ข่าวด่วนประจำวัน

เคล็ดลับ10 ข้อในการจำศัพท์ภาษาอังกฤษ

รู้สึก สมองตื้อทุกครั้งเมื่อนึกถึงการที่ต้องท่องจำศัพท์ภาษาอังกฤษซะมากมายใช่ มั้ย? ที่จริงการท่องศัพท์ไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ทำให้ปวดหัวหรือเหนื่อยใจเสมอไป หรอก เชิญอ่านเคล็ดลับในการเรียนศัพท์ดังต่อไปนี้แล้วนำไปใช้รับรองได้ผล !

ความเกี่ยวเนื่อง: ถ้าคุณจัดคำศัพท์ออกเป็นหมวดหมู่ขึ้นอยู่กับความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กัน ระหว่างศัพท์แล้วเขียนออกมาเป็นแผนผังจะทำให้คุณจำคำศัพท์ได้ง่ายขึ้น

เขียน: การนำคำศัพท์นั้นมาใช้จะทำให้คุณจำได้ฝังใจยิ่งขึ้น ลองเขียนแต่งประโยคโดยนำศัพท์ใหม่ที่เรียนนั้นมาประกอบหรือแต่งเรื่องโดยใช้ กลุ่มคำศัพท์หรือสำนวนที่เรียนอยู่

วาดรูป: ดึงวิญญาณศิลปินในตัวคุณออกมาใช้ โดยการวาดรูปที่แสดงถึงศัพท์ที่คุณเรียนอยู่ ภาพที่คุณวาดจะช่วยกระตุ้นความทรงจำถึงศัพท์นั้นในอนาคต

แสดง: แสดงท่าทางประกอบคำศัพท์หรือสำนวนที่คุณกำลังเรียนอยู่ หรือจินตนาการว่าคุณจะแสดงออกอย่างไรในสถานการณ์ที่คุณต้องใช้ศัพท์คำนั้น

สร้าง: ออกแบบ flashcards ศัพท์ภาษาอังกฤษพร้อมความหมายแล้วเปิดอ่านหรือท่องในยามว่าง ทำเล่มใหม่ขึ้นทุกอาทิตย์และอย่าลืมทบทวนอันเก่าไปพร้อมๆ กันด้วย

ความ สัมพันธ์: กำหนดแต่ละสีให้แต่ละคำศัพท์ ความสัมพันธ์ของแต่ละคู่จะช่วยให้คุณจำศัพท์นั้นได้แม่นขึ้นเมื่อนึกถึงคำ นั้นในคราวต่อไป

ฟัง: นึกถึงศัพท์คำอื่นที่ออกเสียงคล้ายๆ กับคำศัพท์ใหม่ที่คุณพยายามเรียนอยู่ ใช้ความสัมพันธ์ตรงจุดนี้ในการช่วยให้คุณจำการออกเสียงของคำใหม่นั้น

เลือก: จำไว้ว่าการเรียนในหัวข้อที่คุณชอบหรือสนใจจะทำให้คุณรู้สึกว่า มันง่ายขึ้น ฉะนั้นคุณควรใส่ใจในการเลือกคำศัพท์ที่คุณคิดว่ามีประโยชน์หรือน่าสนใจ เพราะแม้แต่กระบวนการเลือกคำที่จะเรียนก็มีผลให้คุณจำได้แม่นและเร็วขึ้น ด้วยเช่นกัน !

ข้อจำกัด: คุณก็รู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้หรอกที่คนเราจะจำศัพท์ที่มีอยู่ในดิกชันนารี่ ทั้งหมดได้ในวันเดียว เพราะฉะนั้นจำกัดการเรียนศัพท์ใหม่แค่วันละ 15 คำก็พอแล้ว ซึ่งถ้าพยายามจำให้มากคำเกินไปกว่านี้แทนที่มันจะทำให้คุณรู้สึกมั่นใจกลับ จะทำให้คุณสมองตื้อแทน

