รู้จักกับความแตกต่างของจอแบบ CRT vs LCD เรียบเรียงจาก Mark Kyrnin
บทความ Which Monitor is the Best to Buy?
จะเลือกจอ CRT หรือ LCD ดี? คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่หลายๆคนถามหา เมื่อจะเลือกซื้อจอใหม่ หรือเปลี่ยนจอภาพที่ใช้งานมานานจะเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ถ้าถามคนข้างๆ คงจะตอบว่า ใช้จอ LCD ไปเลยสิ เพราะสบายตา ดูดี มีรสนิยม ไม่เกะกะเนื้อที่ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ มาศึกษาลักษณะเฉพาะของจอ CRT และ LCD กันก่อนดีกว่า
จอภาพแบบ CRT
จอภาพแบบ CRT มีขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก ใช้เนื้อที่วางเยอะ
หลายๆคนอาจไม่รู้จักคำว่า CRT เนื่องจากเรียนจอภาพว่า จอคอมพิวเตอร์
โดยลักษณะภาพนอกที่จำแนกได้ว่าเป็นจอแบบ CRT นั่นคือเป็นจอภาพแบบใหญ่ๆ หนักๆ เหมือนจอโทรทัศน์ ส่วนจอ LCD จะแบนๆ บางๆ นี่แหล่ะคือการจำแนกจอภาพแบบหยาบๆ เอาแบบง่ายๆเลย
เริ่มกันที่จุดเด่นกันก่อน หากใครชอบสีสันสดใส แสงสว่างจ้าๆ คงชอบที่จะใช้จอแบบ CRT มากกว่า เพราะมีความลึกของสีและมีความสดใสของภาพมาก เราอาจเห็นว่า กราฟิคดีไซน์มืออาชีพมักจะเลือกจอภาพแบบ CRT ขนาดใหญ่ๆ (หนักๆ) เพราะให้สีที่ชัดเจน สดใส อิ่มเอมกว่าจอ LCD เยอะ เพราะการออกแบบภาพกราฟิคนั้นจำเป็นต้องเน้นเรื่องสีมากเป็นพิเศษ
เอาล่ะครับ พอมาถึงบรรทัดนี้ ผมจะเริ่มแนะนำให้คุณเลือกใช้จอให้เหมาะสมกับการทำงานของคุณจะดีกว่า ไม่ใช่ว่าเอาจอ LCD ไว้ใช้โก้ๆ หรูๆ วางเป็นเฟอร์นิเจอร์บนโต๊ะ แต่ให้คำนึงถึงการทำงานของคุณ ว่านำจอภาพไปใช้งานด้านใด เช่น พิมพ์งาน เล่นอินเตอร์เน็ต ชมภาพยนตร์ เล่นเกม ออกแบบกราฟิค ตัดต่อภาพยนตร์ แต่ละงานนั้นมีความต้องการด้านการมองเห็นแตกต่างกัน การพิมพ์งานจะต้องมองตัวอักษรสีดำ บนพื้นสีขาวเป็นเวลานาน ส่วนการออกแบบกราฟิคจะมองสีสันเป็นหลัก และสำหรับการเล่นเกม นั้นมีการเปลี่ยนฉาก การเคลื่อนไหวของตัวละครในเกม จอภาพเป็นสิ่งสำคัญ ที่คู่กับการ์ดแสดงผลเลยทีเดียวในการสร้างมิติภาพในการเล่นเกมที่สมจริง ซึ่งในการใช้งานแต่ละประเภท ต้องการจอภาพที่มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน
ข้อดีของจอ CRT คือสามารถปรับความละเอียดหน้าจอได้หลากหลาย โดยมีผลต่อความคมชัด และการแสดงผลภาพด้วย
ในขณะที่ราคาของจอแบบ CRT และ LCD มีราคาไม่ต่างกันมากดังเช่นสมัยก่อน ทำให้หลายคนมองข้อเสียของจอภาพแบบ CRT ว่าใหญ่ และหนัก ไม่สะดวกในการวาง ส่วนจอภาพแบบ LCD ในขนาดการแสดงผลที่เท่ากันกลับมาขนาดการแสดงผลจอภาพที่กว้างกว่า และมีขนาดของจอที่เล็กกว่า รวมทั้งมีน้ำหนักเบา สะดวกในการจัดวางได้ทุกที่ นอกจากนี้จอ LCD ยังมีอัตราการสิ้นเปลืองพลังงานที่ต่ำกว่าอีกด้วย เนื่องจากจอภาพแบบ CRT จะต้องใช้พลังงานในการยิงลำแสงอีเล็คตรอนและมีความร้อนสูงกว่าจอภาพแบบ LCD ด้วย
ข้อดีของจอ CRT:
-รองรับการแสดงผลได้หลากหลาย
-มีอัตราค่า Refresh Rate ที่สูงกว่า
-สีสันสดใส คมชัดกว่า
ข้อด้อย:
-ขนาดใหญ่ น้ำหนักมาก
-สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่า
-มีความร้อนสูง
จอภาพแบบ LCD
จอภาพแบบ LCD รูปร่างบาง เบา ใช้เนื้อที่ในการจัดวางน้อย
