เคยได้บทความนี้เป็นไฟล์ powerpoint แต่มันหายไปและ เลยไปหามาใหม่แต่ไม่มีรูป
อันนี้ผลพลอยได้จากที่ไปหาข้างบนมา..
Good dream
+ + เธอคิดว่าแก้วน้ำใบนี้หนักเท่าไหร่ + +
ขณะที่ครูกำลังสอนนักเรียนของเขาในหัวข้อการจัดการกับแรงกดดันและความ เครียด
ครูได้หยิบแก้วน้ำใบหนึ่งขึ้นมาและถามนักเรียนว่า
“พวกเธอคิดว่าแก้วน้ำใบนี้หนักเท่าไหร่”
คำตอบของนักเรียนมีตั้งแต่ 20 กรัมถึง 500 กรัม
มันไม่ได้ขึ้นอยู่ กับน้ำหนักที่แท้จริงของแก้วว่าหนักเท่าไหร่
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเธอถือ มันไว้นานเท่าใด
ถ้าครูถือมันไว้เพียงหนึ่งนาที ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถ้า ครูถือมันไว้หนึ่งชั่วโมง แขนของครูก็จะปวด
ถ้าครูถือมันไว้หนึ่งวัน พวกเธอคงต้องเรียกรถพยาบาล
แม้ที่จริงจะเป็นน้ำหนักเดียวกัน
แต่ยิ่งฉันถือมันไว้นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหนักมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าเราแบกภาระ(ความทุกข์ ความหนักใจ ฯลฯ)ของเราไว้ตลอดเวลา ไม่ช้าก็เร็ว
ภาระนั้นจะยิ่งหนักขึ้นจนเราจะไม่ สามารถจะแบกมันไว้ได้อีก
ดัง นั้นสิ่งที่เธอต้องทำคือ วางแก้วนั้นลงซะ
พักสักระยะก่อนจะถือมันใหม่ อีกครั้ง
เราจะต้องวางสิ่งเราแบกไว้ลงเป็นระยะ
เราจึงจะสามารถฟื้น พลังขึ้นมาใหม่ และสามารถแบกมันได้อีกครั้ง
ดัง นั้นก่อนเธอจะกลับบ้านในคืนนี้
จงวางภาระของเธอลง
อย่านำมันกลับไป บ้านด้วย
เธอสามารถยกมันขึ้นมาใหม่ได้ในวันพรุ่งนี้
ไม่ว่าจะเป็น ภาระใดก็ตามที่เธอแบกอยู่ในตอนนี้
วางมันลงซะสักพัก ถ้าเธอทำได้
ค่อย ยกมันขึ้นมาใหม่เมื่อเธอได้พักแล้ว
ขอให้ผ่อนคลายและพักผ่อน
ชีวิต คนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุขกับมัน
ขณะที่ครูกำลังสอนนักเรียนของเขาในหัวข้อการจัดการกับแรงกดดันและความ เครียด
ครูได้หยิบแก้วน้ำใบหนึ่งขึ้นมาและถามนักเรียนว่า
“พวกเธอคิดว่าแก้วน้ำใบนี้หนักเท่าไหร่”
คำตอบของนักเรียนมีตั้งแต่ 20 กรัมถึง 500 กรัม
มันไม่ได้ขึ้นอยู่ กับน้ำหนักที่แท้จริงของแก้วว่าหนักเท่าไหร่
แต่ขึ้นอยู่กับว่าเธอถือ มันไว้นานเท่าใด
ถ้าครูถือมันไว้เพียงหนึ่งนาที ก็ไม่มีปัญหาอะไร
ถ้า ครูถือมันไว้หนึ่งชั่วโมง แขนของครูก็จะปวด
ถ้าครูถือมันไว้หนึ่งวัน พวกเธอคงต้องเรียกรถพยาบาล
แม้ที่จริงจะเป็นน้ำหนักเดียวกัน
แต่ยิ่งฉันถือมันไว้นานเท่าไหร่ มันก็ยิ่งหนักมากขึ้นเท่านั้น
ถ้าเราแบกภาระ(ความทุกข์ ความหนักใจ ฯลฯ)ของเราไว้ตลอดเวลา ไม่ช้าก็เร็ว
ภาระนั้นจะยิ่งหนักขึ้นจนเราจะไม่ สามารถจะแบกมันไว้ได้อีก
ดัง นั้นสิ่งที่เธอต้องทำคือ วางแก้วนั้นลงซะ
พักสักระยะก่อนจะถือมันใหม่ อีกครั้ง
เราจะต้องวางสิ่งเราแบกไว้ลงเป็นระยะ
เราจึงจะสามารถฟื้น พลังขึ้นมาใหม่ และสามารถแบกมันได้อีกครั้ง
ดัง นั้นก่อนเธอจะกลับบ้านในคืนนี้
จงวางภาระของเธอลง
อย่านำมันกลับไป บ้านด้วย
เธอสามารถยกมันขึ้นมาใหม่ได้ในวันพรุ่งนี้
ไม่ว่าจะเป็น ภาระใดก็ตามที่เธอแบกอยู่ในตอนนี้
วางมันลงซะสักพัก ถ้าเธอทำได้
ค่อย ยกมันขึ้นมาใหม่เมื่อเธอได้พักแล้ว
ขอให้ผ่อนคลายและพักผ่อน
ชีวิต คนเรานั้นสั้นนัก จงมีความสุขกับมัน
อันนี้ผลพลอยได้จากที่ไปหาข้างบนมา..