สังเกต: พยายามสังเกตหาคำ ศัพท์ที่คุณกำลังเรียนอยู่เมื่ออ่านหรือฟังภาษาอังกฤษ

ทรูมูฟเหนือชั้นออกซิมรีโมต

เลือกได้ 3 โปรเปลี่ยนได้ทุกวัน

ไอเดียจากนักศึกษาฝึกงาน ทรูมูฟออก ซิมรีโมต รองรับความต้องการของวัยรุ่นที่พกหลายซิมแต่มีเครื่องเดียว รวม 3 โปรโมชั่นไว้ในซิมเดียว
   
นายวิฑูรย์ เจียมศิริกาญจน์ รองผู้อำนวยการธุรกิจพรีเพด บริษัททรูมูฟ จำกัด ให้สัมภาษณ์ว่า ปัจจุบันซิมพรีเพดหรือซิมแบบเติมเงินของทรูมูฟมีลูกค้าประมาณ 14 ล้านราย ทั้งหมดเป็นลูกค้าที่ยังอยู่ในระบบและมีการเติมเงินตลอดเวลา การทำตลาดซิมโทรศัพท์มือถือในขณะนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่า และเน้นเจาะกลุ่มลูกค้าให้สามารถโทรฯหากันในเครือข่าย ได้ฟรี
   
สำหรับซิมพรีเพดของทรู ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดคือ โปรโมชั่นโทรฯฟรียกก๊วน ซึ่งทำให้มีอัตราการโทรฯภายในเครือข่ายเพิ่มสูงขึ้นถึง 70% จากเดิมมีเพียง 20-25% เท่านั้น ส่งผลให้ทรูมูฟประหยัดค่าเชื่อมต่อโครงข่ายจากปีละ 800 ล้านบาทเหลือประมาณ 100 ล้านบาท
   
ล่าสุดทรูมูฟ ได้เปิดตัวซิมรีโมต ซึ่งได้แนวคิดมาจากโครงการของนักศึกษาฝึกงานที่ไปสำรวจข้อมูลทำกิจกรรมการ ตลาด พบว่า กลุ่มนักศึกษาจะมีหลายซิม แต่มีโทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวหรือไม่มีเลย จะใช้วิธียืมเครื่องเพื่อนแทน จึงมีแนวคิดทำซิมรีโมต ราคา 49 บาท รวม 3 โปรโมชั่นไว้ในซิมเดียว เลือกโทรฯได้ตามความต้องการใช้งานและเปลี่ยนโปรโมชั่นได้ฟรีวันละ 1 ครั้ง.

แก๊งแขกขาวฉกเงินร้านทองกาฬสินธุ์5หมื่น
 แก๊งแขกขาวอาละวาดฉกเงินร้านทองกาฬสินธุ์ แฉ พฤติกรรมทำทีตีสนิทก่อนฉกเงิน 5 หมื่นหนี

พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ จันทรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ประเสริฐ ธรรมชัย สว.สส.สภ.เมืองกาฬสินธุ์ เดินทางเข้าสอบปากคำ นางสาวพัตร์สิชา วิมลศรีนราชัย อายุ 25 ปี เจ้าของร้านทองเยาวราช เลขที่ 301 ถ.กาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์หลังจากถูกแก๊งแขกขาวทำทีเข้ามาซื้อทอง และขอแลกเงินสุดท้ายแอบฉกเงินไป 50,000 บาท โดยนางสาวพัตร์สิชา เล่าว่า เมื่อวันที่ 14 ก.พ. ที่ผ่านมาได้มีชาวต่างชาติ ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นแขกขาว แต่งตัวดี สวมหมวก เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับทำทีซื้อต่างหู 1 คู่ ราคา 220 บาท บอกว่าจะเอาไปฝากภรรยาจากนั้นพยายามพูดจาหว่านล้อมต่างๆ โดยใช้ภาษาอังกฤษ และนำเงินแบงก์ 500 จำนวน 2 ใบ มาขอแลกเงินแบงก์พัน ที่มีอักษรหน้าหมายเลข เป็นตัว T 1 ใบเพราะกำลังสะสมอยู่ นางสาวพัตร์สิชา กล่าวต่อว่าหลังจากชายชาวต่างชาติดังกล่าวขอแลกเงินแล้ว ก็เดินตรงเข้ามาบริเวณลิ้นชักเก็บเงินพร้อมกับเอื้อมมือมาจับเงินที่ตนกำลังหาอักษรตัว T ให้จากนั้นไม่นานคนร้ายกลับทำทีโวยวายพูดจาไม่รู้เรื่อง และบอกว่าไม่ต้องการแลกเงินแล้ว พร้อมกับเดินออกไปจากร้านไป ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาทีโดยหลังจากคนร้ายเดินออกไปตนได้ไปดูลิ้นชักปรากฏว่าเงินหายไป50,000 บาท ซึ่งเชื่อว่าชาวต่างชาติดังกล่าวจะฉกไปจึงวิ่งออกไปแต่ตามคนร้ายไม่ทันหลังเกิดเหตุได้ไปดูภาพจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับล้างภาพมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อติดตามตัวมาดำเนินคดี

