ด้วยยอดขายที่ถล่มทะลายของ iPad และ iPhone เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Apple รายงานบันทึกรายได้ประจไตรมาสที่สามของปีนี้ สิ้นสุดวันที่ 26 มิถุนายน ปรากฎกว่า Apple มีรายได้สูงถึง 15.7 พันล้านเหรียญฯ เติบโตมากกว่าถึง 61% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2009 ซึ่งทำได้แค่ 9.7 พันล้านเหรียญฯ การเติบโตของรายได้ประมาณ 78% โดยเพิ่มขึ้นเป็น 3.3 พันล้านเหรียญฯ จาก 1.8 พันล้านเหรียญภายในหนึ่งปี
ทางบริษัทได้ขาย iPhone ไป 8.4 ล้านเครื่องในช่วงที่ผ่านมา โดยยอดขายของ iPhone เพิ่มขึ้น 61% ทั้งนี้ทางบริษัทได้เปิดตัว iPhone 4 เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ก่อนปิดตัวเลขในไตรมาสนี้แค่ 2 วัน ดังนั้นรายได้ส่วนใหญ่ของไตรมาสที่สามน่าจะมาจากยอดขาย iPhone เวอร์ชันเก่า แม้ Apple จะไม่ได้แยกแยะตัวเลขรายได้ของแต่ละโมเดลก็ตาม
นอกจากนี้ ในวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา Apple เพิ่งประกาศความสำเร็จสำหรับยอดขายของ iPhone 4 ที่ทะลุ 3 ล้านเครื่องไปแล้ว แต่ก็ต้องเผชิญกับปัญหาการออกแบบเสาอากาศ ซึ่งทำให้สายหลุดเมื่อถือ iPhone 4 ในลักษณะที่มือสัมผัสโดนเสาอากาศ ซึ่งเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จอบส์ได้ออกแถลงการณ์ โดยกล่าวว่า ผู้ใช้ iPhone 4 ไม่ถึง 1% ที่รายงานผลกระทบปัญหาดังกล่าว ในขณะเดียวกันยอดคืนเครื่องของ iPhone 4 ไม่ถึงหนึ่งในสามของยอดคืน iPhone 3GS เสียด้วยซ้ำ อย่างไรก็ตาม Apple สัญญาว่าจะให้ปลอกใส่ iPhone 4 ฟรีกับลูกค้าทุกราย สำหรับการแก้ปัญหาดังกล่าว
และนอกจาก iPhone จะเป็นตัวเร่งยอดรายได้ให้กับ Apple ในไตรมาสนี้แล้ว พระเอกขี่ม้าขาวอีกตัวหนึ่งที่สร้างปาฎิหารย์ให้กับ Apple อีกครั้งก็คือ iPad ซึ่งเปิดตัวเมื่อวันที่ 3 เมษายนที่ผ่านมา ปรากฎว่า มันมียอดขายถึง 3.27 ล้านเครื่องแล้ว ในขณะเดียวกัน ยอดขาย Mac ในช่วงไตรมาสนี้ยังสูงถึง 3.47 เครื่อง โดยคิดเป็นอัตรการเติบโต 33% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ในขณะเดียวกันยอดขาย iPod ลดลง 8% เหลือแค่ 9.41 ล้านเครื่อง ก่อนหน้านี้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า iPad จะส่งผลกระทบกับยอดขาย Mac หรือไม่? ตัวเลขที่ออกมาได้พิสูจน์แล้วว่า มันไม่ได้มีผลกระทบต่อกันเลย เพราะยอดขายของ Mac ยังคงโตขึ้นด้วย
ข้อมูลจาก: engadget
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://www.arip.co.th/news.php?id=411762