อะโดบี้ ซิสเต็มส์ อิงค์ (Adobe Systems Inc.) ถอดใจยกเลิกความพยายามที่จะพัฒนาแอพพลิเคชันแฟลช (Flash) บนไอโฟน (iPhone) ของแอปเปิ้ล (Apple) โดย Mike Chambers ผู้จัดการโครงการ Adobe Flash โพสต์ไว้ในบล็อกของบริษัทเมื่อคืนวันอังคารที่ผานมา
โดยเขาได้ระบุว่า ขณะนี้ทางอะโดบี้จะพุ่งความสนใจไปที่ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิ้ล (Google) แทน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะยังคงออก iPhone Packager ไปกับ Creative Suite 5 แต่จะไม่มีการลงทุนในซอฟต์แวร์ตัวนี้อีกต่อไป "นักพัฒนาควรจะทราบและได้เตรียมใจสำหรับการที่แอปเปิ้ลจะลบคอนเท็นต์ และแอพพลิเคชันที่ม่ีอยู่...ซึ่งสร้างด้วย Flash CS5 ออกจาก iTunes store" ข้อความที่ Chambers ได้โพสต์ในบล็อกของอะโดบี้
"โชคดีที่ iPhone ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มเดียวในตลาด โดยความเห็นส่วนตัว เรากำลังจะเปลียนโฟกัสจากอุปกรณ์ iPhone ไปเป็น Android แทน" การออกมาประกาศครั้งนี้ของ Chambers น่าจะเป็นผลมาจากการที่ก่อนหน้านี้ Steve Jobs ซีอีโอ Apple ออกมากล่าว่า จะไม่ยอมให้มี Flash ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท เนื่องจากมันป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์แม็คล่มการทำงาน แถมยังบอกอีกด้วยว่า Adobe เกียจคร้านต่อการแก้ปัญหา ส่วนทางด้าน Adobe ก็ออกมาวิจารณ์การกระทำครั้งนี้ของ Apple ว่า จะทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์กลับเข้าสู่ยุคมึดอีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนสงครามระหว่าง Apple กับ Adobe จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว
ข้อมูล จาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=411184
โดยเขาได้ระบุว่า ขณะนี้ทางอะโดบี้จะพุ่งความสนใจไปที่ระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์ (Android) ของกูเกิ้ล (Google) แทน อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทจะยังคงออก iPhone Packager ไปกับ Creative Suite 5 แต่จะไม่มีการลงทุนในซอฟต์แวร์ตัวนี้อีกต่อไป "นักพัฒนาควรจะทราบและได้เตรียมใจสำหรับการที่แอปเปิ้ลจะลบคอนเท็นต์ และแอพพลิเคชันที่ม่ีอยู่...ซึ่งสร้างด้วย Flash CS5 ออกจาก iTunes store" ข้อความที่ Chambers ได้โพสต์ในบล็อกของอะโดบี้
"โชคดีที่ iPhone ไม่ได้เป็นแค่แพลตฟอร์มเดียวในตลาด โดยความเห็นส่วนตัว เรากำลังจะเปลียนโฟกัสจากอุปกรณ์ iPhone ไปเป็น Android แทน" การออกมาประกาศครั้งนี้ของ Chambers น่าจะเป็นผลมาจากการที่ก่อนหน้านี้ Steve Jobs ซีอีโอ Apple ออกมากล่าว่า จะไม่ยอมให้มี Flash ในผลิตภัณฑ์ของบริษัท เนื่องจากมันป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คอมพิวเตอร์แม็คล่มการทำงาน แถมยังบอกอีกด้วยว่า Adobe เกียจคร้านต่อการแก้ปัญหา ส่วนทางด้าน Adobe ก็ออกมาวิจารณ์การกระทำครั้งนี้ของ Apple ว่า จะทำให้การพัฒนาซอฟต์แวร์กลับเข้าสู่ยุคมึดอีกครั้ง ซึ่งดูเหมือนสงครามระหว่าง Apple กับ Adobe จะทวีความรุนแรงมากขึ้นแล้ว
ข้อมูล จาก: http://www.arip.co.th/news.php?id=411184