พ่อสอนลูก
ในค่ำคืนนึง...หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบแล้วบอกลูกว่า
"พ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมาก" ว่าแล้ว คุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้
พ่อถามว่า "อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือ พ่อ" ลูกพยักหน้า "ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที" ลูกทำตาม...
คุณพ่อว่า "ไม่พอ ต้อง 5 ที" และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์... ก็ลูกอยากทราบ นี่คะว่าเป็นอะไร
เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือเหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เองคุณพ่อหัวเราะ ! ! ! แล้ว กำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ย
ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที ลูกว่าหนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ คุณพ่อว่า เอ้า... เขก พื้น 1 ทีก็ได้ ลูกก็บอกว่าทราบแล้วไม่อยากดูอีกเบื่อค่ะ คุณพ่อว่าให้ดูฟรีๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง
คุณ พ่อเลยสอนว่า "นี่ละลูก อะไรที่เป็นความลับคนมักยอมทุกอย่าง ที่จะได้สมปรารถนาอยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อยๆแล้วก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลย
แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับ ลูกผู้หญิง เป็นสิ่งที่มีค่าถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก
ในค่ำคืนนึง...หลังจากกราบพระกับคุณพ่อ คุณแม่แล้ว คุณพ่อเรียกลูกเข้าไปพบแล้วบอกลูกว่า
"พ่อมีอะไรให้ดูซึ่งสำคัญมาก" ว่าแล้ว คุณพ่อก็หยิบอะไรบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อเอามือกำไว้
พ่อถามว่า "อยากรู้มั้ยว่ามีอะไรในมือ พ่อ" ลูกพยักหน้า "ถ้าอยากรู้ต้องเอามือเขกพื้น 3 ที" ลูกทำตาม...
คุณพ่อว่า "ไม่พอ ต้อง 5 ที" และเปลี่ยนเป็น 10 ที จนถึง 15 ที จนลูกอุทธรณ์... ก็ลูกอยากทราบ นี่คะว่าเป็นอะไร
เมื่อคุณพ่อแบมือออก มันคือเหรียญ 5 บาทธรรมดานี่เองคุณพ่อหัวเราะ ! ! ! แล้ว กำมือกับเหรียญ 5 บาทเดิม ถามว่าอยากดูอีกมั้ย
ถ้าอยากดูต้องเขกพื้น 10 ที ลูกว่าหนูรู้แล้วไม่อยากดูค่ะ คุณพ่อว่า เอ้า... เขก พื้น 1 ทีก็ได้ ลูกก็บอกว่าทราบแล้วไม่อยากดูอีกเบื่อค่ะ คุณพ่อว่าให้ดูฟรีๆ ก็ได้แล้วก็แบมือออก ลูกก็ดูไปอย่างนั้นเอง
คุณ พ่อเลยสอนว่า "นี่ละลูก อะไรที่เป็นความลับคนมักยอมทุกอย่าง ที่จะได้สมปรารถนาอยากดู อยากรู้ อยากเห็น แต่เมื่อสมปรารถนาแล้ว ดูบ่อยๆแล้วก็มักจะเบื่อ ให้ดูฟรี ๆ ยังไม่อยากดูเลย
แล้วสิ่งที่พึงหวงแหนสำหรับ ลูกผู้หญิง เป็นสิ่งที่มีค่าถ้าให้ใครรู้ก่อนเวลาอันควร ก็จะไม่มีค่าอะไร ไม่ต่างกับเหรียญ 5 บาทที่พ่อให้ลูกดูฟรีหรอก
Good dream