ไมโครซอฟท์ประกาศเลิกซัพพอร์ตระบบปฏิบัติการ Windows XP SP2 และ Windows 2000 โดยจะไม่ออกอัพเดตใดๆ ให้กับโอเอสสองตัวนี้อีกต่อไป ซึ่งนั่นหมายความว่า หากมีการพบช่องโหว่ใดๆ หลังจากวันที่ 13 กรกฎาคมนี้ ผู้ใช้จะต้องรับผิดชอบตัวเอง Wilson Xavier ผู้บริหารกลุ่มธุรกิจ Windows Client ของไมโครซอฟท์กล่าวว่า "ผู้เขียนมัลแวร์ยังคงไม่หยุดที่จะตั้งเป้าโจมตีระบบปฎิบัติการ Windows XP ซึ่งไมโครซอฟท์กำลังจะเลิกอัพเดตไดรเวอร์ ตลอดจนอุดช่องโหว่ต่างๆ แล้ว (ปกติจะออกอัพเดตให้ทุกๆ วันอังคารที่สองของเดือน) ดังนั้นผู้ใช้อาจจะเสี่ยงต่อการโดนโจมตีจากผู้ไม่หวังดีเหล่านี้มากขึ้น"
"พีซีที่ติดไวรัสในองค์กรจะถูกตั้งค่าการทำงานโดยเหล่าวายร้ายไซเบอร์ด้วยมัลแวร์ที่ถูกส่งผ่านเข้าไปในเครือข่าย หรือในรูปของบอตเน็ตที่อยู่ในพีซีที่ติดไวรัสเครื่องอื่นๆ เพื่อใช้ในการส่งสแปม ขโมยข้อมูล ตลอดจนฉกบัญชีผู้ใช้ธนาคาออนไลน์" Wilson กล่าว Windows XP ได้ชื่อว่าเป็นโอเอสที่แข็งแรง และปลอดภัย อีกทั้งยังมีส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกสูงถึง 63% ตามด้วย Vista 21% และ Windows 7 อีก 9.4% อย่างไรก็ดี Wilson แนะนำวิธีที่ง่าย และเร็วที่สุดก็คือ อัพเกรดเป็น Service Pack 3 หรือไม่ก็เปลียนไปใช้ Windows 7 แต่การอัพเกรดเป็น Windows XP SP3 จริงๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เนื่องจากมันไม่สามารถอัพเกรดจาก XP ผู้ใช้จะต้องลงใหม่ การย้ายไป Windows 7 ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ในขณะที่เปลี่ยนไปใช้ SP3 จะไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนผู้ใช้ XP จะไม่มีทางเลือก เพราะหากไม่อัพเกรดไปใช้ SP3 หรือ Windows 7 ก็ไม่ปลอดภัยแน่นอน สุดท้ายต้องไม่ลืมว่า ไมโครซอฟท์จะสิ้นสุดการสนับสนุน Windows XP โดยสมบูรณ์ในวันที่ 8 เมษายน 2014
ข้อมูลจาก: gulfnews
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411636