Raspberry Pi เป็น"พีซี"ที่มีขนาดใหญ่กว่า"ไดรฟ์ยูเอสบี"ที่พกพากันทั่วไปเล็กน้อย โดยปลายด้านหนึ่งของมันจะเป็นพอร์ต HDMI ที่ใช้ต่อกับจอแสดงผลภายนอกสำหรับการเล่นคอนเท็นต์ฟูลไฮเดฟฯ 1080p บน HDTV หรือมอนิเตอร์พีซี ในขณะที่อีกด้านหนึ่งจะเป็นพอร์ต USB 2.0 สามารถเชื่อมต่อกับ USB hub เพื่อใช้ต่อกับอุปกรณ์อย่างเมาส์ หรือคีย์บอร์ดได้ แรงบันดาลใจของการออกแบบ Raspberry Pi มาจากโครงการ OLPC (One Laptop/Tablet Per Child) ที่ยังอาจจะสูงเกินไปสำหรับการมีให้เด็กๆ ในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาซื้อหามาใช้กัน (ต้นทุนอยู่ที่ 100 เหรียญฯ หรือประมาณ 3,000 บาท แต่ผลิตเสร็จอยู่ที่ 188 เหรียญฯ ประมาณ 5,700 บาท) Raspberry Pi ไม่เพียงแต่เปิดโอกาสให้เด็กๆ ได้พกพาคอมพิวเตอร์ของพวกเขาติดตัว(เหมือนพวงกุญแจ)ไปได้อย่างสะดวกสบายกว่าโน้ตบุ๊คแล้ว มันยังถูกกว่าด้วยต้นทุนการผลิตต่อเครื่องเพียง 25 เหรียญฯ หรือประมาณ 750 บาทเท่านั้น
Raspberry Pi ประกอบด้วยแผงวงจรหลักที่มาพร้อมกับพอร์ต HDMI บนปลายด้านหนึ่ง ส่วนปลายอีกด้านหนึ่งเป็นพอร์ต USB ด้านข้างของมันจะเป็นช่องอ่านการ์ดหน่วยความจำอย่าง SD/MMC/SDIO และสตอเรจทีเป็นหน่วยความจำแฟลช นอกจากนี้ยังมีพอร์ตสำหรับต่อเพิ่มการทำงานอย่างอื่นได้ด้วย เช่น โมดูลกล้อง 12 ล้านพิกเซล เป็นต้น ในส่วนของโพรเซสเซอร์ที่ใช้กับ Raspberry Pi จะเป็น ARM11 ความเร็ว 700MHz ที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ SDRAM 128MB มันยังมาพร้อมกับชิปประมวลผลกราฟิกที่ยังไม่มีการตั้งชื่อสนับสนุนการทำงานกราฟิกบน OpenGL ES 2.0 ส่วนระบบปฏิบัติการที่ทำงานบน Raspberry Pi จะเป็น Ubuntu ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สอย่าง เว็บบราวเซอร์ Iceweasel, โปรแกรมชุดออฟฟิศ Koffice และ Python
"เด็กๆ จะสามารถใช้ Raspberry Pi สำหรับการเป็นคอมพิวเตอร์ เพื่อเรียนรู้โปรแกรม อีกทั้งยังสามารถใช้งาน Twitter, Facebook และเว็บแอพฯ อื่นๆ ได้" Braden กล่าว "นอกจากนี้ เด็กๆ ยังสามารถเข้าใจการเขียนโปรแกรมได้จากการใช้ Raspberry Pi ด้วย" ทั้งนี้ Braden ได้เปิดตัวมูลนิธิ RaspBerry Pi ในสหราชอณาจักร เพื่อสนับสนุนพีซีจิ๋ว และเป้าหมายของมัน โดยคาดว่า Raspberry Pi จะถูกกระจายให้เกิดการใช้งาน UK และเด็กๆ ในกลุ่มประเทศที่กำลังพัฒนา อย่างไรก็ตาม ยังมีการเปิดเผยรายละเอียดที่ชัดเจนเกี่ยวกับกำหนดการวางตลาดของพีซีจิ๋วนี้แต่อย่างใด
ข้อมูลจาก: RaspberryPi
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=413607