Galaxy Gear นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเปิดไลน์อุปกรณ์ไอทีประเภทใหม่ของ Samsung และเสมือนเป็นการวางรากฐานให้กับแก็ดเจ็ตสวมใส่ที่จะเข้ามาแทนที่สมาร์ทโฟนในอนาคต แต่ด้วยข้อจำกัดหลายๆจุดจึงส่งผลให้ Galaxy Gear ไม่สามารถทำยอดขายได้อย่างที่ Samsung วาดฝันไว้
การแท็กทีมระหว่าง Galaxy Gear, Galaxy Note 3 และ Galaxy Note 10.1 (2014 Edition) เพื่อเชื่อมการใช้งานไปมาได้ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นที่ Samsung พยายามหยิบยกขึ้นมาดึงดูดลูกค้าที่กำลังต้องการสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตเครื่องใหม่ ประกอบกับมีของเล่นใหม่ที่้เข้ามาสนับสนุนการใช้งาน แต่ด้วยข้อจำกัดทั้งในเรื่องระบบปฏิบัติการในสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่จะต้องเป็น Android 4.3 Jelly Bean ขึ้นไป ทำให้ลูกค้าที่ใช้ Samsung Galaxy S รุ่นก่อนๆ ไม่สามารถสัมผัสประสบการณ์ของ Galaxy Gear ได้ รวมทั้งแอพพลิเคชั่นในนาฬิกาอัจฉริยะยังมีอยู่อย่างจำกัด ส่งผลกระทบทำให้ยอดขายตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาทำไปได้เพียง 50,000 เรือนเท่านั้น ตกเฉลี่ยนวันละ 800-900 เรือนต่อวันเท่านั้น
นอกจากข้อเสียที่กล่าวไปเบื้องต้นแล้ว น้ำหนักของตัว Galaxy Gear ยังมีมากเกินไปทำให้กลายเป็นอุปสรรคต่อลูกค้าบางราย ตลอดจนข้อจำกัดของแบตเตอรี่ที่จำเป็นต้องชาร์จทุกวัน ซึ่งถือเป็นปัญหาสำคัญที่ Samsung จำเป็นต้องเร่งแก้ไขในรุ่นต่อไปทันที
ทั้งนี้ทางผู้บริหาร Samsung เคยออกมายอมรับว่า Galaxy Gear เวอร์ชันแรกยังไม่ดีพอที่จะเอาชนะใจลูกค้าได้ !!!