สำหรับเทคนิคในการแฮคของสองนักวิจัยจะใช้ความสามารถของกล้องด้านหน้าที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งสองอย่าง ทำงานร่วมกับโค้ดโปรแกรม เพื่อตรวจจับตำแหน่งการมองของผู้ใช้ เพื่อสร้างภาพ 3D ขึ้นมา ในส่วนของความแตกต่างในการแฮค กรณีของ Lee จะใช้ IR LED (หลอดอินฟราเรด) เนื่องจากมันเป็นสิ่งเดียวที่ Wiimote สามารถตรวจจับ และติดตามได้ แต่ด้วยโปรแกรมของ Francone และ Nigay จะสามารถตรวจจับคุณสมบัติ หรือป้าย (tag) ของวัตถุที่ต้องการให้ติดตามได้ ซึ่งจะคล้ายๆ กับวิธีการทำงานของ Kinect แต่ที่เจ๋งมากๆ คือ มันใช้แค่กล้องหน้าของ iPhone 4 และ iPad 2 เท่านั้น โดยไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์ Accelerometer (ตรววจับความเร่ง 3 แกนที่เกิดขึ้นจากการจับอุปกรณ์ iOS ทั้งสอง เอียง หน้า คว่ำ หงาย ตะแคง หมุน ฯลฯ)
ไอเดียในการสร้างเอฟเฟกต์ 3D ให้กับ iPhone 4 และ iPad 2 สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับแอพพลิเคชันต่างๆ ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะเกมส์ หรือการสร้างสรรค์แอพพลิเคชัน AR (Augmented Reality) จากกล้องด้านหลังให้ทำงานร่วมกับกล้องด้านหน้า ซึ่งเชื่อว่า ไอเดียนี้จะทำให้เราได้มีโอกาสเห็นแอพที่มีการทำงานน่าอัศจรรย์กว่าที่เคยเห็นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน ส่วนตอนนี้ ไปชมคลิปสาธิตการทำงานของมันบน iPad 2 และ iPhone 4 กันเลยดีกว่าครับ
ข้อมูลจาก: iihm
แสดงบนเว็บไซด์ : http://www.it4x.com
ที่อยู่ของข้อความต้นฉบับ: http://arip.co.th/news.php?id=413516