"ผู้บริโภคต้องการพีซีราคาถูก...พีซีแบรนด์ต่างๆ ในสหรัฐฯ จะหายไปจากตลาดภายใน 20 ปี" คำประกาศกร้าวของ สแตน ฉี (Stan Shih) ผู้ก่อตั้งเอเซอร์ (Acer) บริษัทผู้ผลิตพีซีในไต้หวัน เจ้าของวลีเด็ดที่ว่า "Mee too is not my style" (ผมไม่เลียนแบบใคร)
รายงานจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Commercial Times ระบุว่า Stan Shih ผู้ก่อตั้งบริษัทเอเซอร์ฟันธง สหรัฐฯจะไม่สามารถผลิตพีซีที่มีราคาถูก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งแนวโน้มความต้องการคอมพิวเตอร์ราคา ถูกจะเกิดขึ้นนับจากนี้ต่อไปอีกหลายปี แต่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในสหรัฐไม่ทราบวิธีสร้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวป้อน เข้าสู่ตลาด แบรนด์คอมพิวเตอร์ในสหรัฐจะหายไปภายในไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับการสูญพันธุ์ของแบรนด์ทีวีจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ
Shih กล่าวว่า เอเซอร์กำลังเดินหน้าสู่การเป็นเจ้าตลาดคอมพิวเตอร์ของโลก โดยเมื่อปีที่ผ่านมาสามารถเอาชนะ Dell ไปได้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถแทนที่ HP ที่เป็นอันดับหนึ่งได้ภายในปี 2011 อย่างไรก็ตาม ตลาดในสหรัฐมีความแตกต่างจากทั่วโลกอยู่บ้างเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น แอปเปิล (Apple) ที่ยังคงไปได้ดีทั้งๆ ที่จำหน่ายพีซีราคาแพง (ทั้งๆ ที่ผู้บริโภคก็ทราบดีว่า มันบวกกำไรค่อนข้างมาก) ในขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทผู้ผลิตพีซีในสหรัฐฯ ต่างมั่นใจว่า จะสามารถสร้างพีซีที่ตอบรับกับแนวโนม้ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแน่ นอน แต่จะไม่เล่นกลยุทธ์ราคาถูก อีกทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้นำเข้าในตลาดเอเซียด้วยดี เหมือนที่ผ่านมา งานนี้คงต้องติดตามดูว่า ในปี 2011 เอเซอร์จะสามารถขึ้นแท่นอันดับ 1 ผู้ผลิตพีซีของโลกแทน HP ตามที่ประกาศไว้ได้ หรือไม่?
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410706
รายงานจากเว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Commercial Times ระบุว่า Stan Shih ผู้ก่อตั้งบริษัทเอเซอร์ฟันธง สหรัฐฯจะไม่สามารถผลิตพีซีที่มีราคาถูก เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดได้ ซึ่งแนวโน้มความต้องการคอมพิวเตอร์ราคา ถูกจะเกิดขึ้นนับจากนี้ต่อไปอีกหลายปี แต่บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในสหรัฐไม่ทราบวิธีสร้างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวป้อน เข้าสู่ตลาด แบรนด์คอมพิวเตอร์ในสหรัฐจะหายไปภายในไม่เกิน 20 ปีข้างหน้า เช่นเดียวกับการสูญพันธุ์ของแบรนด์ทีวีจากผู้ผลิตในสหรัฐฯ
Shih กล่าวว่า เอเซอร์กำลังเดินหน้าสู่การเป็นเจ้าตลาดคอมพิวเตอร์ของโลก โดยเมื่อปีที่ผ่านมาสามารถเอาชนะ Dell ไปได้เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะสามารถแทนที่ HP ที่เป็นอันดับหนึ่งได้ภายในปี 2011 อย่างไรก็ตาม ตลาดในสหรัฐมีความแตกต่างจากทั่วโลกอยู่บ้างเหมือนกัน ยกตัวอย่างเช่น แอปเปิล (Apple) ที่ยังคงไปได้ดีทั้งๆ ที่จำหน่ายพีซีราคาแพง (ทั้งๆ ที่ผู้บริโภคก็ทราบดีว่า มันบวกกำไรค่อนข้างมาก) ในขณะเดียวกัน บรรดาบริษัทผู้ผลิตพีซีในสหรัฐฯ ต่างมั่นใจว่า จะสามารถสร้างพีซีที่ตอบรับกับแนวโนม้ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างแน่ นอน แต่จะไม่เล่นกลยุทธ์ราคาถูก อีกทั้งยังเชื่อว่าจะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้นำเข้าในตลาดเอเซียด้วยดี เหมือนที่ผ่านมา งานนี้คงต้องติดตามดูว่า ในปี 2011 เอเซอร์จะสามารถขึ้นแท่นอันดับ 1 ผู้ผลิตพีซีของโลกแทน HP ตามที่ประกาศไว้ได้ หรือไม่?
ข้อมูลจาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=410706
บันทึกการเข้า
