สำหรับยอดจำหน่ายคอมิวเตอร์ทั่วโลกในไตรมาสสุดท้ายของปีที่ผ่านมาเติบโตแค่ 2.7% เทียบกับที่จากเดิมตั้งไว้ 5.5% (หายไปกว่า 2.8%) ทั้งนี้ยอดส่งมอบพีซีในไตรมาสที่สี่จากโรงงานผลิตมีแค่ 92.1 ล้านเครื่อง สรุปจนถึงสิ้นปี 2010 มียอดรวมของพีซีเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคทั้งสิ้น 346.2 ล้านเครื่อง เพิ่มขึ้นจากปี 2009 ประมาณ 13.6% ในส่วนของเหตุผลของการหดตัวของตลาดพีซีในช่วงปลายปีที่ผ่านมานั้น David Doud ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของ IDC โทษว่าเป็นเพราะ iPad ของ Apple และยอดขายที่โตกว่าปกิตในช่วงปลายปี 2009 อันเป็นผลมาจากการเปิดตัว Windows 7
"การเติบโตของพีซีในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2010 เกิดจากความต้องการที่ลดลง และการแข่งขันจากอุปกรณ์ใหม่ที่มาแรงอย่าง iPad ซึ่งทั้งสองส่วนนี้ทำให้ยอดพีซีตกลงไป นอกจากนี้ ประสบการณ์ในความรู้สึกพอเพียงสำหรับประสิทฺธิภาพของคอมพิวเตอร์ทีใช้ยังแผ่ขยายไปในวงกว้าง อีกทั้งอุปกรณ์ที่เป็นคู่แข่ง (แม้จะใช้งานแทนไม่ได้ 100%) กลับตอบโจทย์เรื่องความคุ้มค่าต่อเม็ดเงินที่จ่ายได้ สถานการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในปี 2011 ด้วยสาเหตุสำคัญคือ มีเดียแท็บเล็ตกำลังจะกินตลาดพีซี" Doud กล่าวในรายงาน ความต้องการพีซีในประเทศแถบเอเซีย (ไม่รวมญ๊่ปุ่น) จะตกลงเหลือต่ำกว่าสิบเปอร์เซนต์ ในขณะที่ปีก่อนๆ มันมีสูงถึง 30% เลยทีเดียว เฉพาะในสหรัฐ การเติบโตในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2010 ตกลงจากปีที่แล้ว 4.8%
อย่างไรก็ดี ในขณะที่อัตราการเติบโตของยอดขายพีซีในไตรมาสที่ 4 จะลดลง แต่ผู้ผลิตพีซีอย่าง Lenovo และ Toshiba สามารถเพิ่มทำยอดขายได้เพิ่มขึ้น ส่วน Dell, HP และ Acer มียอดขายที่ลดลง ข้อมูลจาก IDC สรุปได้ตามตารางข้างล่างนี้
ข้อมูลจาก: businesswire
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://arip.co.th/news.php?id=412992