ด้าน พ.ต.อ.จักฎ์กฤษณ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาแก๊งแขกขาวไม่เคยเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ โดยส่วนใหญ่จะก่อเหตุกับร้านทองในกรุงเทพมหานคร แต่การปรากฏตัวและก่อเหตุครั้งนี้ จึงถือเป็นความผิดปกติที่บรรดาผู้ประกอบการร้านทอง หรือผู้ประกอบการในรายอื่นๆ จะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะพฤติการณ์ของแขกขาว มักจะทำทีเข้าตีสนิท และใช้คำพูดให้มึนงง ก่อนที่จะก่อเหตุ อย่างไรก็ตามจากหลักฐานภาพของเจ้าของร้านสามารถบันทึกภาพคนร้ายได้อย่างชัดเจน ทางเจ้าหน้าที่จะติดตามคนร้ายดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด

ยุ่นอนาจารผู้เยาว์พุ่ง

ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยว่า คดีทำอนาจารเด็กในญี่ปุ่นพุ่งขึ้นเกือบร้อยละ 40 ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ ท่ามกลางความพยายามของรัฐบาลที่จะปราบปรามการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศจากผู้เยาว์อย่างเข้มงวด

เจ้าหน้าที่ตำรวจ เปิดเผยว่า ปีที่แล้วมีคดีอนาจารเด็ก 935 ครั้ง สูงสุดนับตั้งแต่รวบรวมสถิติครั้งแรกเมื่อปี 2543 เพิ่มขึ้นจากปี 2551 ถึงร้อยละ 38  โดยมีเด็กตกเป็นเหยื่ออนาจารจำนวนทั้งสิ้น 411 คน และคดีนี้มีผู้ต้องหา 650 คนถูกอัยการสั่งฟ้องแล้ว
เลววววววววว

สงสัย ไม่ใช่ ชื่อแบงค์

พี่แก ชื่อ สรยุทธ์ หรือ ก้อ กนก

รายงานข่าวได้ เท่ส์ จิงๆ

สงสัย ไม่ใช่ ชื่อแบงค์

พี่แก ชื่อ สรยุทธ์ หรือ ก้อ กนก

รายงานข่าวได้ เท่ส์ จิงๆ

ความใฝ่ฝันในวัยเยาว์อยากเป็นทหาร
พอโตขึ้นอยากเป็นนักข่าว
เพราะชอบวิจารณ์คนอื่น

ดห พี่แบงค์



กลับมาจากทะเล ได้อ่านข่าวเพียบเลย




*ขออภัยทุกท่านๆที่ละเลยหน้าที่ไปนาน


เพราะมัวแต่พักอยู่


แต่หลังจากนี้จะทำหน้าที่ให้ดีเหมือนเดิม


คิคิ

ดห พี่แบงค์



กลับมาจากทะเล ได้อ่านข่าวเพียบเลย




*ขออภัยทุกท่านๆที่ละเลยหน้าที่ไปนาน


เพราะมัวแต่พักอยู่


แต่หลังจากนี้จะทำหน้าที่ให้ดีเหมือนเดิม


คิคิ

งืมๆ
มุนๆ
โต๊ะ!

