และหากคอมพิวเตอร์ของใครก็ตามติดไวรัส ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP อย่าง Telstra และ Optus จะสามารถตัดการเชื่อมต่อของผู้ใช้บริการได้ทันที โดยผู้ใช้บริการจะสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อีกครั้งก็ต่อเมื่อแก้ปัญหาดังกล่าวแล้ว เหล่านี้คือคำแนะนำที่มาจากการศึกษาที่ใช้เวลาประมาณหนึ่งปีสำหรับวิธีป้องกันปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งนำเสนอโดยคณะกรรมการด้านการสื่อสารของสภาผู้แทนราษฎร ผลลัพธ์จากการศึกษาทางคณะกรรมการได้จัดทำเป็นรายงานที่ความหนา 260 หน้าภายใต้หัวข้อ "แฮคเกอร์ นักต้มตุ๋น และบอตเน็ตกับการจัดการแก้ปัญหาอาชญากรรมคอมพิวเตอร์"
ในรายงานดังกล่าว ประธานคณะกรรมการฯ Beinda Neal กล่าวว่า ปัญหาอาชญกรรมคอมพิวเตอร์ได้เปลี่ยนเป็น"ระบบเศรษฐกิจใต้ดินที่มีความซับซ้อน"ไปแล้ว "ในช่วงทศวรรษทีผ่านมา อาชญกรรมคอมพิวเตอร์ได้ขยับขยายบทบาทจากการรบกวนของแฮคเกอร์ที่มีความชาญฉลาดไปสู่การจัดตั้งองค์กรอาชญากรรมที่มีเป้าหมายของการทำกำไรอย่างมหาศาล และมักจะลงท้ายด้วยความเสียหายที่เกิดขึ้นกับหยื่อของพวกมัน" Neal กล่าว ระหว่างที่ทำการศึกษาทางคณะกรรมการฯยังได้รับทราบถึงการจำนวนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ของชาวออสซี่ที่ตกเป็นเป้าหมายของอาชญกรรมคอมพิวเตอร์ และยิ่งความเร็วของอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเท่าใด ดูเหมือนสถานการณ์ก็ยิ่งเลวร้ายขึ้นมากเท่านั้น ซึ่งปัญหาอาชญกรรมคอมพิวเตอร์ได้ทำให้ธุรกิจของชาวออสเตรเลียเสียหายมากกว่า 649 ล้านเหรียญฯ (ประมาณ 2.1 หมื่นล้านบาท) ต่อปีเลยทีเดียว
ทางคณะกรรมการยังได้ศึกษาถึงตัวอย่างต่างๆ ของอาชญกรรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีทั้งการแฮค หรือเจาะข้อมูล ฟิชชิ่ง (Phishing) มัลแวร์ และบอตเน็ต โดยในคำแนะนำสำหรับหนทางการแก้ไข และปัองกันปัญหาไม่ให้ลุกลามไปกว่านี้มีอยู่ 34 ข้อด้วยกัน แต่ข้อแนะนำที่ดูจะเป็นประเด็นมีดังนี้
- เปิดสายช่วยเหลือ และร้องเรียนเกี่ยวกับอาชญกรรมคอมพิวเตอร์ 24 ชม.
- แก้ไขกฎหมายบังคับไม่อนุญาตให้มีการติดตั้งซอฟต์แวร์ผิดกฎหมาย
- บริษัทต่างๆ ที่ออกผลิตภัณฑ์ไอทีที่พบว่า มีช่องโหว่ของระบบรักษาความปลอดภัยจะต้องเปิดช่องทางให้ผู้บริโภคสามารถร้องเรียน และขอค่าชดเชยความเสียหายได้
นอกจากสามประเด็นนี้แล้ว ทางคณะกรรมการยังได้เสนอหลักเกณฑ์การปฏิบัติสำหรับ ISP ที่จะต้องมีให้กับลูกค้า โดยบริษัทผู้ให้บริการอย่าง Telstra จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับความปลอดภัยกับลูกค้า และแจ้งให้ลูกค้าทราบเมื่อพบว่าคอมพิวเตอร์ของลูกค้าติดไวรัส ซึ่งหลักเกณฑ์ปฏิบัติในส่วนนี้ ลูกค้าจะต้องติดตั้งซอฟต์แวร์แอนตี้ไวรัส และไฟร์วอลก่อนที่การเชื่อมต่อเน็ตจะได้รับกากระตุ้นให้ใช้งานได้ และจะต้องอัพเดตซอฟต์แวร์เหล่านี้ด้วย และหากคอมพิวเตอร์ของลูกค้าโดนเล่นงานจากมัลแวร์ ISP จะสามารถตัดการเชื่อมต่อของลูกค้ารายนั้นจากอินเทอร์เน็ตได้ทันทีจนกว่าคอมพิวเตอร์ของลูกค้าจะได้รับการแก้ไขให้ปลอดภัยจากมัลแวร์
ข้อมูลจาก: gizmodo
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411551