งจากข้อมูล นักพัฒนาแอพฯ ไอโฟนที่มีรายได้สูงสุดจะอยู่ที่เฉลี่ยวันละหลายพันเหรียญฯ (หลักแสนบาทภายในหนึ่งวัน) ในขณะที่รายได้สูงสูดของนักพัฒนาแอพฯ บนแอนดรอยด์โฟนเฉลี่ยยังไม่ถึงร้อยเหรียญฯ (ประมาณ 3,500 บาท) เลยด้วยซ้ำ...อุ๊ปส์!!!
ข้อมูลจาก: TechCrunch
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409885
Site : www.it4x.com
อ้างอิงข้อมูลที่โพสต์ไว้ในบล็อกนักพัฒนาแอพฯแอนดรอยด์ ระบุว่า นักพัฒนาจะสามารถเพิ่มหน้าจอตัวอย่าง (screenshots) ของโปรแกรม ไอคอน ตลอดจนคำอธิบายเกี่ยวกับแอพพลิเคชันเข้าไปใน Android Market ได้ โดยส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ของทางหน้าร้านจะได้รับการพัฒนาให้ใช้บริการได้ง่ายมาก เรียกได้ว่า เทียบชั้นความง่ายได้ไม่แพ้ App Store ของ Apple เลยก็ว่าได้
ส่วนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญอื่นๆ ก็จะมีการแสดงปุ่ม "จ่าย" (Paid) ที่ชัดเจนสำหรับแอพพลิเคชันที่ต้องซื้อจากทางร้าน โดยปรากฎอยู่ด้านบนสุดของหน้าจอ เมือใดก็ตามที่ผู้ใช้สืบค้นแอพพลิเคชันในหมวดนี้ (ในเวอร์ชันปัจจุบันของทางร้านก็มีอยู่แล้ว แต่อาจจะมองหายากสักหน่อย) นอกจากนี้ก็จะมีส่วนบริการเพิ่มเติมของทางร้านเป็นหมวดย่อยๆ ของแอพฯ อย่างเช่น ธีม (themes), การ์ตูน (comics), สุขภาพ (health) และกีฬา (sports)
การปรับปรุงล่าสุดน่าจะเกิดจากการที่ทาง Android Market ทราบดีว่า หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง ผู้นำตลาดอย่าง App Store คงจะทิ้งห่างออกไปทุกที โดยเฉพาะการที่จะมีนักพัฒนาที่มีฝีมือเข้ามาร่วมสร้างสรรค์แอพฯ ดีๆ เพื่อแลกกับรายได้งามๆ ซึ่งจากข้อมูล นักพัฒนาแอพฯ ไอโฟนที่มีรายได้สูงสุดจะอยู่ที่เฉลี่ยวันละหลายพันเหรียญฯ (หลักแสนบาทภายในหนึ่งวัน) ในขณะที่รายได้สูงสูดของนักพัฒนาแอพฯ บนแอนดรอยด์โฟนเฉลี่ยยังไม่ถึงร้อยเหรียญฯ (ประมาณ 3,500 บาท) เลยด้วยซ้ำ...อุ๊ปส์!!!
ข้อมูลจาก: TechCrunch
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409885
Site : www.it4x.com
บันทึกการเข้า