"ไอ ซอฟท์"รุกร.พ. ติดตั้งระบบไอที



นายสนิท ศักดิ์เสรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ไอซอฟท์ โซลูชั่นส์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไอซอฟท์ กรุ๊ป ผู้ให้บริการด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์และนวัตกรรมธุรกิจสุขภาพ เปิดเผยว่า บริษัทได้เข้าไปติดตั้งระบบบริหารงานเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับโรงพยาบาลให้ กับโรงพยาบาลจักษุ รัตนิน เพื่อช่วยปรับปรุงระบบบริหารงานเดิมของโรงพยาบาลใหม่ทั้งหมดให้มี ประสิทธิภาพดีขึ้น ประกอบด้วยระบบบริหารจัดการข้อมูลสำหรับโรงพยาบาล ระบบจัดการธุรกิจด้านสุขภาพอัจฉริยะ และระบบบริหารจัดการด้านข้อมูล การเงิน และเวชภัณฑ์ จากก่อนหน้านี้บริษัทได้ติดตั้งระบบให้กับโรงพยาบาลศิริราชแล้ว ทั้งนี้ บริษัทเล็งเห็นถึงโอกาสทางธุรกิจ เนื่องจากระบบบริหารงานในโรงพยาบาลมีความจำเป็น และต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่เข้ามาช่วยบริการจัดการภาย ในโรงพยาบาลมากขึ้น โดยเชื่อว่าในช่วง 2-3 ปีจากนี้ไประบบไอทีจะเป็นที่ต้องการของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก

เอาข่าวยึดทรัพย์มาหน่อยๆจิ อยากอ่านรายละเอียด

สนมั้ย-อะไรสำคัญ??

และแล้วก็มาถึงโค้งสุดท้ายจริง ๆ ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้าง หน้าก็จะถึงวันที่ 26 ก.พ. 2553 วันที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำพิพากษา คดีทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทเศษ ของอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ว่าจะตกเป็นของแผ่นดินหรือไม่-อย่างไร
   
ในทางการเมือง...คดีนี้จุดกระแสใหญ่โตหลายรูปแบบ
   
ส่วนกับคนทำมาหากินทั่วไปคิดอย่างไร...มาดูกัน
   
“ติดตามข่าวอยู่ เพราะคดีดัง ยิ่งฟังก็ลุ้นเหมือนกันว่าเรื่องนี้จะจบลงแบบไหน ยึดหรือไม่ยึด คดีนี้อยู่ในความสนใจของคนทั่วไป ก็คงมีผลกับประเทศชาติโดยรวม แต่โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่ว่าการตัด สินของศาลจะออกมาแบบไหน ก็คงไม่มีผลกับอาชีพที่ทำอยู่” ...เป็น เสียงของ เจี๊ยบ-ศุภวดี กะทิพรมราช แม่ค้าเต้าหู้นมสด
   
อี๊ด-นิภา อยู่ประเสริฐ เจ้าของธุรกิจปลาทูนึ่งตลาดแม่กลอง รายนี้ก็มองว่า... “จะยึดทรัพย์หรือไม่ยึด ก็คงเป็นเรื่องของการเมือง ไม่เกี่ยวกับยอดขายปลาทูนึ่ง เราก็ยังคงขายปลาทูอยู่เหมือนเดิม”
   
ด้านแม่ค้าขายขนมไทยตลาดนัดกรมประมง ต้นอ้อ-ณภัคอร มณีโชติ บอกว่า... “นี่เป็นคดีดัง ถึงไม่สนใจก็ต้องเข้าหูให้ได้ยินทุก วัน วันที่ 26 ก.พ. นี้ ก็คงมีคนที่จดจ่ออยู่หน้าจอทีวีฟังคำตัดสิน  ว่าจะออกมาหมู่หรือจ่า ส่วนแม่ค้าพ่อค้าก็คงต้องสนใจต่อถึงเรื่องการชุมนุมประท้วง เพราะมีผลกระทบกับการค้าการขาย”
   
แม่ค้าอาหารตามสั่งหน้ามหาวิทยาลัยรังสิต รวมพร หมื่นอินกุล บอกว่า... “ต้องขายของทุกวัน แต่ก็พอรู้ข่าวคดีบ้าง ก็คิดว่าผลคดีนี้อาจจะมีผลกระทบต่อการขายของเหมือนทุกครั้งที่มีเหตุการณ์ ทางการเมือง ถ้าเป็นไปได้อยากขอให้ทุกคนช่วยกันทำให้บ้านเมืองเกิด ความสงบ พ่อค้าแม่ค้าจะได้ทำมาหากินกันสะดวก”
   
