Google Editions จะแตกต่างจาก Amazon ซึ่งเปิดให้ดาวน์โหลดอีบุ๊กในฟอร์แมตเฉพาะของ Kindle ส่วน Google Editions จะเป็นบริการที่ให้ผู้ใช้เปิดอ่านอีบุ๊กบนบราวเซอร์เป็นหลัก โดยผู้ใช้สามารถเปิดอ่านอีบุ๊กที่ซื้อไปแล้ว ซึ่งอยู่ในรูปของแคช (cached) ขณะออฟไลน์ หรืออ่านผ่านแอพพลิเคชัน อย่างไรก็ตาม กูเกิ้ลจะเก็บชั้นหนังสืออีบุ๊กของคุณไว้ในระบบคอมพิวเตอร์เหนือเมฆ (cloud computing) ทำให้ผู้ใช้สะดวกมาก ยกตัวอย่างเช่น คุณไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับเรื่อง DRM ที่ผูกมัดบริการกับฮาร์ดแวร์ที่ใช้ Google Editions จะสามารถทำงานได้ทั้งบน iPad หรือสมาร์ทโฟนอย่าง HTC Droid Incredible ตลอดจนโน้ตบุ๊กของคุณ
แต่ประเด็นคำถามที่สำคัญกว่าก็คือ กูเกิ้ลยังคงต้องรอการอนุมัติจากศาลสำหรับข้อตกลงในเรื่องของบริการ Google Books ซึ่งขณะกูเกิ้ลเป็นเจ้าเดียวที่ได้รับสิทธิ์ในการขายอีบุ๊กที่ได้มีการเจรจาในการเป็นช่องทางจัดจำหน่ายให้กับบรรดาสำนักพิมพ์ต่างๆ ตลอดจนงานเขียนที่ไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยกฎหมายลิขสิทธิ์ (public domain) ดังนั้นถ้าบริการของ Google Books ได้รับการอนุมัติ มันก็เท่ากับ Google Editions จะมีอีบุ๊กที่มาจากหนังสือที่ไม้ไดมีการตีพิมพ์แล้ว เพิ่มเข้ามาให้บริการอีกเป็นจำนวนมาก
เมื่อปีที่แล้ว บริษัทชื่อว่า On Demand Books ซึ่งเป็นพันธมิตรธุรกิจกับกูกิ้ลได้แนะนำ Espresso Book Machine อุปกรณ์ที่ได้รับฉายาว่า "ATM สำหรับหนังสือ" โดยเจ้า Espresso Book Machine จะได้รับการติดตั้งในร้านหนังสือทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถซื้อหนังสือไม่ได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์จาก Google Books "เราเชื่อในระบบความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมแบบเปิดทีเรียกว่า open ecosystem ซึ่งผู้คนสามารถเข้าถึง และอ่านหนังสือได้ ไม่ว่าจะเป็นที่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่ง บนมือถือ หรืออีรีดเดอร์ ตลอดจนห้องสมุด หรือร้านหนังสือ" Brandon Badger ผู้จัดการผลิตภัณฑ์กูเกิ้ลกล่าว
ข้อมูลจาก: informationweek
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411230