[เอ.อาร์.ไอ.พี, www.arip.co.th] รายงานข่าวล่าสุดจากบริษัท Trend Micro ระบุว่า ไอโฟนอาจมีความเสี่ยงต่อภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตมากกว่าที่หลายคนคาดคิด โดยผลจากการสำรวจผู้ใช้ไอโฟนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปจำนวน 1,000 ราย ส่วนใหญ่ยังคงคิดว่า การท่องเน็ตด้วยไอโฟนปลอดภัยกว่า แม้ไม่เท่ากับพีซีก็ตาม
ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ เมื่อเปรียบเทียบผู้ใช้ไอโฟนกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ ปรากฎว่า เจ้าของไอโฟนส่วนใหญ่ใช้มันในการท่องเว็บกันมากขึ้น ชอปปิ้งออนไลน์นานขึ้น การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์แชร์มีเดียต่างๆ และรับส่งอีเมล์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พวกเขาจะทำกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำผ่านทางการคลิ้กลิงค์ URL ซึ่งแฮคเกอร์ที่ไม่หวังดี และนักต้มตุ๋นออนไลน์สามารถใช้พฤติกรรมของผู้ใช้ไอโฟนในการแฮคข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
สำหรับรายละเอียดของผลสำรวจระบุว่า 44% ของผู้ร่วมคิดว่า การใช้อินเทอร์เน็ตบนไอโฟนมีความปลอดภัย แม้มันจะเท่ากับพีซีก็ตาม และมีเพียง 23% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเท่านั้นที่ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และ 20% ไม่เชื่อว่า การติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมจะช่วยป้องกันได้ นอกจากนี้ในจำนวนของผู้เข้าร่วมทำสำรวจในครั้งนี้ยังพบอีกด้วยว่า 20% เคยเผชิญกับรูปแบบการต้มตุ๋นในลักษณะฟิชชิ่ง (Phishing) บนไอโฟนมาแล้ว โดยพยายามหลอกล่อให้เหยื่อป้อนข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการเงิน ตลอดจนชื่อบัญชีผู้ใช้ และพาสเวิร์ด โดยมักจะพบในอีเมล์
นอกจากความไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามในลักษณะดังกล่าวของผู้ใช้ไอโฟนแล้ว ช่วงที่ผ่านมา ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับช่องโหว่ที่พบในระบบปฏิบัติการ iPhone 3.0 อย่างเช่น ช่องโหว่ SMS และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเมล์
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409742
Site : www.it4x.com
ข้อมูลที่ได้จากการสำรวจ เมื่อเปรียบเทียบผู้ใช้ไอโฟนกับสมาร์ทโฟนยี่ห้ออื่นๆ ปรากฎว่า เจ้าของไอโฟนส่วนใหญ่ใช้มันในการท่องเว็บกันมากขึ้น ชอปปิ้งออนไลน์นานขึ้น การเข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์แชร์มีเดียต่างๆ และรับส่งอีเมล์กันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้พวกเขาจะทำกิจกรรมดังกล่าวเป็นประจำผ่านทางการคลิ้กลิงค์ URL ซึ่งแฮคเกอร์ที่ไม่หวังดี และนักต้มตุ๋นออนไลน์สามารถใช้พฤติกรรมของผู้ใช้ไอโฟนในการแฮคข้อมูลได้อย่างง่ายดาย
สำหรับรายละเอียดของผลสำรวจระบุว่า 44% ของผู้ร่วมคิดว่า การใช้อินเทอร์เน็ตบนไอโฟนมีความปลอดภัย แม้มันจะเท่ากับพีซีก็ตาม และมีเพียง 23% ของผู้ใช้สมาร์ทโฟนเท่านั้นที่ได้ติดตั้งซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย และ 20% ไม่เชื่อว่า การติดตั้งซอฟต์แวร์เพิ่มเติมจะช่วยป้องกันได้ นอกจากนี้ในจำนวนของผู้เข้าร่วมทำสำรวจในครั้งนี้ยังพบอีกด้วยว่า 20% เคยเผชิญกับรูปแบบการต้มตุ๋นในลักษณะฟิชชิ่ง (Phishing) บนไอโฟนมาแล้ว โดยพยายามหลอกล่อให้เหยื่อป้อนข้อมูลส่วนบุคคล ข้อมูลการเงิน ตลอดจนชื่อบัญชีผู้ใช้ และพาสเวิร์ด โดยมักจะพบในอีเมล์
นอกจากความไม่ตระหนักถึงภัยคุกคามในลักษณะดังกล่าวของผู้ใช้ไอโฟนแล้ว ช่วงที่ผ่านมา ยังมีรายงานข่าวเกี่ยวกับช่องโหว่ที่พบในระบบปฏิบัติการ iPhone 3.0 อย่างเช่น ช่องโหว่ SMS และประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบเมล์
Credit : http://www.arip.co.th/news.php?id=409742
Site : www.it4x.com