“ก็กังวลใจ กลัวเรื่องม็อบ เพราะทุกครั้งที่มีม็อบทำให้มี ผลกระทบกับยอดขาย เพราะคนไม่อยากออกจากบ้านมาซื้อของ” ...ส่วนนี่เป็นเสียงของ เกต-นันทวรรณ จุลนวล เจ้าของร้านชาชักสมิหลา
   
แต่ แดง-สุณี บัวศรี แม่ค้าขายข้าวเหนียวหมู-หมูปิ้ง กลับ บอกว่า... “ไม่สนใจ เพราะมันไม่เกี่ยวกับเรื่องปากเรื่องท้อง เห็นมีแต่คนพูด พูด พูด แล้วก็ทะเลาะกัน มันไร้สาระสิ้นดี ถามว่ารู้ไหมว่าจะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ ก็รู้ แต่ไม่สนใจ จะยึด ไม่ยึด เราก็ต้องขายของหากินไปเหมือนเดิม”
   
จากคนทำมาค้าขายฝ่ายหญิง ลองเปลี่ยนไปฟังฝ่ายชายบ้าง อนนท์ เนินทราย เจ้าของธุรกิจรับซ่อมคอมพิวเตอร์ย่านปทุมธานี ระบุว่า... “วันที่ 26 ก.พ. นี้ ถ้าถามว่าจะติดตามสถานการณ์ใกล้ชิดหรือไม่ คงไม่ ที่วิตกคือหลังวันตัดสินคดีไปแล้วมากกว่า เพราะเชื่อว่าจะตึงเครียดขึ้น บรรยากาศธุรกิจการค้าก็จะไม่คึกคัก”
   
ณรงค์ หมีสมุทร ผู้ประกอบการรับออกแบบและจัดสวน ย่านบางใหญ่ จ.นนทบุรี รายนี้บอกว่า... “สนใจการเมือง ติดตามข่าว สารอย่างต่อเนื่อง ส่วนคำตัดสินคดีวันที่ 26 ก.พ. หลายคนคงอยากจะรู้ว่าบทสรุปจะลงเอยอย่างไร แต่ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งทุกคนต้องเคารพและยอมรับ ผลกระทบทางลบจะได้ไม่เกิด...
   
ส่วนที่หลายคนกังวลใจกับวันที่ 26 ก.พ. ผมชอบคำพูดของ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ที่เตือนว่าวันที่ 26 ก็เป็นเพียงวันธรรมดาวันหนึ่ง สำคัญคือทุกคนต้องมีสติ แล้วท้ายที่สุดเราก็จะผ่าน มันไปได้”
   
ลองถามความเห็น สมบูรณ์ วงศ์พิมล ผู้ประกอบการผลิต กระปุกออมสินศิลปะจีน อยู่ที่ จ.ชลบุรี เขาบอกว่า... “ปกติก็ไม่ค่อยติดตามข่าวสารทางการเมืองมากนัก แต่ในวันที่ 26 ก.พ. นี้ คิดว่าหากพอมีเวลาว่างก็จะพยายามติดตามข่าวการตัดสินคดีเป็นระยะ ๆ แต่ก็คงไม่ถึงขนาดนั่งเฝ้าจอทีวีตลอดเวลา ซึ่งส่วนตัวคาดหวังว่าในวันนี้น่าจะมีบทสรุปและทำให้เกิดความชัดเจนบางอย่าง ขึ้น แต่ก็ยอมรับว่าลึก ๆ ก็หวั่นใจเหมือนกัน...
   
ถ้าเกิดความรุนแรงหรือมีเหตุการณ์ที่ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้นอีก ก็จะยิ่งส่งผลกระทบกับวิถีชีวิตของผู้คน แต่ส่วนตัวก็ยังหวังว่าคงจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงอย่างที่หลายฝ่ายกังวล”
   
สมศักดิ์ สุขธนกิจ ผู้ประกอบการผลิตกล่อง-หุ้มปกหนังสือโบราณ ย่านลาดพร้าว บอกว่า... “ถ้ามีเวลาก็คงจะติดตามข่าวคำตัด สินคดีวันที่ 26 ก.พ. ถามว่าเป็นวันสำคัญหรือไม่ ก็คิดว่าเป็นวันสำคัญ เพราะ หลังจากวันนี้เชื่อว่าจะต้องมีสัญญาณอะไรบางอย่างออกมาเพิ่มขึ้น ส่วนจะดีหรือร้าย จะรุนแรงหรือไม่รุนแรงนั้น คงตอบไม่ได้ แต่ก็หวังว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย หวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงอะไร”
   
