ประเด็นคือ สิทธิบัตรไม่ได้คุ้ครองแค่เรื่องของเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเป็นเรื่องของดีไซน์ด้วย ซึ่งกรณี Apple ที่ชนะ Samsung เรื่องของดีไซน์ที่ทำให้คนเข้าใจผิดก็เป็นเหตุผลสำคัญของการชนะคดีครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม แม้ในทางเทคนิค สมาร์ทโฟนสามารถตรวจจับการตบ หรือตีเบาๆ บนตัวเครื่องได้อยู่แล้ว แต่สำหรับสิทธิบัตรของไมโครซอฟท์ที่จดในสหรัฐฯ จะใช้หัวข้อว่า "การควบคุมเสียงของอุปกรณ์" โดยนำเสนอแนวคิดของการทำงานที่ตรงไปตรงมา กล่าวคือ เมื่อสมาร์ทโฟนได้รับข้อมูลจากเซ็นเซอร์ตรวจจัคความเร่ง (accelerometer) มันจะนำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่ได้จากการตบเบาๆ ซึ่งหากว่าตรงกัน ระบบจะตัดสินใจปิดเสียงของลำโพงทันที
ข้อเท็จจริงก็คือ ไอเดียที่ปรากฎในสิทธิบัตรชิ้นนี้มีพื้นฐานการทำงานอยู่บนเซ็นเซอร์ accelerometer ที่พบได้ในสมาร์ทโฟนส่วนใหญ่อยู่แล้ว โดยสามารถเพิ่มคุณสมบัติการตบเพื่อปิดเสียงผ่านทางซอฟต์แวร์อัพเดทได้เลย ซึ่งสมาร์ทโฟน Nokia Mumia 920 ที่ทำงานด้วย Windows Phone 8 ก็จะมีฟีเจอร์นี้ด้วย การจดสิทธิบัตรนี้ จึงนอกจากจะเป็นการป้องกันไอเดีย (ที่เหมือนว่ามันไม่ได้มีอะไรใหม่) แล้ว มันยังเป็นการต่อกรกับ Google และ Apple ที่ขยันจดสิทธิบัตรไม่แพ้กัน เพราะหากใครละเมิดก็จะโดนฟ้องทันที อย่างไรก็ตาม ในสิทธิบัตรมีการใช้คำว่า audio control module ซึ่งน่าจะหมายถึง มันไม่ได้ใช้แค่ซอฟต์แวร์เท่านั้น แต่อาจหมายถึงฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม เพื่อให้การใช้งานในลักษณะดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=415575