เมื่อนึกถึงจอภาพแบบ LCD แล้ว ด้วยความที่ในสมัยก่อน จอภาพแบบ LCD มีราคาสูงมาก จนทำให้ผู้ใช้งานในระดับล่างและกลางไม่อาจเลือกซื้อมาใช้งานได้ ทำให้หลายๆคนมองว่าจอ LCD ใช้งานสำหรับนักธุรกิจ ผู้บริหาร หรือคนมีเงินใช้กัน ซึ่งในความเป็นจริงราคาก็เป็นส่วนสำคัญ แต่อยากจะใช้มองถึงเรื่องประโยชน์และลักษณะในการใช้สอยมากกว่า โดยจุดเด่นของจอ LCD คือขนาดเล็ก บาง น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย สะดวก แถมยังสว่างกว่าจอแบบ CRT อีกด้วย ซึ่งหลายๆคนต้องการจอภาพที่แสดงผลขนาดใหญ่ จึงมองจอ LCD ที่ให้มุมมองในการมองเห็นที่กว้างกว่าในขนาดการแสดงผลที่เท่ากัน
ในปัจจุบัน จอ LCD ไม่ได้มีราคาสูงจะเกินเอื้อมอย่างสมัยก่อนอีกแล้ว ทำให้หลายคนเริ่มหันมามองจอ LCD กันมากขึ้น (ด้วยความที่ราคาจอแบบ LCD ในปัจจุบัน มีความใกล้เคียงกันจอภาพแบบ CRT ในสมัยก่อนและมีราคาที่แตกต่างจากจอภาพแบบ CRT ไม่มากนัก (ประมาณ 2 – 3 พันบาทเท่านั้น)
แน่นอนว่าเหตุผลแรกๆที่ผู้ใช้มองหาจอ LCD คือเรื่องของการมองเห็นที่สบายตา ไม่เมื่อยล้าเนื่องจากอัตรา Refresh Rate และรังสีที่แผ่ออกมาเหมือนจอ CRT มุมมองของจอภาพแบบ LCD ดีกว่าและใช้งานเป็นเวลานานๆได้อย่างสบายและไม่เมื่อยล้าสายตา
แต่สิ่งที่เป็นข้อเสียของจอ LCD คือมีการจำกัดหรือตั้งค่า native resolution ไว้ ทำให้การแสดงผลของจอ LCD สามารถแสดงผลได้จำกัดจำนวนพิกเซลที่กำหนด ทำให้ผู้ใช้งานบางประเภทต้องตัดสินใจตัดตัวเลือกจอ LCD ทิ้งไป เนื่องจากข้อจำกัดในการแสดงผลนั่นเอง
การแสดงผลภาพเคลื่อนไหวพวกไฟล์วีดีโอนั้น จอ LCD ที่มีค่า response times ที่ต่ำจะแสดงผลได้ราบรื่นกว่า ปัจจุบันเราจะเห็นจอภาพ LCD ที่มีอัตราค่า Response Times ที่ 8 และ 2 ms ให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ นั่นหมายความว่า การรับชมภาพเคลื่อนไหวจะไม่เป็นปัญหาในการแสดงผลที่เกิดเงาอย่างเช่นจอภาพ LCD ในสมัยก่อน แต่ในการพัฒนาจอภาพ อาจส่งผลให้สีสันที่แสดงออกมาไม่สดใส ลดความคมชัดของภาพลง และจอ LCD ถือว่ามีการแข่งขันสูงเนื่องจากผู้ซื้อจะเปรียบเทียบสเปคในการทำงานได้ง่าย
ข้อดี:
-ขนาดเล็กและการแสดงผลสว่างกว่า
-ประหยัดพลังงาน
-ไม่ระคายเคืองสายตา ช่วยถนอมสายตาในการใช้งานเป็นเวลานาน
ข้อด้อย:
-การแสดงผลภาพถูกจำกัดขนาดการแสดงผลไว้
-อาจแสดงภาพเบลอได้หากมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว (ต้องเลือกรุ่นที่มีค่า Response Times ต่ำ)
-ลดความสดใสและคมชัดของภาพ สีสันไม่สดใสเท่าจอแบบ CRT
สรุปทิ้งท้าย
ด้วยราคาค่างวดของจอภาพแบบ LCD และ CRT ที่ไม่แตกต่างกันมาก (จอขนาด 17 นิ้ว แบบ CRT ราคาประมาณ 3 – 4 พันบาท และจอแบบ LCD ราคาประมาณ 6 – 7 พันบาท) ข้อมูล: ตุลาคม 2549 ด้วยกระแสความนิยมของคอมพิวเตอร์ราคาถูก และโน๊ตบุคราคาถูกแล้ว จอภาพแบบ LCD ก็กลายเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ถูกฉีกข้อจำกัดด้านราคาที่สมัยก่อนแพงซะจนต้องกัดฟันซื้อ ทำให้จอภาพแบบ CRT กลายเป็นจอสำหรับนักออกแบบกราฟิคหรือเฉพาะกลุ่มที่เน้นเรื่องสีสันมากๆ
หากคุณคิดจะเลือกซื้อจอภาพไว้ใช้งาน สิ่งหนึ่งที่ผมเน้นย้ำและแนะนำตลอดคือ การใช้งานให้คุ้มค่าและเกิดประโยชน์มากที่สุด โดยเลือกซื้อจอภาพให้เหมาะสมกับประเภทงานที่ใช้ นอกจากนี้ยังต้องมองในเรื่องการรับประกันจุด Deal Pixel ของจอภาพแบบ LCD ไว้ด้วย ผมจะเปลี่ยนแนวคิดใหม่กับการเลือกซื้ออย่างชาญฉลาดให้เหมาะสมกับการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันของคุณ มากกว่าที่จะเลือกซื้อตามกระแสหรือแฟชั่นโดยใช้งานไม่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป
แปลและเรียบเรียงจาก :
http://hitech.sanook.com/computer/news_07381.phpSite :
www.it4x.com