ปิดท้ายที่ ต่อพงษ์ ตันตระโชติ ผู้ประกอบการผลิตตุ๊กตาโบว์ลิ่งไม้ ย่านจตุจักร ที่บอกว่า... “วันที่ 26 ก.พ. นี้คงจะเป็นวันที่เกี่ยวพันและมีผลกับสังคมไทยในระดับหนึ่ง ส่วนตัวแล้วก็ติดตามข่าวความเคลื่อนไหวเป็นระยะ ๆ และคิดว่าคงมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นในวันนั้น และหลังจากวันนั้น แต่จะดีขึ้น หรือแย่ลง คงตอบ  ไม่ได้...
   
แต่ถ้าถามในฐานะคนไทยคนหนึ่ง ก็หวังว่าเหตุการณ์คงไม่แย่หรือเลวร้ายจนถึงที่สุด เชื่อว่าทุกคนก็รักประเทศไทยเหมือน ๆ กัน คงจะไม่มีใครทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปมากกว่านี้”
   
คนไทยส่วนใหญ่ต่างก็อยากให้ “บ้านเมืองสุขสงบ”
   
“ความยุติธรรมทำให้เกิดได้” เมื่อทุกฝ่ายยอมรับ !!.

"อภิวันท์"ชี้"แม้ว"เกินทนรอมชอมคดียึดทรัพย์ อ้างถูกยื่นมือยื่นเท้าใส่ตลอด"พท."เตรียมหาทางช่วยถ้าแพ้

เผย"แม้ว"เกินทนรอมชอมคดียึดทรัพย์ อ้างถูกยื่นมือยื่นเท้าใส่ตลอด

 

ที่รัฐสภา  เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 25 กุมภาพันธ์  พ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยขับไล่เผด็จการแห่งชาติ (นปช.)และส.ส.เพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงท่าทีแข็งกร้าว ประกาศไม่ยอมรอมชอบกับศัตรูก่อนการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท ว่า พ.ต.ท. ทักษิณพยายามรอมชอมมาโดยตลอด แต่อีกฝ่ายไม่รอมชอมด้วย อีกฝ่ายเอาแต่ยื่นมือยื่นเท้าเข้ามา มันจะไปรอมชอมกันได้อย่างไร ตนคิดว่าขณะนี้ไม่ต้องเจรจาอะไรกันแล้ว แต่ต้องทำให้บ้านเมืองมีความเป็นธรรมและมีมาตรฐานะ เพื่อให้บ้านเมืองกลับเข้าสู่ภาวะปกติ


ปธ.วิปค้านรับหาทางช่วย "ทักษิณ" อยู่ เล็งแก้ กม.ระบบศาลเดียว

นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่าในวันที่ 26 ก.พ.ตนและส.ส.พรรคเพื่อไทย (พท.) คงติดตามและให้กำลัง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ต้องลุ้นคำพิพากษาคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาท เพราะเป็นที่เคารพของส.ส.เพื่อไทย


ผู้สื่อข่าวถาม ว่าฝ่ายความมั่นคงจับตาว่าส.ส.พท.อาจถือโอกาสใช้คำพิพากษาคดีนี้ปลุกระดม ประชาชนในแต่ละจังหวัด นายวิทยา กล่าวว่า "ก็รู้กันอยู่ว่าส.ส.พท.มี 189 คน ต้องถามกลับว่า ที่ทำกันอยู่ต้องดูกรอบกฎหมายด้วยว่ารัฐธรรมนูญให้สิทธิเสรีภาพอะไรอยู่ ไอ้พวกที่เอารถไปจอดซุ่มตามบ้านควรระมัดระวังด้วย ไม่เช่นนั้นหากมีการดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง จะเป็นอันตรายกับบุคคลเหล่านั้น"

