HP TouchPad เป็นแท็บเล็ตที่ทางบริษัทมั่นใจว่า มันจะสามารถต่อกรกับคู่แข่งในท้องตลาดได้ ซึ่งในขณะที่แอพฯ ของ TouchPad จะดูสวยงามน่าใช้ และดึงความสนใจให้กับผู้ใช้ได้ตลอดเวลา แต่โดยรวมมันก็ยังไม่ถึอว่าแตกต่างอย่างโดดเด่น เมื่อเทียบกับคู่แข่งหลายๆ รายในท้องตลาดวันนี้ โดยตัวเครื่องของ TouchPad จะมีสีดำมันวาว ในขณะที่มีปุ่มการใช้งานน้อยมาก หน้าจอสัมผัสขนาด 9.7 นิ้ว และมีความละเอียดเท่ากับ iPad สนนราคาจำหน่ายที่ 500 เหรียญฯ (ประมาณ 15,000 บาท) สำหรับรุ่นที่มีสตอเรจ 16GB หรือ 600 เหรียญฯ สำหรับรุ่น 32GB (ราคาก็ไม่หนี iPad อีกเช่นกัน)
แม้คุณสมบัติของ TouchPad จะคล้าย iPad แต่มันมีความหนาถึง 0.54 นิ้ว และหนัก 1.6 ปอนด์ ซึ่งทั้งหนา และหนักกว่า iPad นอกจากนี้ เนื่องจากตัวเครื่องได้รับการดีไซน์ให้ขอบพลาสติกโค้งมน แหล่งข่าวเปิดเผยว่า มันทำให้สบายมือเวลาถือ แต่ก็ลื่นหลุดมือได้ง่ายในเวลาเดียว สำหรับการเปิด TouchPad ขึ้นทำงาน หน้าจออินเตอร์เฟซจะคล้ายกับ webOS บนสมาร์ทโฟน เพียงแต่ปรับให้ใช้งานบนแท็บเล็ตได้สะดวกยิ่งขึ้น ส่วนแอพพลิเคชันต่างๆ จะแสดงบนหน้าจอเป็นรูป"บัตรสีเหลี่ยม"เล็กๆ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้นิ้วเลื่อนไปด้านข้างดูแอพฯต่างๆ ได้ และเมื่อต้องการใช้แอพฯตัวไหนก็แตะเพื่อขยาย หรือดีดมันขึ้นไปเพื่อปิด แต่ละหน้าต่างที่เปิดขึ้นมาจะอยู่ภายในแอพพลิเคชันนั่นๆ เช่น การเปิดเว็บเพจหลายๆ หน้า หรืออีเมล์หลายฉบับ โดยระบบจะแสดงเป็นบัตรภายในแอพฯ นั้นๆ โดยที่ผู้ใช้สามารถจัดเรียงใหม่ได้ตามต้องการ
HP TouchPad จะทำงานด้วยระบบปฎิบัติการ webOS เวอร์ชันล่าสุด ซึ่งจะมีการเพิ่มคุณสมบัติอย่างการดึงภาพจาก Facebook และเว็บไซต์ภาพถ่ายออนไลน์ต่างๆ เข้าไปในไลบรารี่รูปภาพของ TouchPad เองได้ นอกจากนี้ มันยังมีฟีเจอร์ Touch to Share ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์คอนเท็นต์กับสมาร์ทโฟนที่ใช้ webOS ได้ จากผลการทดสอบหลายเว็บไซต์แสดงความเห็นตรงกันว่า วิดีโอทีเล่นบน TouchPad จะมีคุณภาพสวยงาม คมชัด และลื่นไหลมากๆ แม้จะโหลดจาก YouTube ก็ตาม ในขณะเดียวกัน HP TouchPad ยังตอบโจทย์การใช้ท่องเว็บได้ดีพอสมควร เนื่องจากมันสนับสนุนการเล่นคอนเท็นต์ที่เป็น Flash Video ที่ iPad ไม่ซัพพอร์ตนั่นเอง โดยรวมมันสามารถแสดงผลเว็บได้เช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ทั่วไป
HP TouchPad มาพร้อมกับ OSK (On Screen Keyboard) ที่สามารถใช้พิมพ์งานเล็กๆ น้อยๆ อย่างการส่งอีเมล์ หรือ IM ตลอดจนการโพสต์ข้อความต่างๆ บน Social Network ได้สะดวกพอสมควร ในส่วนของแบตเตอรีหากท่องเน็ตผ่าน Wi-Fi จะได้นานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง หรือเล่นวิดีโอได้ 9 ชั่วโมง จุดเด่นทีทำให้ HP TouchPad แตกต่างจากของคู่แข่งอีกประการหนึ่งก็คือ ความสามารถในการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Palm Pre 3 เพื่อแชร์คอนเท็นต์อย่าง หน้่าเว็บต่างๆ วิดีโอ ตลอดจนข้อมูลที่ถูกส่งเข้ามายังสมาร์ทโฟนให้ขึ้นไปบนแท็บเล็ตได้ ในขณะเดียวก็สามารถตอบกลับจาก TouchPad ได้เช่นกัน ทั้งนี้อุปกรณ์ทั้งสองจะแชร์ข้อมูลผ่าน Bluetooth โดยการดึงเว็บไซต์จาก Pre 3 คุณจะต้องนำด้านหลังสมาร์ทโฟนมาไว้ใกล้ด้านล่างของหน้าจอ TouchPad อย่างไรก็ตาม Pre 3 จะวางตลาดช่วงไตรมาสที่สาม ฟังดูก็เป็นฟีเจอร์ที่น่าสนใจดี แต่คงต้องนึกถึงโอกาสในการใช้งานด้วยว่า จะได้ใช้ฟีเจอร์นี้บ่อยสักแค่ไหน?
ในส่วนของฟังก์ชัน Video Chat (แบบ FaceTime บน iPad) HP TouchPad จะมีกล้องด้านหน้าที่ทำงานร่วมกับ Skype สำหรับการใช้ video call โดยคุณภาพของภาพวิดีโอ และเสียงอยู่ในระดับพอใช้ ซึ่งเป็นมาตรฐานเดียวกับการใช้วิดีโอคอลล์ของ Skype บนแพลตฟอร์มอื่นๆ นอกจากแอพฯที่พรีโหลดมาใน TouchPad แล้ว วงจรธุรกิจของมันก็จะไม่ต่างกับแท็บเล็ตในท้องตลาดนั่นคือ HP มีหน้าร้านขายแอพฯด้วย ชื่อว่า App Catalog โดยในช่วงแรกของการเปิดตัวจะมีอย่างน้อย 300 แอพฯ ให้ใช้งาน แต่ก็สามารถโหลดแอพฯ บนสมาร์ทโฟนที่รัน webOS ซึ่งมีอยู่ 6,200 แอพฯ มาใช้ได้ประมาณ 70% ในขณะที่ iPad มีประมาณ 100,000 แอพฯ ส่วน Android ของ Google ซอฟต์แวร์ที่รันบนแท็บเล็ตได้จะมีมากถึง 200,00 แอพฯ ใน Android Market กล่าวโดยสรุป HP ยังคงต้องหาที่ยืนที่มั่นคงให้กับ TuchPad เช่นเดียวกับ"แท็บเล็ต"ของบริษัทผู้ผลิตรายอื่นๆ ในตลาด เพราะตอนนี้ คำว่า "แท็บเล็ต" กำลังจะหมายถึง iPad ไปเสียแล้ว
เว็บไซต์ในข่าว: HP TouchPad
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=413908