               
เมื่อ ถามว่าหากคำพิพากษาไม่เป็นธรรมกับ พ.ต.ท.ทักษิณ เพื่อไทยจะช่วยเหลือย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ต้องว่ากันอีกที ตนไม่อยากก้าวล่วงอำนาจศาล แต่ทุกวันนี้ พท.กำลังดูช่องทางกฎหมายอยู่


เมื่อถามว่า เพื่อไทยจะช่วย พ.ต.ท.ทักษิณอย่างไร นายวิทยา กล่าวว่า ท่านก็มีสิทธิของท่านอยู่แล้ว แต่ต้องยอมรับว่าระบบศาลเดียวนั้นมีปัญหา ส่วนการอุทธรณ์หากศาลตัดสินว่า พ.ต.ท.ทักษิณคิดว่าทีมทนายความก็คงเตรียมการไว้แล้ว แต่ในส่วนของส.ส.พท.ซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติเห็นว่าบางเรื่องต้องมีการแก้ไข ต่อไปในอนาคต

พรุ่งนี้รอฟังศาลเหอะๆ

พันตำรวจโท ด็อกเตอร์ ทักษิณ ชินวัตร (ชื่อจีน: 丘達新 Qiū Dáxīn; 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2492 – ) นายกรัฐมนตรีของประเทศไทยคนที่ 23 และอดีตหัวหน้าพรรคไทยรักไทย ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2549 แต่พ้นจากตำแหน่งหลังจากเกิดเหตุการณ์รัฐประหารเมื่อวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2549 เดิมเคยรับราชการตำรวจ แล้วผันตัวเองมาเป็นนักธุรกิจกิจการโทรคมนาคม ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น และเคยเป็นประธานสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ซิตี และนับว่าเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในประเทศไทย ปัจจุบัน ถือสัญชาติของประเทศไทย นิคารากัว[1][2]  และมอนเตเนโกร[3][4]  ปัจจุบันดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของหลายประเทศ เช่น กัมพูชา นิคารากัว[ต้องการอ้างอิง]  มอนเตเนโกร[ต้องการอ้างอิง]  เป็นต้น

ในปี พ.ศ. 2537 พ.ต.ท.ดร.ทักษิณได้เข้าสู่การเมืองโดยสังกัดพรรคพลังธรรม ต่อมาจึงได้ก่อตั้งและเป็นหัวหน้าพรรคไทยรักไทยในปี พ.ศ. 2541 ในการเลือกตั้งทั่วไปปี พ.ศ. 2544 ซึ่งพรรคไทยรักไทยได้รับเสียงข้างมากในสภา เขาจึงดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นสมัยแรกและดำรงตำแหน่งจนครบวาระสี่ปี นับเป็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ดำรงตำแหน่งจน ครบวาระเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย และจากผลการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2548 ทำให้เขาได้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยที่สองด้วยคะแนนเสียงสูงที่สุด เป็นประวัติการณ์[5][6]

ในการทำงานทางการเมือง พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ได้รับความชื่นชมจากประชาชนกลุ่มหนึ่งว่า ทำให้ประเทศไทยสามารถนำเงินคงคลังจากรัฐบาลก่อนมาชดใช้หนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หลังจากบริหารประเทศในเวลาไม่นาน และมีโครงการประชานิยมต่างๆ ซึ่งส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ พันตำรวจโททักษิณถูกโจมตีจากประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งว่ามีการฉ้อราษฎร์บังหลวง มีผลประโยชน์ทับซ้อนหลายอย่าง รวมทั้งการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ในปัจจุบัน เขาถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี และถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี จากคดีที่ดินรัชดา แต่ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ หลบหนีคดีไปยังต่างประเทศ ทำให้เขาได้รับความเห็นใจจากผู้สนับสนุน และถูกโจมตีอย่างหนักจากผู้ต่อต้าน ปัจจุบันพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร ได้ถูกอายัดทรัพย์ในประเทศไทยประมาณ 76,000 ล้านบาท และโดนรัฐบาลสหราชอาณาจักรทำการอายัดในฐานฟอกเงินอีกกว่า 140,000 ล้านบาท

อาเฮียอยากรู้อ่ะ

ว่า ถ้ายึดทรัพย์แล้ว ตังที่ยึด จะไปอยู่ที่ใครอ่า